“แตงโม” แจงเหตุชิ่งหนีไม่ป๊ะหน้าอดีตแฟน “ก้อง” บอกไม่อยากให้สื่อจับมาเป็นประเด็น จนทำร้ายความรู้สึก “แต๊งค์” ยันทักทายกันแล้วในห้องแต่งตัว ไม่น้อยใจฝ่ายชายบอกจะไม่โทรหา เข้าใจเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตายตนก็ไม่โทรหาเช่นกัน ชมเปาะ “แต๊งค์” มีความเป็นผู้นำเอาตนอยู่หมัดได้ ด้านแฟนใหม่ทำตีมึนไม่รู้จัก “ก้อง” เป็นใคร ยินดีฝ่ายหญิงคุยกับคนรักเก่าได้ ในฐานะคนเคยรู้จักกัน
ถึงกับทำหน้าไม่ถูก เมื่อจู่ๆสาว “แตงโม ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์” ต้องมาป๊ะหน้าอดีตหวานใจ “ก้อง กรุณ ซอโสตถิกุล” ขณะที่เจ้าตัวกระเตงแฟนใหม่ป้ายแดง “แต๊งค์ พงศกร มหาเปารยะ” มาด้วยในงานๆหนึ่ง จนต้องรีบชิ่งสื่อหนีหายเข้ากลีบเมฆ และที่ผ่านมาดูเหมือนสาวแตงโมเอง ก็พยายามหลบเลี่ยงไม่ขอชี้แจงเรื่องราวในครั้งนั้น แต่เมื่อโดนกองทัพสื่อมวลชนต้อนหลายครั้งเข้า เจ้าตัวเลยยอมเปิดใจว่า จริงๆตนกับหนุ่มก้องทักทายกันแล้วในห้องแต่งตัว แต่ที่ไม่อยากทักกันต่อหน้าผู้คน เพราะไม่อยากถูกโยงไปเป็นประเด็น หวั่นกระทบความรู้สึกหนุ่มแต๊งค์
“ไม่ขอพูดถึงบุคคลที่ 3 ได้ไหมค่ะ เพราะเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว แล้วมันก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับชีวิตทั้งทางโม แล้วก็ทางพี่ก้อง หรือว่าทางใครๆเลยก็ตาม เพราะฉะนั้นในเมื่อตัวเราเองทั้งหมดไม่ได้มีปัญหา โมเองก็ไม่อยากให้คนรอบข้าง หรือว่าสื่อภายนอกมาสร้างปัญหาให้เรา"
"จริงๆวันนั้นโมก็ทักเขาแล้วนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่ทักเลยเพราะอย่างเวลาที่โมไปงาน โมก็ต้องไหว้ผู้หลักผู้ใหญ่ หรือคนที่รู้จักทุกคน นอกจากบางคนที่เราไม่เคยรู้จักเลยอย่างนี้ มันก็อาจจะได้แค่ทำความเคารพแบบไม่ได้สวัสดี อันนี้เราเองก็รู้จักกัน ฉะนั้นคนที่โมรู้จักก็ทำความเคารพทุกคนค่ะ”
“วันนั้นเราไม่ได้พูดคุยอะไรกันเลย เพราะตัวโมเองก็ไปช้า งานเขาก็จะเริ่มแล้ว ซึ่งวันนั้นที่งานคนเยอะมาก ต่างคนเลยต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แต่งหน้าเสริมสวยกัน คือถ้าไม่เรียกก็ไม่หยุด แต่งกันจริงๆ โมจะไม่ค่อยได้สนใจคนอื่น โมก็จะนั่งแต่งหน้าให้เป็นที่พอดีและมั่นใจเวลาออกไปทำงาน ที่ไม่ได้ทักพี่ก้องข้างนอก เพราะเราไม่ได้เจอกันนี่คะ แต่ตอนที่อยู่ในห้องแต่งตัวเราก็ทักทายสวัสดีกันแล้ว"
"เพราะมันเป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องโคจรมาทำงานด้วยกันอีก คือคนที่ถูกว่าจ้างเจอกันบ่อยๆมันเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ อีกอย่างพี่แต๊งค์เองก็ไม่ได้เอ่ยปากสั่งห้ามอะไร โมว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องของคนที่อยู่ในสังคมเดียวกัน ก็ย่อมต้องมีสัมมาคารวะ กาลเทศะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นโมเจอพี่เขาเป็นผู้ใหญ่กว่าโม โมก็ต้องสวัสดีเขาเป็นตามธรรมเนียม”
“ที่โมเลือกไม่ทักทายต่อหน้าสื่อเพราะอะไรรู้ไหมคะ เพราะไม่ว่าจะทำอะไรสื่อก็จะจับมาเป็นประเด็น ไม่ว่าเราจะทักหรือไม่ทักกัน เพราะฉะนั้นโมลองคิดดูแล้ว ถ้าเกิดเราไม่ทัก ซึ่งในความเป็นจริงเราอาจจะทักทายไปแล้ว หรือว่าอะไร ก็เป็นเรื่องที่เราเข้าใจกัน แต่ถ้าเกิดเราทัก เราจะถูกจับประเด็นไปว่าเป็นอย่างอื่น ซึ่งมันจะมีผลกระทบต่อพี่แต๊งค์ ตรงนี้โมก็ไม่ขอเลือกอย่างนั้นแล้วกัน”
แจงไม่น้อยใจที่อดีตแฟนบอกจะไม่โทรหา แต่จะทักเวลาเจอตามงาน เข้าใจเป็นการให้เกียรติทั้งสองฝ่าย บอกถ้าไม่มีเรื่องคอขาดบาดตาย ตนก็ไม่ติดต่อไปเช่นกัน
“โมว่ามันเป็นเรื่องของการให้เกียรติซึ่งกันและกัน เราก็ต้องให้เกียรติทางเขา แล้วเขาเองก็ต้องให้เกียรติทางเราด้วย มันก็เป็นเรื่องที่ดีแล้ว โมคิดว่าถ้ามันไม่ได้มีธุระจำเป็นคอขาดบาดตายอะไร เราก็ทำอย่างนั้นมันก็ถูกทางแล้วมั้งคะ มันไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะต้องมานั่งน้อยใจ มันเป็นเรื่องที่เล็กมากๆ”
“แล้วกับเรื่องที่หลายคนสงสัยกันว่า สรุปแล้วโมกับเขาจบกันด้วยดีจริงหรือ โมตอบเลยว่าจริงค่ะ ทุกคนที่รู้นิสัยทั้งโมแล้วก็พี่ก้อง ก็จะรู้ว่าคนอย่างโม ถ้าเกิดโมจบด้วยไม่ดีกับใคร หรือไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่เคยคบกัน ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือว่าคนที่รู้จัก ถ้าเกิดเป็นบุคคลที่โมไม่ได้รู้สึกดีด้วย มันจะเป็นอีกแนวนึงอย่างที่ทุกคนเคยรู้กัน โมเองก็ค่อนข้างที่จะตรง”
เผยที่ผ่านมาเหนื่อยกับการเป็นผู้นำแฟนหนุ่ม แต่พอมาเจอแต๊งค์ที่ปราบตนอยู่ มั่นเป็นผู้นำที่ดีให้ได้
“โมเคยให้สัมภาษณ์ว่า จะมีจำนวนน้อยคนมากที่เอาโมอยู่ แล้วโมยอมที่จะฟังความคิดเห็นของเขา ฟังคำสั่งเขา ซึ่งพี่แต๊งค์เองก็เป็นหนึ่งในบุคคลนั้นค่ะ ตัวโมเองเลือกที่จะเชื่อบางคนเท่านั้น คนที่โมสามารถเชื่อได้ จะต้องมีคุณสมบัติพอที่โมจะเชื่อ โมเองก็หามานานมาก เคยถามตัวเองตลอด คุณสมบัติก็ไม่มีอะไรมาก ก็ต้องมีความเป็นผู้ใหญ่ มีเหตุผลพอ...ไม่รู้สิค่ะ ต้องลองมาอยู่ด้วยกันเอง"
"แต่ว่าคนที่ผ่านมาไม่ใช่ว่า โมจะไปเป็นผู้นำเขาตลอด มันไม่เชิง คือเรื่องใหญ่ของเราอาจจะเป็นเรื่องเล็กของอีกคนนึงก็ได้ หรือว่าเรื่องใหญ่ของเราอาจจะเป็นเรื่องเล็กๆของเขาก็ได้ เพราะฉะนั้นบางเรื่องที่มันไม่ตรงกัน มันก็กลายเป็นว่าคนอีกฝั่งนึงขาดคุณสมบัติไปแล้ว”
ฟากหนุ่มแต๊งค์ออกตัวแรงกว่าแฟนสาว บอกไม่เคยรู้จักหนุ่ม “ก้อง” รู้แต่เพียงเป็นชื่อของแฟนเก่า ลั่นไม่เคยสั่งห้ามฝ่ายหญิงคุยกับอดีตคนรัก ส่วนเรื่องการปราบพยศ “แตงโม” จะใช้วิธีไม้อ่อนเข้าลูบ
“เขาคือใครครับ โมไปเจอใครมา พอดีว่าผมไม่รู้จักครับ...ผมก็เลยตอบอะไรไม่ได้ จำหน้าเขาไม่ได้ด้วย คือผมเองไม่ได้ทำงานตรงนี้ ผมไม่ค่อยได้ดูทีวีด้วย รู้จักชื่อเขาว่าเป็นแฟนเก่าของแตงโม ถ้าให้เห็นหน้าคงจำไม่ได้ นี่ไม่ได้ตอบเหมือนจะไปเปิดศึกกับเขานะ คิดกันไปเองมั้งครับ (หัวเราะ)”
“ที่น้องบอกว่าเกรงใจเรา ตรงนี้ก็รู้สึกดีนะแต่ว่าตรงนี้เรื่องของอดีต มันก็คือเรื่องของอดีต ถ้าเขาอยากจะทักหรือว่าคุยกันในฐานะของคนรู้จัก มันเป็นเรื่องที่ชอบด้วยเหตุผลอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ไม่มีการสั่งห้าม ไม่ได้มีการพูดเปรยอะไร เอาเป็นว่าจบลงตรงที่ไม่ได้สั่งห้ามแล้วกัน ไม่ได้แอบเอ่ยอะไรทั้งนั้น”
“ส่วนเรื่องที่เป็นผู้นำเอาเขาอยู่ จริงๆที่อยู่ก็ยังไม่ค่อยสนิท ก็มีเกเรบ้างนิดหน่อย แต่ผมก็จะมีวิธีการมีอะไรก็พูดกันเลย หรือถ้ายังไม่เข้าใจกันจริงๆก็ต้องมีวิธีการใช้ไม้อ่อน พูดถึงความเป็นผู้นำที่ผมนำอะไรโมได้บ้าง จริงๆแล้วถ้ามันไม่ถึงเวลาที่มีปัญหา หรือว่าอะไรกัน"
"ผมว่าเรื่องความเป็นผู้นำมันไม่ค่อยจำเป็น เพราะน้องโมเขาก็โตเป็นผู้ใหญ่ มีความสามารถในการทำงาน เป็นคนที่ทำงานเก่ง แล้วก็มีความสามารถในการตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ถึงเวลาที่เขามีปัญหาจริงๆ ผมก็จะไม่ได้ให้คำปรึกษาอะไร”