หวั่น "นาธาน" หนีไปนอก แม่บ้านขึ้นโรงพักแจ้งความโดนโกงกว่า 3 แสน วอนคืนเงินแล้วแยกทางใครทางมัน

แม่บ้าน "นาธาน" พร้อมลูกชายโร่แจ้งความลงบันทึกประจำวัน โดนนักร้องหนุ่มโกงเงินกว่า 3 แสนบาท เผยเคยให้เงินเลี้ยงนักร้องหนุ่ม แต่ตอนนี้ชีวิตตนลำบากหนัก ต้องขายเสื้อผ้าเก่าประทังชีวิต และไม่มีเงินจ้างทนายมาทำคดี ซ้ำร้ายแม่คิดมากจนล้มป่วย ลั่นถ้าแม่เป็นอะไรไป ไม่มีทางอภัยให้แน่ บอก "นาธาน" ถ้ารักกันจริง ขอให้คืนเงินแล้วแยกทางใครทางมัน ด้านลูกชายเผย "นาธาน" โทรมาตกลงยินยอมทำสัญญากู้ยืมเงินกับแม่ แต่หลังจากนั้นก็หายจ้อยติดต่อไม่ได้อีก

เกี่ยวกับกรณีที่ “น.ส.สมาน สุขเสริม” หรือ "เต็ม" ซึ่งเป็นแม่บ้านของนักร้องจอมลวงโลก "นาธาน โอร์มาน" ออกมาร้องทุกข์ผ่านบันเทิง ASTV ผู้จัดการออนไลน์ พร้อมลูกชาย "แจ็ค อาทิตย์ กุลฝ้าย" ว่า โดน "นาธาน" หลอกให้เอาที่ไปจำนองแล้วโกงเงินไป 3 แสนบาท พอทวงถามเจ้าตัวก็ตอบหน้าตาเฉยว่าไม่มีเงินจ่ายคืนให้ แถมยังขนของหนีออกจากคอนโดที่เคยอยู่ด้วยกัน ทำให้ครอบครัวของเธอต้องถูกไล่ออกจากคอนโด ไม่มีที่อยู่ เพราะติดค้างค่าเช่าคอนโดเป็นหมื่น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.ที่ผ่านมา (6 พ.ย.) แม่บ้านของนักร้องหนุ่มพร้อมลูกชาย ได้เดินทางไปยังสน.หัวหมาก มีร.ต.ท. ปิยเชษฐ์ เลื่อนพลับ พนักงานสอบสวนเป็นผู้รับแจ้งความ และได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้น.ส.สมานได้เล่าว่า เมื่อปีที่แล้วนาธานได้มายืมเงินจำนวน 5 หมื่นบาท โดยให้เหตุผลว่าจะไปทำทัวร์ต่างประเทศ ซึ่งตนก็ให้เงินงวดแรกกับนาธานไป โดยเป็นการยืมปากเปล่า ไม่มีการทำสัญญากู้แต่อย่างใด ต่อมานาธานก็ได้เอาเงินมาใช้คืนเป็นที่เรียบร้อย

จากนั้นนักร้องหนุ่มก็มายืมเงินเรื่อยๆ และไม่ได้ให้คืนอีกเลย ครั้งแรกตนเอาที่นาจำนวน 15 ไร่ ไปจำนองกับเงินกู้นอกระบบ ได้เงินมาจำนวน 130,000 บาท นาธานก็ไปเอาเงินที่บ้านของตน ที่จังหวัดอำนาจเจริญพร้อมกัน โดยไม่มีการเซ็นสัญญาใดๆ เพราะความไว้เนื้อเชื่อใจกัน ต่อมาตนไปกู้ยืมเงินธกส.มาให้นักร้องหนุ่มอีก 77,000 บาท และไปยืมญาติๆเอามาให้อีก 30,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 237,000 บาท รวมดอกเบี้ยแล้วจะตก 330,000 บาท

นอกจากนี้ยังมีบิลค่าโทรศัพท์ในระบบทรู โดยนาธานได้ยืมบัตรประชาชนของตน ไปเปิดใช้บริการอินเตอร์เน็ตรายเดือน รวมไปถึงเปิดเบอร์โทรศัพท์ในระบบดีแทค อีกจำนวน 2 เบอร์ โดยไม่จ่ายและมีบิลตามมาทวงเก็บที่บ้านของตนที่จังหวัดอำนาจเจริญ ซึ่งรวมค่าเสียหายแล้วประมาณ 2 หมื่นบาท

"พี่อยู่กับน้องเขามานานด้วยความที่เชื่อใจกัน เป็นแม่บ้านให้เขามานาน รักเขาเหมือนลูก ก็ไม่คิดว่าเขาจะเป็นแบบนี้ ยิ่งพักหลังมาเขาไม่เคยสนใจเลยว่า จะมาจ่ายดอกหรือใช้หนี้ให้พี่ เขาก็ไม่พูด ล่าสุดเมื่อวานเขาขนของออกจากห้องไป แล้วเอาของไปฝากไว้ที่บ้านน้าเขา จำได้ว่าพี่เคยไปกับเขาตอนกลางคืน แถวโชคชัย 4 คือพี่คิดว่าที่เขาขนของออกจากห้องไป เพราะเขาคิดจะหนี พี่ก็กลัวไม่ได้เงิน"

"เขายืมเงินพี่ไปทั้งหมด 3 แสนกว่าบาท เป็นที่ดินหมดเลย และมียืมน้าๆญาติๆมาให้ด้วย ที่ไว้ใจให้เขายืมเพราะเราอยู่ด้วยกันมาเป็น 10 ปี ถ้าไม่เชื่อใจเขา ก็คงให้ทำสัญญาเซ็นกู้ยืมเงินเหมือนกัน ก็คงให้เขากู้พี่อีกต่อหนึ่ง แต่นี่พี่คิดว่าไม่มีอะไรหรอก เพราะน้องก็ไม่เคยแสดงอะไรให้เห็นเลย มันมีพิรุธแค่เมื่อวานที่เขาขนของออกจากห้อง ปกติถ้าเขาจะย้ายก็จะมาบอกพี่ว่า เออ...พี่เต็ม เราต้องไปแล้วนะพี่ เราต้องแยกทางกัน เพราะตอนนี้ธานแย่มาก แต่เขาก็ไม่พูดไม่มีอะไร อยู่ดีๆก็มาขนของตูมๆออกไปฝากไว้บ้านญาติ แล้วก็ขนที่นอน ผ้าปู ผ้าห่มขึ้นรถไปหมดเลย เสร็จแล้วเขาก็ไม่บอกเลยนะว่า พี่เต็มผมไปก่อนนะ มีอะไรค่อยคุยกันนะ พี่อย่าเพิ่งน้อยใจนะ แต่นี่เขาไม่พูดอะไรสักคำ ยิ่งเรื่องหนี้สินเขาก็ไม่เคยพูดเลยว่า เดี๋ยวเรื่องหนี้สินเราค่อยคุยกัน เขาไม่พูดอะไรเลย เขาหอบผ้าขับรถออกไปเลย"

"แล้วพี่ก็อยู่คอนโด ห้องที่อยู่ก็ไม่ได้จ่ายเงิน คราวนี้เจ้าของห้องเลยมาบอกว่า คุณออกไม่ได้นะ คุณยังไม่ได้จ่ายเงิน คุณต้องจ่ายเงินก่อน พี่ก็เลยบอกว่าพี่ไม่มีเงิน เพราะพี่เป็นแค่แม่บ้าน เขาก็บอกว่างั้นเดี๋ยวต้องคุยกัน เราก็บอกว่าแต่วันนี้ขออยู่ที่นี่ก่อน เพราะเราไม่มีที่ไป เงินก็ไม่มีสักบาท ซึ่งคอนโดที่เช่าอยู่ที่ซ.อุดมสุข 54 เป็นคอนโดที่เป็นชื่อของแม่บุญธรรมเขา เป็นคนเซ็นสัญญาชื่อครูแหม่ม (อาจารย์พิศมัย) ตอนนี้ก็ติดหนี้ค่าห้องอยู่ประมาณหมื่นหกร้อยบาท"

"ถามว่าที่ผ่านมาพี่เคยคุยเรื่องหนี้สินกับเขามั้ย พี่บอกเขาทุกวันว่า เขาทวงหนี้มานะ เราต้องจ่ายดอกแล้ว เขาก็บอกว่ารอก่อน แต่พี่รอไม่ได้ เพราะถ้ารอไปใบหนี้ของพี่มันจะหมดสัญญา เขาก็จะมายึดที่พี่ก็เลยต้องวิ่งหาเงินจ่ายดอกเอง คราวนี้พอกลับมาอีก พี่ก็บอกเขาไปว่ามันไม่ไหวแล้วนะ เขาจะยึดที่พี่แล้ว พี่ก็บอกเขาไปว่าจะทำยังไง เขาก็ตอบมาว่าก็มันไม่มี รอไปก่อนเดี๋ยวหาให้ คราวนี้เรารอมาหลายเดือนแล้วมันไม่ไหวแล้ว"

"เรื่องที่ดินถ้าไม่ชำระภายในเดือนนี้โดนยึดแน่นอนค่ะ ทีแรกที่เป็นของแม่ คือก่อนหน้านี้ญาติๆกันเอามาขายให้แม่ของพี่ แล้วพี่ก็ขอซื้อต่อจากแม่มาหมดเลย ประมาณ 30 ไร่ เป็นที่จังหวัดอำนาจเจริญ เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เหลืออยู่ เป็นมรดกของพี่ ที่แม่ให้เพราะพี่เป็นลูกสาวคนเล็ก และพี่ก็ดูแลแม่กับพี่สาว เขาก็เลยให้พี่กับพี่สาวที่อยู่ด้วยกัน ซึ่งถ้าที่ตรงนี้โดนยึดโอ๊ยตายแน่!แม่พี่ช็อคแน่ ถ้าแม่พี่เป็นอะไรไป พี่จะไม่ให้อภัยเด็กคนนี้แน่นอน เพราะแม่พี่เป็นหลายโรค ก็คนอายุ 82 ปีแล้ว เป็นทั้งไขมันอุดตันเส้นโลหิตฝอยกับเบาหวาน ถ้าแกคิดมากจะช็อกและไม่รับรู้อะไรเลย"

"คือพี่คอยประคับประคองบอกแม่ไปว่า ทำใจให้สบายนะ ยังไงพี่ก็ไม่ยอมให้หลุดหรอก จะสู้เต็มที่ จะทำงานบ้านและเอาเงินมาผ่อนดอกให้เขาก่อน แม่ก็บอกว่าจะไหวเหรอ เขาก็สงสาร แต่อาทิตย์ที่แล้วพี่สาวก็เข้าโรงพยาบาล เพราะเขารับรู้เรื่องนี้แล้วรับไม่ได้ ส่วนตัวพี่ก็จะตาย ตั้งแต่เดือนนี้มาเขาไม่เคยสนใจพี่เลยว่า พี่นอนไม่หลับ ข้าวก็กินแทบไม่ลง แม่พี่น้ำหนักลงทุกวัน ตอนนี้ก็ให้พี่สาวช่วยไปก่อน"

"วันนี้ก็มาปรึกษาตำรวจดูว่า คุณนาธานให้พี่ไปกู้ยืมเงินมาให้ แล้วเขาจะใช้หนี้ เขาจะรับผิดชอบมั้ย พี่ก็กลัวไม่ได้เงิน เพราะจำนวนเงินมันเยอะเกินไป ประมาณ 3 แสนกว่าบาท พี่ก็มาปรึกษาดูว่าจะทำยังไงดี ให้เขามาตกลงกับพี่ว่า เขาจะใช้หนี้พี่มั้ย รับผิดชอบจ่ายดอกช่วยมั้ย ทางตำรวจก็ได้ลงบันทึกประจำวันไว้ และให้คำปรึกษาว่าสามารถฟ้องแพ่งได้อย่างเดียว เราก็รู้สึกกลัวไม่ได้เงิน กลัวน้องไม่รับผิดชอบจ่ายให้พี่ ก็ไม่รู้จะทำยังไง"

"พี่ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าพี่รู้พี่จะไม่เอาใบอะไรไปจำนองให้เขาเลย พี่ไม่เอะใจเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้ เขาเพิ่งมามีพิรุธเมื่อ 2-3 เดือนนี้เอง ยิ่งเมื่อวานที่ขนของออกไปยิ่งมีพิรุธ พี่ก็กลัวเขาจะเชิดเงินพี่ไปหรือเปล่า ค่าห้องจะจ่ายก็ไม่จ่าย ไม่พูดไม่บอกเราสักคำ สมัยก่อนเขาไม่เคยเป็นแบบนี้นะ น้องเขาเป็นคนดีมาตลอด เรื่องข่าวเขาเราก็เคยได้ยินมาบ้าง เขาบอกผมเป็นหนี้คนนั้นคนนี้ แต่เขาก็หาใช้ของเขาไป วันนี้พี่ก็เลยบอกว่าธานต้องใช้เองแล้วนะ เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ธานได้ไปยืมใครมาบ้าง"

ลั่นไม่ติดใจเอาความ หาก "นาธาน" เอาเงินมาใช้หนี้จนหมด เผยครอบครัวลำบากมาก ไม่มีแม้เงินจะกินข้าว ต้องเอาเสื้อผ้าเก่าไปขายหาเงินประทังชีวิต

"พี่ขอแค่เงิน 3 แสนกว่าบาทคืน ไม่เอาอะไรเพิ่มเติม ขอแค่นี้ เพราะตอนนี้ครอบครัวพี่ไม่มีอะไรเลยจริงๆ ไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ลำบากมาก แม่พี่ก็ลำบาก พี่ก็ไม่ทราบจะทำยังไง เรื่องจ้างทนายก็คงต้องมีปัญหา เพราะเราไม่มีเงิน ครอบครัวพี่ไม่มีอะไรเลย ถ้าเรารู้ว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้ พี่ก็จะไม่ทำ ก็คงต้องคุยกับเขานั่นแหละ ต้องเอากับเขา ตอนนี้พี่ไม่มีรายได้เลย อย่างเมื่อเช้าก็เพิ่งเอาเสื้อผ้าเก่าของตัวเองไปขาย ได้เงินมา 300 กว่าบาท ที่ดินก็หมดแล้วทุกใบ เพราะเอาไปจำนองให้เขาหมด พี่กำลังคิดอยู่ว่าจะเริ่มต้นทำงานอะไรดี เพราะที่บ้านตอนนี้กำลังเก็บเกี่ยว พี่สาวก็ป่วย แม่ก็ป่วย พี่สาวก็บอกว่าให้เอาเงินมาลงเกี่ยวข้าวได้แล้ว แต่เราก็ไม่มี ก็กะว่าจะมาขอที่เขา แต่เขาก็ไปคนละทาง พี่ไม่เคยคุยกับผู้จัดการส่วนตัวเขา ปกติจะคุยกับนาธานโดยตรง นี่เขาก็โทรมาหา พี่ก็ถามว่าเรื่องหนี้สินจะทำยังไง เขาก็บอกให้พี่จดไว้แล้วกัน"

"พี่ก็ไม่รู้ว่าเขามีงานข้างนอกหรือเปล่า พี่ไม่เคยถามเรื่องงาน เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขา พี่มาถึงก็แค่ทำหน้าที่เป็นแม่บ้าน ถามเขาว่ากินข้าวหรือยัง ก็ทำกับข้าวให้เขากินด้วย แต่บางทีพี่ก็ออกไปทำงานข้างนอก รับจ๊อบเป็นแม่บ้านข้างนอก ไปทำงานร้านอาหารเป็นแม่ครัว บางทีพี่ก็ต้องเลี้ยงนาธานด้วยเงินของเรา ตั้งแต่แรกไม่ว่าจะเป็นค่ารถแท็กซี่ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยเท่าไหร่ หรือบางครั้งเขาก็มาบอกกับพี่ว่า ไม่มีเงิน ขอเงิน 1 พันกว่าบาทบ้าง 500 บาทบ้าง เราก็คิดว่ามันธรรมดา เหมือนให้ลูกให้น้อง น้องเขาไม่มีเงินเราก็ให้ไป เพราะถือว่าอยู่ด้วยกัน"

บอกปัดไม่รู้เรื่องนักร้องหนุ่มโกงหุ้นส่วนร้าน "ดีเจ เจเจ" หรือแม้กระทั่งการทำปั๊มตรายางปลอม และการโกอินเตอร์เล่นหนังฮอลลีวู้ด

"เรื่องที่เขาโกงดีเจ เจเจ พี่ก็ไม่รู้ว่าเขาโกงกันยังไง เพราะช่วงนั้นพี่กลับบ้าน ครั้งสุดท้ายที่พี่โอนเงินมาให้เขาคือ 140,000 บาท คือเขาจะเอาไปทำอะไรพี่ก็ไม่รู้ พี่เป็นแม่บ้านอยู่ กับเจเจพี่ก็รู้จัก เพราะว่านาธานบอกว่ามีแม่บ้านทำอาหารเป็น ทำอะไรเป็น เขาก็เลยให้พี่มาดูแลความสะอาดในร้านทุกอย่าง ส่วนลูกชายพี่ก็ไปช่วยเขาอยู่พักนึง แล้วก็มีปัญหากัน เขาก็มาบอกกับพี่ว่า พี่เต็มไม่ต้องทำแล้วนะ เพราะมีปัญหากัน พี่ก็เลยออกมา แต่เรื่องรายละเอียดพี่ไม่ทราบเท่าไหร่"

"ส่วนเรื่องที่เขาทำปั๊มตรายางไว้ อันนี้ก็ไม่แน่ชัดต้องดูก่อน เพราะพี่เองก็ดูไม่เป็นเหมือนกัน ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นลักษณะไหน วันนี้ไม่ได้พกติดตัวมาด้วย วันนี้พี่เอาแต่เรื่องหนี้สินพี่ก่อน เพราะต้องการให้เขามารับรู้ว่า จะรับชดใช้ให้พี่มั้ยแค่ 3 แสน ต้องมาไถ่ที่ออกก่อน เอาชื่อพี่ออกจากเบอร์โทรศัพท์แค่นั้น เพราะทางบ้านแม่พี่ก็ไม่สบายใจ แล้วนี่แม่ก็ไม่สบายอยู่ด้วย เพราะรับรู้เรื่องหนี้ 3 แสนเยอะเกินที่คนต่างจังหวัดอย่างเราจะจ่ายได้ ตัวพี่ก็ไม่มีสามี มีแต่ลูกชาย 3 คน และมีพี่สาวอายุ 60 กว่าจะ 70 แล้ว แม่พี่ก็อายุ 82 ซึ่งนาธานก็เคยไปเห็นครอบครัวพี่มาแล้ว คือบ้านนี่จะล้มลงอยู่แล้ว เขาเคยบอกว่าถ้าได้ไปแสดงหนัง และได้เงินก้อนนี้มา เขาจะเอามาให้พี่ทำบ้าน พี่ก็เลยเชื่อเขา ยอมกู้หนี้ยืมสินมาให้เขา เสร็จแล้วเขาก็ไม่สนใจอะไรเลย พี่ได้เงินแค่หมื่นเดียว ทั้งๆที่เขาเดินทางไปเอาเงินกับพี่ที่บ้าน"

"ถามว่าเขาไปแสดงหนังฮอลลีวู้ดจริงมั้ย อันนี้พี่ไม่ทราบ เพราะพี่ได้แต่อยู่บ้าน ก็เห็นน้องเขาไปจริงอยู่ บางทีเขาก็หายไปเป็นเดือน พี่ก็ไม่ทราบว่าเขาไปไหน เขาบอกแต่ว่าไปต่างประเทศ พี่ก็รอเขาอยู่ที่ห้อง เงินเดือนก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง พี่ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะอยู่ด้วยกัน แต่ครั้งนี้พี่อยากจะบอกนาธานว่า อยากให้เขามารับรู้สิ่งนี้ว่า เขาได้ทำอะไรกับพี่ไว้ ให้มาแก้ไขซะ เราจะได้ไปทางใครทางมัน ถ้ารักกันจริง ถ้านับถือพี่เป็นพี่ ถ้ารักกันจริงๆนะ ก็ให้มาใช้จ่ายตรงนี้ เพราะใบที่พี่ไปจำนอง มันจะหลุดจำนองแล้ว ตอนนี้พี่ก็ยังรักน้องเขาอยู่ ถ้าเขามาแก้ไขตรงนี้ พี่ก็จะไม่เอาเรื่องอะไรเขา แต่ถ้าเขาไม่ใช้หนี้ พี่ก็จะโกรธ ตอนนี้ก็โกรธอยู่ แต่ถ้าเขามาใช้หนี้เราคืน แล้วมาขอโทษพี่ เราก็โอเค หลังจากนี้พี่ก็บอกไม่ได้ว่าต้องทำยังไงบ้าง คงต้องรอให้เขามาติดต่อตกลงคุยกับพี่ก่อน รอให้ตำรวจเรียกมาคุยกันก่อน ถ้าเขาไม่ตกลงหรือไม่ยินยอม ก็คงต้องดำเนินการ"

ด้านลูกชาย "แจ็ค อาทิตย์" กล่าวเสริมว่า เพิ่งคุยตกลงกับ "นาธาน" ให้มาทำสัญญากู้ยืมเงินกับแม่ ซึ่งนักร้องหนุ่มก็รับปากไว้แล้ว แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อกันไม่ได้อีก ครอบครัวตนกลัวอีกฝ่ายจะหนีไปเมืองนอก เลยต้องรีบมาแจ้งความกันเอาไว้ก่อน

"ตอนนี้ก็รอให้ตำรวจนัดว่าเขาจะเอายังไง จะนัดให้นาธานมาทำสัญญากู้ยืม ให้เขารับทราบเรื่องดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายอะไรก็ต้องให้เขามาจ่ายเอง เพราะผมก็ไม่ไหวเหมือนกัน ที่ต้องเห็นแม่มานั่งจ่ายให้ทุกเดือน เดือนละเป็นหมื่น ทางเราก็ไม่มีอะไรจะกินกันอยู่แล้ว รายได้ปัจจุบันตอนนี้แม่ผมยังไม่มีรายได้อะไรเลย เพราะไม่มีงาน ทางญาติๆก็กดดันเรามาก เวลากลับไปบ้าน"

"ที่ผ่านมาเขาไม่เคยใช้คืนเลย เขาเคยให้ดอกมาครั้งหนึ่ง 3 พันบาทตั้งแต่ 5 เดือนที่แล้ว ผมก็บอกกับเขาว่า ให้ไปทำสัญญากู้ยืมกับแม่ใหม่ ให้ไปที่โรงพักเลย เขาก็บอกตกลง แต่ต้องถามแม่เขาก่อน จากนั้นเขาก็ตัดสายโทรศัพท์ไปเลย ผมก็ไม่ได้โทรกลับไปหาเขาทันที แต่พอโทรกลับไปอีกเขาก็ไม่รับสายแล้ว คือผมอยากให้เขามาด้วยเมื่อเช้านี้ อยากให้มาที่นี่ด้วยกัน เพื่อให้เขารับรู้ และอยากให้ตำรวจกับพวกพี่ๆนักข่าวเป็นพยาน แต่เขามาตัดสายไปก่อน หลังจากนี้ก็ไม่รู้จะติดต่อเขาได้อีกหรือเปล่า เพราะเขาพูดว่าจะไปต่างประเทศ เอาง่ายๆเวลาที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมา เขาก็บอกให้รอก่อน ที่ก็จะหลุด ดอกเงินกู้ก็เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ เหมือนเขาจะซื้อเวลาให้เลยวันที่ 11 ไปก่อน แล้วถ้าเขาไปเมืองนอก ผมกับแม่ก็ไม่มีสิทธิ์เอาเรื่องได้เลย"

เกาะติดข่าวบันเทิงและร่วมวงเมาท์ดารากับ “ซ้อ7” ก่อนใคร ผ่าน SMS โทรศัพท์มือถือทุกเครือข่าย
ระบบ dtac - เข้าเมนู write Message พิมพ์ R แล้วส่งไปที่หมายเลข 1951540
ระบบ AIS - กด *468200311 แล้วโทร.ออก
ระบบ True Move และ Hutch - เข้าเมนู write Message พิมพ์ ENT แล้วส่งไปที่หมายเลข 4682000
*ค่าบริการเพียง 29 บาท ต่อเดือน ทดลองใช้ฟรี 15 วัน อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก