“บีม ศรัณยู” ซิ่งเก๋งชนแล้วหนี ก่อนถูกตำรวจจับกุม ค้นรถเจออาวุธปืน วิทยุสื่อสารครบครัน เจ้าตัวอ้างเป็นอุปกรณ์เล่นบีบีกันและถ่ายละคร ยันไม่เมาและเปล่าพกทำร้ายใคร เผยเคลียร์ตำรวจผู้ใหญ่หมดแล้ว พร้อมยื่นหลักทรัพย์ 1.2 แสนบาทประกันตัว
ปกติมีภาพลักษณ์เป็นแบดบอยประจำวงการอยู่แล้ว ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.วันนี้ (25 พ.ย.) ไฮโซ-ดีเจหนุ่มแห่งคลื่นเวอร์จิ้น ฮิตซ์ 95.5 “บีม ศรัณยู ประชากริช” วัย 27 ปี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สามเสนทำการจับกุม หลังขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ หมายเลขทะเบียน ฌป 66 กรุงเทพมหานคร ไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ หมายเลขทะเบียน สน 7575 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของนายพรศักดิ์ สินไพบูลย์ผล บริเวณทางเข้าโรงเรียนวชิราวุธ ถ.ราชวิถี จากนั้นได้มีการตกลงกันจะไปพบพนักงานสอบสวนที่สน.ดุสิต แต่ปรากฏไฮโซหนุ่มได้ขับรถหลบหนีมาทางถ.สามเสน นายพรศักดิ์จึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุม
ซึ่งภายหลังมีการตรวจค้นรถยนต์ของไฮโซหนุ่ม พบว่ามีการตกแต่งคล้ายรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพบของกลางเป็นอาวุธปืน ออโตเมติก ยี่ห้อ โคลท์ ขนาด .22 หมายเลขทะเบียน กท.596314 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนปืน ขนาด .22 จำนวน 16 นัด, เครื่องช๊อตไฟฟ้า 1 อัน, หน้ากากป้องกันแก๊ส 2 อัน, วิทยุสื่อสารยี่ห้อโมโตโรล่า 1 เครื่อง และวิทยุสื่อสารติดรถยนต์ยี่ห้อ ไอคอม 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว "บีม ศรัณยู" พร้อมของกลางไปที่สน.สามเสน พร้อมแจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ มีวิทยุโทรคมนาคมไว้ในครอบครอง และติดตั้งสัญญาณไฟวับวาบโดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นไฮโซหนุ่มได้ถูกย้ายตัวไปสอบสวนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล 1 หรือบชน.1 โดยให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหาว่า ได้มีการตบแต่งรถยนต์ดังกล่าว เพื่อไว้ใช้ในการนำผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อความสะดวกในการเดินทาง ก่อนจะถูกส่งตัวกลับมาสอบสวนต่อที่สน.สามเสนอีกครั้ง
ทั้งนี้พ.ต.ท.ชยุธ มารยาทตร์ รอง ผกก.สส.สน.สามเสน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีดังกล่าวเผยว่า คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน และจะมีการตรวจสอบอีกครั้งว่า ตามที่ไฮโซหนุ่มให้การมาเป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากพบสิ่งใดผิดก็ต้องว่าไปตามผิด ก็จะให้ความเป็นธรรมในการดำเนินคดี
"เรื่องรถต้องมีการตรวจสอบดูตามที่คุณศรัณยูให้การว่า มันเป็นไปตามนั้นมั้ย ต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริง และต้องสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ตอนนี้ข้อหาที่แจ้งไว้มีอาวุธปืน เรื่องของวิทยุโทรคมนาคม แล้วก็เรื่องของการติดสัญญาณไซเรน ซึ่งถ้าบอกว่าเป็นรถที่ใช้ในการแสดง เราก็ต้องมาสอบสวนดูว่าจริงหรือไม่จริง แต่ตอนนี้เราต้องแจ้งข้อหาตามนี้ไปก่อน ส่วนชื่อของผู้ครอบครองรถ เรายังไม่ได้สอบสวนไปถึงตรงจุดนี้ ก็ต้องรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปคดีอีกทีนึง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการจับกุมแจ้งข้อหา ถ้าคุณบีมต้องการประกันตัวก็เอาหลักประกันมาว่า จะประกันตัวยังไง จะใช้เงินสดหรือใช้บุคคลประกันตัว เราก็จะพิจารณาดูหลักทรัพย์อีกที ซึ่งคดีนี้ใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดหนึ่งแสนสองหมื่นบาทในการประกันตัว"
