“แม่บ้าน” ปล่อยโฮ โดน “นาธาน” เบี้ยวเงินไม่ยอมจ่ายหนี้ เสียใจอุตส่าห์เอาที่ดินไปจำนองจนสมบัติหมดตัว สุดสะเทือนใจเห็นแม่วัย 80ร้องไห้ไม่มีเงินซื้อข้าวกิน เพราะต้องเอาเงินไปผ่อนดอกแทนนาธาน เผยนาธานเองก็รู้ดีว่าครอบครัวของตนลำบากแต่ก็ใจดำทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ ซ้ำยังยุให้ไปตบคนที่ทวงหนี้ หมดหนทางทำมาหากิน
หลังจากที่ “แจ็ค อาทิตย์ กุลฝ้าย” ลูกชายของ “สมาน สุขเสริม” แม่บ้านที่อยู่กับ “นาธาน โอร์มาน” ออกมาเปิดประเด็นเรื่องโดนนาธานบอกให้เอาที่ดินไปจำนองและกู้เงินนอกระบบอีกหลายครั้งจนเป็นหนี้กว่า 3 แสน โดยมีการกล่าวอ้างว่าจะนำเงินที่ได้จากการโกอินเตอร์เล่นหนังฮอลลีวู้ดมาใช้คืนในภายหลัง แต่ปรากฏว่ากลับไม่ใช่ทั้งต้นทั้งดอก แถมยังมีแพลนจะบินไปอยู่กับน้องสาวที่ต่างประเทศเร็วๆ นี้ เป็นเหตุให้สองแม่ลูกต้องออกมาเรียกร้องผ่านสื่อ พร้อมทั้งเข้าแจ้งความเอาผิดกับนาธาน
เมื่อวาน(6/พ.ย/52) ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์ได้ทำการสัมภาษณ์แจ็คถึงเรื่องดังกล่าวจนกลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันที และวันนี้สองแม่ลูกก็พร้อมเปิดใจกับ ASTV บันเทิงผู้จัดการออนไลน์อีกครั้งด้วยน้ำตาพรั่งพรู
“ที่ต้องพูดวันนี้เพราะฟางเส้นสุดท้ายมันหมดไปเมื่อวานนี้ เขาเข้ามาขนของออกไปจากคอนโดโดยที่ไม่สนใจเราเลย ไม่พูดเรื่องหนี้สินสักคำ ที่ผ่านมาเราก็เชื่อและไว้ใจเขามาตลอด เขาบอกให้เราไปกู้เงินเดี๋ยวไปเล่นหนังแล้วจะให้คืนเราก็เลยไปทำให้เขา เราเชื่อเขาเชื่อมากเลย คิดว่าเขาคงไม่โกหกเพราะเราก็อยู่กับเขามานาน อยู่ตั้งแต่ลูกคนนี้(หันไปมองแจ็ค) อายุ 15 ปี ลูกคนเล็กอายุ 7 – 8 ขวบ แต่พอมันเป็นแบบนี้เราก็ต้องออกมาพึ่งสื่อ”
เต็มเปิดใจถึงประเด็นในการที่ออกมาดับเครื่องชนกับ “นาธาน” เด็กหนุ่มที่เต็มรักเหมือนลูก และลำบากมาด้วยกันนับ 10 ปี ก่อนจะเปิดเผยถึงความสัมพันธ์และเรื่องราวทั้งหมดแบบลึกสุดใจว่า...
“เมื่อก่อนเคยอยู่กับเจ้านายเก่าคือคุณเต้ เขามีบ้านที่ไม่ได้ใช้ก็เลยให้เรามาอยู่กับลูกเพราะสงสารที่เราไม่มีสามี ก็ให้มาดูแล จากนั้นก็มารู้จักกับครูแหม่ม พิศมัย สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ครูแหม่มเป็นเพื่อนกับเต้แล้วก็เป็นคนที่นาธานบอกว่าเป็นแม่บุญธรรม แล้วคุณเต้ก็บอกว่า เดี๋ยวจะมีเพื่อนมาอยู่ด้วยนะ พี่เต็มก็ดูแลเขาหน่อยนะ เราเองก็เป็นแม่บ้านอยู่แล้วก็เลยดูแลซักผ้าให้ มีอะไรก็แบ่งปันกันกิน”
“เราก็คิดว่าเขาเป็นลูกเขามาอยู่ในครอบครัวเรา เขาก็บอกว่า เขาไม่มีใคร เขาอยู่ตัวคนเดียว พ่อแม่เขาอยู่ต่างประเทศ ก็อยู่ด้วยกันมาสักพักเขาก็ย้ายออกมาอยู่แถวสตรีวิทยา ก็ผ่านไปปีกว่าเขาก็มาออกอัลบั้มชุดที่ 2 ตอนนั้นเรากลับไปอยู่ที่บ้านต่างจังหวัด แล้วก็ได้ดูทีวีรู้สึกภูมิใจ เด็กคนนี้เป็นเด็กดีนะ เด็กๆ ลูกเราก็รักเขาทุกคน พี่นาธานออกเทปอีกแล้วแม่”
“พอเขาเดินสายไปโปรโมตเทปเขาก็ติดต่อมาหาบอกให้เราไปหาเขาที่สถานีวิทยุ เราก็ไปเจอเขา พักหนึ่งเขาก็โทรมาหาชวนไปอยู่บ้านด้วย เขาบอกว่าเขาซื้อบ้านแล้วนะ เราก็เลยเข้ากรุงเทพฯมาอยู่กับเขาอีก โดยตกลงกันว่าจะให้เงินเดือน 8 พัน”
“แต่ปรากฏว่าเขาก็ไม่ได้ซื้อจริงๆ เขาเช่าบ้าน เราไปอยู่กับเขาได้เดือนเดียวก็กลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ไปเกี่ยวข้าว เขาก็ให้เงินมา 5 พัน ตอนนั้นเขาก็ร้องห่มร้องไห้ว่า ธานเสียใจนะเอาพี่มาลำบากอีกแล้ว”
“พอกลับไปอยู่บ้านต่างจังหวัดสักพักเราก็ทำนาไม่ไหว ก็ต้องย้ายครอบครัวมาที่กรุงเทพฯอีก ตอนแรกก็ว่าจะไปอยู่ที่อื่นเขาก็บอกว่า พี่เต็มมาซักผ้าอะไรให้ธานหน่อย เราก็เลยย้ายมาอยู่กับเขาแต่ขณะเดียวกันเราก็ยังทำงานที่ข้างนอกอยู่ พอกลับมาบ้านเราก็มาทำกับข้าวให้เขากิน อยู่ในฐานะแม่บ้านและก็อยู่ในฐานะครอบครัว เราก็รักกันเหมือนพี่เหมือนน้อง เขารักเราเหมือนแม่นม ซึ่งเขาก็รักเราจริงๆ นะ มีปัญหาอะไรเขาก็เล่าให้ฟัง ร้องไห้กับเรา มีทุกข์สุขอะไรก็เล่าให้กันฟังหมด ทางบ้านของเราก็รู้จักเขาหมดทุกคน”
แจ็ค : “พอแม่มาอยู่กับนาธาน แม่เขาก็ยังต้องไปทำงานข้างนอกอยู่ เพราะบางทีเงินเดือนก็ได้บ้างไม่ได้บ้างตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งจะให้ทางแม่มานั่งรอก็ไม่ได้ เราจะต้องกินต้องใช้ ไหนจะยายที่บ้าน ไหนจะน้องอีกล่ะ คือจะว่าไปแล้วมันก็ไม่ได้อยู่กันแบบเจ้านายลูกน้อง อยู่กันเหมือนพี่น้องมากกว่า รักใคร่ชอบพอกัน ไม่ว่าจะย้ายของไปอยู่ที่ไหนเราก็ย้ายไปอยู่ด้วยโดยตลอด”
เต็ม : ชีวิตเราลำบากมาด้วยกัน ตอนย้ายมาอยู่แถวสตรีวิทยาไม่มีอะไรเลย มาอยู่แบบมีหมอนใบเดียว ตอนนั้นเขาเพิ่งเข้าวงการใหม่ๆ ก็ไม่ค่อยมีอะไร พอกลับมาอยู่กับเขาอีกครั้งชีวิตเขาถึงเริ่มดีขึ้น วันนั้นเขาขับรถมารับเราที่หมอชิต พอเราเห็นว่าน้องมีรถก็โอ้โห...ดีใจแทนเขามากเลย ไม่ได้อิจฉาตาร้อนไม่ได้คิดอะไรเลย เขาจะให้หรือไม่ให้อะไรเราก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร”
“ที่เรารักเขามากก็เพราะว่า เขาบอกว่าเขาไม่มีใคร ตัวเราเองก็ไม่มีใครมีแต่ลูกชาย เรารักเขาเหมือนน้องเหมือนลูกเลยแหละ เขาเองก็บอกว่ารักเราเหมือนแม่ ซึ่งมันก็รักเราจริงๆ มีอะไรก็คุยกัน”
แจ็ค : “ก็อยู่กับนาธานตั้งแต่เด็กเลยครับ ก็รักเขาเหมือนพี่ชายเลยครับ มีอะไรก็คุยกัน ผมเองทำงานเป็นกุ๊กก็เช่าห้องอยู่ข้างนอกก็ยังโทรคุยกันว่า เดี๋ยวผมมาเล่นด้วยนะ ผมก็จะมาทำกับข้าวให้เขากิน แต่บางทีก็มาอยู่บ้างอาทิตย์สองอาทิตย์ค่อยกลับไปห้องของตัวเอง เราอยู่ด้วยกันมานาน ลำบากด้วยกันมามาก ลำบากแบบต้องกินมาม่าด้วยกันเลยครับ”
เต็ม : “ส่วนมากแจ็คจะพักอยู่ข้างนอกเพราะเขาเห็นใจพี่เขา พี่เขาก็ยังไม่ได้มีบ้านแบบเป็นหลักเป็นแหล่ง ส่วนเรื่องที่เขาเป็นลูกครึ่งจริงหรือเปล่า อันนี้คือเราไม่เคยเห็นหน้าพ่อแม่เขาเลย ก็ถามว่าพ่อแม่ไปไหนเขาก็บอกอยู่ต่างประเทศ ซึ่งเราก็ไม่เคยเห็นหน้าไม่เคยเห็นภาพ และเราก็ไม่ได้สนใจ”
“ แต่เราก็รักกันดีเขาจะพูดตลอดว่าอย่าทิ้งเขานะ เราก็ไม่ทิ้งเขา มีอะไรก็ช่วยเหลือกันไปเรื่อยๆ ย้ายไปอยู่ที่ไหนก็ย้ายไปด้วยกัน อยู่ด้วยกันมาตลอด 10 ปี จนกระทั่งเขามีปัญหาเรื่องเงิน ปัญหามันก็เริ่มเกิด แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่เอาเงินไปเล่นการพนันหรืออะไรนะ คิดว่าคงเป็นเพราะเขาไม่ค่อยมีงานมากกว่า”
แจ็ค : “ด้วยความที่เขาเป็นดาราก็อาจจะฟุ้งเฟ้อหน่อยนิดนึง เพราะเป็นดาราเวลาออกข้างนอกก็จะต้องดูดี แต่พอการงานเขาไม่ค่อยดีรายจ่ายก็เลยเกิน แล้วพอช่วงหลังเขาก็มาทำทัวร์อยู่ที่สาทร ประมาณ 2 ปีที่แล้ว เขาก็เริ่มเงินไม่พอก็เลยมาขอให้เราไปกู้เงินให้”
“เต็ม” เปิดใจถึงเหตุผลที่ยอมเอาที่ดินไปจำนอง และการกู้เงินนอกระบบอีกหลายครั้งตามคำชักชวนของ “นาธาน”
“หนักๆ เข้าเขาก็บอกว่าพี่เต็มเงินไม่พอในการทำทัวร์ ถ้าเราทำได้เราจะกำไรนะ พี่ช่วยยืมเงินมาให้ธานหน่อย เราก็เอ๊ะ...จะยืมใครได้บ้างก็เลยบอกว่างั้นเราต้องกลับบ้าน เขาก็บอกว่าถ้ากลับรถทัวร์มันจะช้า เขาก็ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กลับเลย”
“ไปถึงก็ไปเอาเงินกับน้องสาวมา 5หมื่น พอได้เงินปุ๊บเราก็ไปโอนเงินให้เขาเลย เขาก็บอกว่าจะคืนภายใน 15 วัน ซึ่งเขาก็คืนให้จริงๆ ครบถ้วน ต่อมาเขาก็โทรมาอีกเพราะเขาจะเอาเงินไปใช้จ่ายในการพาลูกทัวร์ไปเที่ยว ซึ่งเขาอยู่โน่นเขาไม่มีตังค์ เขาก็เลยโทรมาขอยืมเงิน 7.7 หมื่น”
“ทีนี้เราก็เลยกลับบ้านอีก ญาติพี่น้องก็เตือนหมดทุกคนว่ามันเกินไปแล้วนะ แต่เราก็ยังเอาใบที่ดินไปจำนองให้เขาอีก 7.7 หมื่น โดยแม่เป็นคนเซ็นค้ำประกัน แต่คราวนี้ธานไม่กำหนดว่าจะคืนกี่วัน แต่เขารับปากว่าจะหาเงินไปจ่ายดอกให้ แต่พอสิ้นเดือนกี่เดือนก็แล้ว เขาก็ไม่จ่าย จนผ่านไป 3 เดือน”
“ซึ่งตรงนี้ถ้าเราไม่จ่ายดอกเขา 3 เดือน เขาจะยึดที่เรา ธานก็บอกว่ารอก่อนนะตังค์ยังไม่ได้ เราก็รออยู่สักพักเขาก็บอกว่า ต้องหาทุนมาอีก 1 แสน พี่มีใบที่อีกไหม คราวนี้เราจะได้เป็น 4 – 5 แสนหรือไม่ก็เกือบ 1 ล้านเลยพี่ อย่างน้อยก็ปลดหนี้หมดเลย เราก็เอ้า...แล้วทำไงได้อีกแสนล่ะค่ารถก็ไม่มี ธานก็บอกว่างั้นเราไปด้วยกันเลยไหม คราวนี้พี่ชิก็ไปด้วย”
“พอไปเอาใบที่ดินอีกคราวนี้พี่สาวก็โกรธ เราก็รับปากว่าจะไม่มาเอาอีกแล้วแค่นี้ก็จะพอแล้ว ก็ไปกรมที่ดินกับนาธาน เขายังไปถ่ายรูปกับหัวหน้ากรมที่ดินอยู่เลย คือเราต้องเอาใบที่ดินไปตีราคาแล้วก็เอาไปให้เจ้าหนี้ เพื่อที่เจ้าหนี้จะได้เอาเงินแสนออกมาให้เรา และเราก็ต้องเซ็นใบโอนมอบฉันทะไว้ให้เขา แต่ก็เหมือนเดิมเขาก็ไม่ยอมจ่ายดอกให้อีก”
“ต่อมาเขาก็บอกจะเอาอีก เราก็บอกคราวนี้เราไม่มีใบที่ดินแล้วนะ เขาก็บอกว่าพี่เต็มมีญาติไหมล่ะ ก็เลยไปเอากับญาติ 3 คนพี่น้อง เขาก็ขับรถไปที่อำนาจเจริญกับพี่ชิอีก ไปรับมาจากบ้านไปเซ็นเลย กู้เงินได้ประมาณ 3 หมื่น”
“ ครั้งที่ 4 เขาก็มาเอาอีก เขาบอกว่าเขาจะได้ไปแสดงหนัง กู้ให้ธานก่อนเดี๋ยวธานกลับมาจากถ่ายหนังงวดนี้ ธานจะใช้หนี้ให้หมดเลย เขาก็ไปคุยกับแม่เราด้วย ไปคุยกับญาติเราด้วย ญาติเราก็เชื่อหมดทุกคนเลย คนในหมู่บ้านก็รู้เรื่องนี้หมด เราไว้ใจกันเพราะเขาก็ไม่เคยโกหก”
แจ็ค : “ครั้งสุดท้ายเขาเอาเงินไป 1.2 แสน เขาให้แม่ผมกลับไปที่บ้าน เขาบอกกลับมาจากเล่นหนังจะใช้หมดเลย ผมก็เลยลงไปทำเรื่องกับแม่ด้วย โดยคราวนี้เราหาเงินจากที่อื่นมาไถ่ที่ดินแปลง 7.7 หมื่น เพื่อที่จะเอาเข้าแบงค์ไปกู้ใหม่ให้ได้วงเงินเยอะกว่าเดิม ก็เลยได้มา 1.2 แสน”
เต็ม : “ต่อมาเขาก็บอกพี่เต็มมีคนทวงเงินมา เราก็ถามทวงเงินอะไร เขาก็บอกหนี้ธานนี่แหละ เราก็ไม่มีเงินแล้ว เขาก็ถามว่ามีญาติอีกไหม เราก็เลยไปเอากับญาติมาให้เขาอีก 1 แสน คือมันร้องไห้เราก็ใจอ่อน เพราะเขาบอกว่าถ้าเราไม่ช่วยเขาจะต้องติดคุก ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าหนี้รายไหน”
“ญาติก็เคยมาเอาดอกเบี้ยกับเรา ตอนที่เราเป็นแม่บ้านอยู่ที่ร้านกาแฟ((JAMAREE YAK CAFE GALLERY&BAR) ตอนนั้นทำงานได้เงินเดือนประมาณ 1 หมื่นบาทต่อเดือน เราก็เอาเงิน 8 พันส่งดอกให้เขา ต่อมาเขาก็บอกให้เอาเงินมาคืน เราก็ทวงไปที่ธานเขาก็หามาให้ 5 หมื่นก็เหลืออีก 5 หมื่น ตอนนี้ก็ยังไม่จ่ายคืนเขา”
“ตอนหลังพอดอกมันหนักๆ เข้าเขาก็บอกว่าเขาจะขายรถให้ แต่เขาก็ไม่ขายให้สักที เราก็ถามทำไมไม่ขาย เขาก็บอกรอใบขับขี่ไปโดนจับที่นครราชสีมา เราก็รอ เมื่อวานเขามาเก็บของที่คอนโดก็ถาม เขาก็บอกว่ามันขายไม่ได้รถเสีย!”
“เมื่อวานเขามาขนของไปหมดเลย เขาปล่อยให้เราอยู่คนเดียวโดยไม่ถามเลยว่า เราจะอยู่ยังไงกินยังไง เขาไม่พูดอะไร เราพยายามคุยกับเขาดีๆ หนี้สินจะเอายังไง เขาบอกเดี๋ยวค่อยคุยกัน เราก็ถามจะคุยกันเมื่อไหร่แม่ไม่ไหวแล้วนะแกป่วยด้วย แกบอกเดี๋ยวค่อยคุยกันนะ แล้วมันก็ออกไปเลย มันก็ไม่บอกเลยว่า มันไม่มีตังค์ ช่วงนี้พี่ก็เห็นๆ อยู่ อุตส่าห์เรียกมาคุยดีๆ มันก็ไม่คุยว่าจะยังไง ไม่พูดอะไร ขนของดุ่มๆ ออกไป”
“มันไปเลยค่าห้องก็ไม่จ่าย เจ้าของคอนโดโทรไปทวงก็บอกว่าเอาให้แม่บ้านมาแล้ว เจ้าของห้องเขาก็งงว่าทำไมเราไม่เอามาจ่าย เขาก็คิดว่าเราอมตังค์เพราะตอนนั้นเรากลับบ้านต่างจังหวัด แต่เรากลับเพราะจะหาเงินมาใช้ดอก ทางเจ้าของห้องก็ไปถามครูแหม่ม(แม่บุญธรรมนาธาน)ว่าทำไมแม่บ้านไม่เอาเงินมาจ่าย แม่บุญธรรมนาธานก็บอกก็เขาเอาเงินไปล่ะสิ เขาพูดแบบนี้”
แจ็ค : “ตอนนี้เราก็ยังไม่ได้จ่ายค่าห้องเลยครับ เราค้างอยู่ 1เดือน ตามกำหนดเราต้องย้ายของออกจากบ้านวันนี้ แต่เรายังไม่ได้ไปหาเพราะเรายังไม่มีตังค์”
เต็ม : “เมื่อเช้านี้ไปขายเสื้อผ้าเก่าของตัวเองเพิ่งได้เงิน 300 ก็เพิ่งจะได้ไปซื้อข้าวกิน”
แจ็ค : “ถ้าต้องออกวันนี้ผมก็คงต้องขนของไปไว้ที่ห้องเพื่อน ก็ต้องไปอาศัยนอนที่ห้องเขาก่อน เพราะเรายังไม่มีเงินมัดจำไปให้ เพื่อนผมก็เลยแนะนำให้ไปเช่าเสื้อวินขับก่อนสิ เผื่อได้เงินวันละ 200-300 บาทมาซื้อข้าวซื้ออะไร นี่ผมก็เพิ่งจะวิ่งวินได้ 2 วัน เช่าวันละ 100 บาท แต่ผมขอเขาวิ่งก่อนเพราะไม่มีตังค์ให้เขา วิ่งได้เงินแล้วค่อยเอาไปให้เขา”
“เต็ม” แม่บ้านอีสานคนซื่อของ “นาธาน” สุดเสียใจร่ำไห้ที่ทำให้ “แม่” และ “พี่สาว” เสียใจ เรื่องเอาที่ไปจำนองจนเป็นเหตุให้เจ็บป่วย ซ้ำยังต้องหาเงินมาใช้ดอกเบี้ย จนทั้งครอบครัวไม่มีเงินแม้จะกินข้าว
“รู้สึกเสียใจ....เสียใจมากๆ เลย(เสียงสั่นน้ำตาคลอ) เราลำบาก เราโง่ เพราะเราเชื่อใจเขามาก เรารักเขาเหมือนลูก เหมือนน้องเพราะอยู่ด้วยกันมานาน เราไม่ได้อยู่แค่ปีสองปี เราขอแค่ให้เขามารับว่าจะใช้หนี้ให้ 3 แสน เพราะตอนนี้แม่ก็ไม่สบายด้วย(เริ่มร้องไห้) แม่เครียดมาก พี่สาวก็เหมือนกัน พี่สาวเขาเป็นเบาหวาน”
“สิ่งนี้ทำให้เราเสียใจมาก แม่กับพี่สาวเขาก็บอกว่า บอกแล้วว่าอย่าไปเชื่อเขามาก เราก็บอกอยู่ด้วยกันมานานไว้ใจเขา ถึงเขาจะมีข่าวแค่ไหนเราก็ไว้ใจเพราะเขารับปากว่าจะให้ ตอนนี้แม่ก็อายุ 82 ปีแล้ว พี่สาวก็อายุ 70 กว่าปีแล้วก็เป็นความดันเป็นเบาหวาน เครียดหน่อยก็เบาหวานขึ้นจะเป็นลม ครั้งที่แล้วก็พาเข้าโรงพยาบาล”
“ตอนนี้เกี่ยวข้าวเราก็ไม่มีตังค์เลย กับข้าวก็ไม่มีจะกิน เขาไม่เคยมาสนใจเลยว่า เราจะกินอะไรอยู่ยังไง เขาไม่ใส่ใจเราเลย เราก็คิดว่าน้องเขาคงไม่มีตังค์ เราก็ไม่ได้อะไรมากมาย แต่น้อยใจที่ว่า เราทำให้แม่ลำบาก ครอบครัวหมดทุกอย่าง เพราะเราต้องหาเงินทุกทางมาเพื่อส่งดอก ที่ๆ เขาเอาไปคือที่ของเราที่แม่ทำมาหามา ธานก็บอกให้ขายๆ แต่ก็ไม่ยอม ขายไม่ได้ เราจะสู้”
“ตอนนี้ที่บ้านต่างจังหวัดก็จะพังแล้วไม้ข้างหลังก็ผุ บางวันแม่ไม่มีอะไรกินเลย เขาต้องหาเงินมาช่วยเราส่งดอก เราเห็นเขาต้องเอาหน่อไม้ดองมาตำใส่ปลาร้า(ร้องไห้) เราทำให้แม่ลำบากมากเลย แม่ไม่มีตังค์เลย แล้วแม่ก็ยังขายแหวนไปส่งดอกให้ด้วย(ร้องไห้สะอึกสะอื้น)เราก็บอกธานแม่พี่ขายแหวนส่งดอกให้แล้วนะ มันก็บอกเออๆ เดี๋ยวหาให้ๆ ก็ผลัดวันประกันพรุ่งอยู่นั่นแหละ”
“เราก็บอกว่าขายแหวนแล้วแม่พี่ก็ไม่มีอะไรกินเลย มันก็ไปเห็น ก็เห็นว่าแม่เราไม่มีตังค์ แม่เขาก็มานั่งบอกกับมันว่า ใบที่ใบทางแม่จำให้หมดแล้วนะ แม่เสียใจมากเลย(ร้องไห้) แม่เสียใจที่เราไปเชื่อเขามาก ที่เราเสียใจมากๆ ก็ตรงที่เสียใจเพราะแม่กับพี่สาวต้องมาป่วยเพราะเรา ครอบครัวไม่เคยมีหนี้มีสิน ครอบครัวเราเป็นชาวนา พ่อแม่เรามีลูก 13 คน ไม่เคยสร้างหนี้สร้างสิน ไม่เคยเอาที่ใบอะไรจำนอง ไม่เคยเข้าธนาคาร ไม่เคยทำอะไรเลย แต่ตอนนี้เราเป็นหนี้ เป็นหนี้เพราะเชื่อว่าเขาไปแสดงหนัง คิดว่าเขาได้เงินแล้วเขาคงจะเอามาคืน”
แจ็ค : “เขาก็เห็นว่าครอบครัวเราลำบาก เขาก็ได้แต่ครับๆ เดี๋ยวจะเอามาคืนให้แต่ก็ไม่ปฏิบัติ แม่เราก็ไม่ได้ดุด่าว่าอะไร ขอแค่ให้กลับมารับผิดชอบ เพราะตอนนี้มันหมดแล้วสมบัติหมดแล้ว ไหนจะของญาติอีกพอแม่ผมคุยกับเขาเรื่องเงิน ก็บอกเดี๋ยวหาให้ๆ พอถามเขามากๆ เขาก็บอกด่ามันไปเลย ตบมันไปเลย เราก็บอกจะไปด่าเขาทำไมล่ะ เขาบอกเดี๋ยวจะไปด่าให้เลย เดี๋ยวจะไปตบให้เลย”
“หรือไม่ก็ไปแจ้งจับไปเลย เอ้า...แล้วผมจะไปแจ้งจับได้ไง บางคนก็เป็นญาติพี่น้องผม ผมจะไปแจ้งจับเขาได้ไง ญาติพี่น้องเขาก็ต้องใช้ตังค์เขาจะมายึด 10 ปีกับความเป็นพี่น้องกับเขา มันหมดลงไปตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว เพราะเราเริ่มรู้จากพฤติกรรมของเขาว่าเขาจะไม่จ่ายหนี้”
เต็ม : ” รวมไปถึงเรื่องที่เขาไปเล่นหนังด้วย เราคิดว่ามันยังไงอยู่ เพราะถ้าเขาไปเล่นจริงเขาก็ต้องมีเงินมาใช้หนี้เราสิ แต่ก่อนหน้านี้เชื่อเขานะ คิดว่าเขาไปจริง ไม่ว่าข่าวจะออกมายังไงก็คิดว่าเขาไปจริง ซึ่งเขาก็ไปจริงแต่ไม่รู้ไปถ่ายหนังหรือไปไหน”
แจ็ค : “เราเชื่อว่าเขาไม่ได้ไปถ่ายหนังเพราะเราเจอหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้(เรื่องตรายางใช่ไหม)เรายังไม่อยากจะเปิดเผยกลัวจะเป็นคดี”
ใจสลายพอรู้ว่า “นาธาน” โกหกเรื่องโกอินเตอร์ เพราะนั่นย่อมหมายความว่า สองแม่ลูกอาจจะไม่ได้เงินมาไถ่ที่คืน
เต็ม : “พอรู้ว่าเขาไม่ได้ไปถ่ายหนังนอนไม่หลับเลย 1 เดือนที่ผ่านมานอนไม่หลับเลย”
แจ็ค : “เมื่อไม่นานมานี้ก็มีคนๆ หนึ่งที่สงสารเรา ก็มาบอกว่า เขาจะไปซิดนีย์ไปหาน้องสาวของเขาวันที่ 11 พ.ย. แจ็คจะทำอะไรก็รีบทำ เราก็เลยตัดสินใจว่าต้องพึ่งตำรวจ ก็อยากให้เขามาเซ็นรับผิดชอบหนี้สินทั้งหมดต่อหน้าตำรวจ”
“วันนี้ผมก็โทรไปบอกให้เขามาเซ็นต่อหน้าตำรวจ เขาก็บอกว่าให้รอ คือเขาจะนิสัยเป็นแบบนี้ จะชอบบอกให้รอแล้วก็เฉย เขาซื้อเวลาเหมือนเดิม แต่ตอนนี้เรารอไม่ได้แล้ว สิ้นเดือนก็ต้องใช้ดอกอีก”
เต็ม : “เมื่อกี้เขาก็พูดว่าให้จดมาว่าเขาเป็นหนี้อะไรบ้าง และก็บอกจะให้พี่ชิมาเซ็นแทน เราก็บอกว่าไม่ได้ต้องเป็นเขามาเซ็นสิ นอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังเอาบัตรประชาชนเราไปจดทะเบียนโทรศัพท์มือถือของทรูและก็ดีแทค เขาทำไปทั้งหมด 3 เบอร์ซึ่งไปจดในชื่อเราหมดเลย”
แจ็ค : “นี่เป็นลายมือที่เขาเขียนเอง คือเขาพาแม่ไปแล้วก็ให้ไปเซ็นๆ เท่านั้นเอง แม่ผมก็ไม่รู้กฎหมายเขาให้เซ็นก็เซ็น นี่ผมก็เพิ่งมารู้เรื่องเหมือนกัน”
เต็ม : “มันมีใบทวงหนี้ไปถึงที่บ้านที่ต่างจังหวัด แม่เห็นแล้วก็ตกใจทำไมมันมีใบทวงหนี้ค่าโทรศัพท์เป็นหมื่นๆ แม่ก็โทรมาหาเรานี่มันอะไร หนี้สินก็มีเยอะแล้วทำไมอยู่ดีๆ มีค่าโทรศัพท์มาทวงอีก สอบถามไปทางบริษัทโทรศัพท์เขาก็บอกว่า เราต้องเอาตัวเขามา แล้วก็เอาบัตรประชาชนเขามาเปลี่ยนชื่อออก แต่พอโทรไปหานาธานเขาบอกว่า เอาออกไม่ได้ เราก็เถียงว่าทำไมจะออกไม่ได้ ถ้าไม่เอาออกก็ให้ไปหาเงินมาไปใช้หนี้ และเปลี่ยนเป็นชื่อธานไปเลย เขาบอกว่าเดี๋ยวต้องคิดดูก่อน”
เต็ม : “วันนี้มันรอไม่ได้แล้ว ดอกก็ไม่ต้องเอามาต่อ เอาเงินก้อนมาไถ่เลยดีกว่าเพราะความไว้วางใจมันหมดแล้ว และต้องเอาชื่อออกจากโทรศัพท์ให้หมดด้วย เราก็จะอยู่แต่เราแล้ว ไม่วุ่นวายกัน ต่างคนต่างไป ถ้าวันนี้เขามาไถ่ที่ให้ และมาเอาชื่อเราออกจากโทรศัพท์ เราก็จะไม่เอาเรื่องกับเขา เราจะปล่อยเขาไป ต่างคนต่างอยู่ ไม่เชื่อเขาอีกแล้ว เขาโกหก”
“หมอกฤษณ์” ไม่ยอมรับหน้าแหก ค้านลูกแม่บ้าน “นาธาน” โกอินเตอร์แน่ โวทายใครไม่เคยผิด!!
หวั่น "นาธาน" หนีไปนอก แม่บ้านขึ้นโรงพักแจ้งความโดนโกงกว่า 3 แสน วอนคืนเงินแล้วแยกทางใครทางมัน
ขุดหลุมฝัง “นาธาน” ลูกแม่บ้านร้องโดนโกง 3 แสน แฉหมดไส้โกหกเรื่องฮอลลีวู้ด แถมปั๊มตรายางไว้หลอกคนอื่น
“ผจก.ส่วนตัว” อ้าง “นาธาน” นินจาเพราะถือศีลอด จวกถ้ายอมรับว่าไม่ใช่ลูกครึ่งจะไล่ออกจากประเทศหรือไง
“เอกชัย” แค้นแทน“นาธาน” บอกไม่ใช่นายกฯ ไม่ต้องรู้พ่อแม่ได้กันตอนไหน ส่วนเล่นหนังหรือไม่ มันไปหนักหัวใคร
"นาธาน" แถแหลต่อยังเล่นหนังฮอลลีวู้ด ไม่เคยโกงอ้างมีเงินใช้ตลอด ยันไม่ลืมกำพืด แต่พ่อแม่เป็นใครไม่จำเป็นต้องโชว์
“โดนัท” ยังถือหาง “นาธาน” แขวะถ้าใครไม่เดือดร้อน ก็อย่าทำร้ายจองเวรกัน
“โก้” เดือดโดน “นาธาน” หลอกคารายการ ซัดต้องเคลียร์ตัวเองถ้าอยากอยู่บนโลก
"นาธาน" โดนอีกดอก ! เหยื่อตุ๋นโผล่อีกแฉรีดเงิน 8 หมื่น ค่าฝากทำงานททท.
"อาร์เอส" ไม่สืบประวัติ "นาธาน" ปัดรับผิดชอบลวงโลก ไล่ไปเคลียร์กันเอง
“อาร์เอส” พูดเต็มปาก "พ่อนาธาน" อยู่เนปาล ส่วนเรื่องโกงอายุซัดความผิดเขต
“อ้น” วอนทุกคนให้อภัย “นาธาน” บอกถ้าโกหกแล้วไม่เกี่ยวกับเราก็ไม่ต้องไปสนใจ
"อาร์เอส" แบะๆ ไม่ตอบเรื่อง "นาธาน" เมคประวัติ อ้างหมดสัญญาไปนานแล้ว
“เจเจ” เผย “นาธาน” หายจ้อย เริ่มเห็นใจ วอนคืนเงินยินดีจบ
เพื่อนร่วมรุ่นยัน “นาธาน” เรียนประถมที่ดรุณศึกษา มัธยมที่ทุ่งสงนครศรีธรรมราช
ไหนว่าเป็นลูกครึ่งเนปาล “ยาย” ตัวเป็นๆ คอนเฟิร์มพ่อแม่ “นาธาน” ไทยแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
“นาธาน” เถียงหัวชนฝา เป็นลูกครึ่งไทย-เนปาล วอนสังคมหยุดย่ำยีหัวใจตนได้แล้ว
“นาธาน” โดนอีกดอก ไม่ได้เป็นลูกครึ่งเนปาล พ่อเป็นคนไทยอยู่พิษณุโลก
“นาธาน” โต้โกงเงิน ไม่ตอบเรื่องโกงอายุ-ปลอมตัว ไม่โชว์พาสปอร์ต บอกโชว์ทำไม ไม่ได้เป็นนักโทษ !
"เฉลิมไทย ณ พันทิป" นักสืบอิสระแห่งโลกไซเบอร์
“นาธาน” แหล 10 ดอก โกงเงิน ไม่ได้ไปถ่ายหนัง ปลอมตัว ปลอมเสียง โกงอายุฯลฯ
จาก "สมพงษ์ เลือดทหาร" สู่ "น้องอุ้ม เมืองคานส์" และ "นาธาน โอร์มาน"?
“นาธาน” เผยชีวิตฮอลลีวูด สุดกดดันเป็นแค่โนบอดี้ โดนผกก.ด่าจนร้องไห้
"นาธาน" ฟัน 100 ล้านเล่นหนัง "วูล์ฟ กัง" ประกบ "บรูซ วิลลิส"