“แตงโม” จวกสื่อฉวยโอกาสลงภาพนัวเนีย “แต๊งค์” แจงไม่ใช่ภาพหลุด แต่เป็นภาพที่ลงในเฟซบุ๊ค เหน็บถ้าอยากได้รูปหลุดต้องลงทุนถ่ายเอง รับภาพกอดคอซบไหล่หวานจนเลี่ยน แต่เป็นเรื่องธรรมดาของคนเป็นแฟนกัน บอกใครไม่อยากเห็นก็ไม่ต้องเปิดหนังสือดู
กลายเป็นคู่รักคู่หวานปาท่องโก๋ที่ไปไหนมาไหน ตัวจะติดกันตลอด และนอกจากภาพหวานแบบตัวเป็นๆ ของคู่นางเอกสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” กับแฟนหนุ่ม “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” ที่มีออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อยๆแล้ว ทั้งคู่ยังมีภาพหลุดนัวเนียทั้งในผับ และยามไปเที่ยวกันโผล่ออกมาด้วย งานนี้สาวแตงโมจวกหนังสือที่นำภาพมาปล่อยว่า ฉวยโอกาสที่เอาภาพจากเฟซบุ๊คของเธอมาลง เหน็บถ้าอยากได้ภาพหลุดของแท้ต้องลงทุนถ่ายเอง
“จริงๆ แล้วมันเป็นรูปของโมเอง โมเอาไปลงในเฟซบุ๊คเอง เพราะฉะนั้นถ้าเขาจะมาฉวยโอกาสใช้ตรงนี้เป็นภาพหลุด มันก็ดูสบายไปหน่อย คือถ้าอยากได้ภาพหลุดจริงๆ คุณต้องลงทุนถ่ายเอง ไม่ใช่มาเอารูปเราไป คือเราถ่ายกันเอง ฝีมือเพื่อนเราเอง ฉะนั้นมันก็ไม่ใช่ภาพหลุดหรอกค่ะ และวันนั้นเป็นงานที่บ้านแต๊งค์เป็นคนชวนไป ก็คือมีคุณพ่อคุณแม่แต๊งค์อยู่ด้วย”
“โมว่าภาพโมกับแต๊งค์เป็นเรื่องที่ธรรมดานะ แต่ถ้าเกิดโมไปนัวเนียกับผู้ชายคนอื่น หรือว่าแต๊งค์ไปนัวเนียกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ในผับแล้วโดนถ่ายมา อันนี้คือเรื่องแปลก หรือเป็นอะไรที่นำเสนอขายได้ แต่อันนี้เราเป็นแฟนกัน เราทำกับแฟนเรามันไม่แปลก และเราก็โตแล้วจะ 30 กันแล้ว”
รับภาพอีกเซ็ทจากเฟซบุ๊ค ที่ทั้งคู่ทั้งกอดคอ เอาหน้าซบไหล่กันตลอดเวลาสุดหวานจนเลี่ยน แต่ยันไม่ร้ายแรงหรือเป็นภัยต่อสังคม ถ้าใครไม่อยากดูก็ปิดหนังสือไป
“ส่วนอีกชุดนึงก็ตามที่เห็น เห็นยังไงก็อย่างงั้น ไม่รู้จะพูดอะไร คือรูปโมไม่ได้เป็นรูปอะไรที่ร้ายแรง มันเป็นรูปที่เราแสดงความรักต่อกัน มันมีมุมของความหวานหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่มันไม่ใช่รูปที่เราไปตบเด็กนักเรียน หรือเราไปเสพยา หรือเราไปชกต่อยกับใคร ไปถ่ายใต้กระโปรง คือมันไม่ใช่รูปที่เป็นภัยต่อสังคม เพราะฉะนั้นก็ไม่รู้จะพูดอะไร ถ้าอยากดูก็แบ่งๆ กันดูได้ ไม่เป็นไร”
“หวานเลี่ยนเกินไปมั้ยเหรอ คือเราหวานเลี่ยนแต่ก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร ความหวานของเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน ถ้าเกิดเขาไม่อยากจะรับเราตรงนี้ เขาก็เลือกที่จะปิดหนังสือไม่ดูก็ได้ แต่ว่าถ้าเกิดเขาอยากจะติดตามข่าวสารเรา ก็แปลว่าเขาอยากรู้นั่นแหละ”
“ความสัมพันธ์ตอนนี้ของเราก็ปกติดีค่ะ เป็นไปตามธรรมชาติของคู่ทั่วๆ ไป คุณพ่อโมก็โอเคค่ะ ตอนนี้คุณพ่อสบายขึ้นเยอะคุณพ่อบอก(หัวเราะ) คุณพ่อมีเวลานอนมากขึ้นเลยล่ะค่ะ เพราะไม่ต้องห่วงไปรับไปส่งโมแล้ว ส่วนเรื่องงานเราก็ช่วยๆ กันดู ส่วนใหญ่อย่างมีงานอะไรเข้ามา ก็ช่วยกันพิจารณามากกว่า”