ด้านไฮโซ-ดีเจหนุ่มกล่าวว่า เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ตนไม่ได้ตั้งใจแหกด่านตำรวจเพื่อหลบหนี และที่พกพาอาวุธปืนก็เพราะใช้ในการแสดงและป้องกันตัวเท่านั้น
“มันเป็นการเข้าใจผิดกัน แต่เบื้องต้นก็ต้องทำรูปคดีไว้ก่อน ซึ่งตรงนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราบริสุทธิ์ใจ ไม่ต้องมานั่งแก้ตัวอะไร ส่วนเรื่องแหกด่านนี่ไม่ใช่เลย พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย และเผอิญเราไม่รู้ว่าเป็นสน.ท้องที่ดุสิต เรานึกว่าเป็นสามเสนก็เลยขับมาที่นี่ แล้วก็ได้นัดแนะกับทางเจ้าของรถคันนั้นแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ได้เป็นการหลบหนีแน่นอน เคลียร์กันได้ตั้งแต่ตอนเช้าแล้วครับ”
“ส่วนที่พกพาอาวุธก็เป็นอุปกรณ์เล่นบีบีกัน แล้วก็ถ่ายละครทั้งหมด มันเป็นอาวุธปืนที่ใช้ในการแสดงครับ เพราะปกติเวลาไปถ่ายละครดึกๆ แล้วช่วงนี้เห็นข่าวแรงมากในเรื่องของอาชญากรรม ผมก็เลยพกไว้ แต่ปืนอันนี้เราไม่เคยเอาออกมาใช้อะไรเลย เป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายด้วย ใบอนุญาตพกพาต้องเรียกว่าเราไม่เคยเอาออกมาใช้ คือเอาไว้ใช้ประกอบการแสดงบ้าง ก็ไม่มีปัญหาในการใช้แน่นอน ซึ่งเรื่องนี้ผมได้เคลียร์กับทางผู้ใหญ่ทางตำรวจหมดแล้ว ส่วนเรื่องรถก็แน่นอน มันเป็นอุปกรณ์ในการเล่นละครเหมือนกัน เขาก็เคลียร์และเช็คเรียบร้อยแล้ว ก็ไม่มีปัญหาอะไร”
เผยกำลังจะเดินทางไปแข่งรถที่บางแสน แต่มาเกิดอุบัติเหตุและถูกจับซะก่อน ซึ่งก็ได้แจ้งให้ทางต้นสังกัดทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้ว
“ผมกำลังจะเดินทางไปบางแสน ไปแข่งรถในรายการบางแสนเฟสติวัล แต่ก็มาติดอยู่ตรงนี้ ก็ดีครับถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างนึง ที่เรียกว่าสะดุดดูแล้วก็เข้าใจปัญหาชีวิตมากขึ้น (เอารถจากกองถ่ายไปแข่งเหรอ) ใช่ครับ.....ไม่ใช่ครับ คือรถคันนี้มีไว้ถ่ายละครอยู่แล้ว ก็ไม่ได้มีเจตนาอะไร ก็ได้คุยกับทางผู้กำกับการ และรองผู้กำกับการสน.สามเสน และผู้ใหญ่ทางบชน.1 แล้วก็ไม่มีอะไร ทุกอย่างเคลียร์”
“ส่วนผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ผมก็ให้ผู้จัดการโทรไปหาแล้ว ทางเวอร์จิ้นเรดิโอก็ไม่มีปัญหาเหมือนกัน ผู้ใหญ่ก็เข้าใจว่า ทุกคนอาจจะมีสะดุดบ้างในชีวิต เรื่องพวกนี้เราไม่มีเจตนาในการทำผิด ฉะนั้นคงไม่เป็นไร ยืนยันว่าผมไม่ได้เมาแน่นอน 9 โมงเช้าผมไม่มีทางเมาครับ"
“เรื่องคดีตอนนี้อยู่ในขั้นของผู้ใหญ่ดูกัน ถ้าทุกอย่างถูกต้องก็ไม่มีความน่ากลัวอะไร เบื้องต้นก็โดนข้อหาพกพา ซึ่งเจตนาหรือไม่เจตนาเราพกพาไว้ก็เป็นไปตามหลักของกฏหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นก็ไม่เป็นไรครับ เราไม่มีเจตนาจะไปทำอะไรใคร ก็ไม่เป็นไร ผมก็คงประกันตัวภายในวันนี้แน่นอน”
ออกปากขอโทษ “แทค ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม” ที่โดนเข้าใจผิดแทนตนตอนแรกว่า เป็นคนก่อเหตุดังกล่าว
“ตอนแรกคิดว่าเป็นแทคเหรอ ไม่ทราบเลยครับ เพราะทั้งวันนี่ก็ลำบาก (หัวเราะ) อันนี้ไม่ขอพูด แต่ก็ขอโทษแทคด้วยนะ ถ้าสมมติมีปัญหาอะไรกับของเขา ผมเองทำงานอยู่ในวงการ ก็พยายามตั้งใจทำเต็มที่เพื่อให้ประชาชนได้รับแต่เสียงหัวเราะ แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียใจนิดหน่อยครับ”
เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540 ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000 *ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก |