"แครี่ ฟิชเชอร์" ดาราสาวใหญ่ผู้โด่งดังจากบท "เจ้าหญิงเลอา" ในหนังไตรภาค "สตาร์ วอร์ส" เมื่อ 30 ปีก่อน ออกมาเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวอันเต็มไปด้วยปัญหาในการแสดงเดี่ยวครั้งล่าสุดของเธอ
ถ้าใครสักคนที่จะมีปัญหาส่วนตัวมากพอ ที่จะนำมาเป็นเนื้อหาในการแสดงเดี่ยวความยาวสามชั่วโมงได้ก็คงจะเป็นสาวใหญ่คนนี้ที่ผ่านเรื่องราวในชีวิตมามากมายเหลือเกิน
แครี่ ฟิชเชอร์ เกิดมาในครอบครัวนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ แต่เต็มไปด้วยความแตกแยก, มีชื่อเสียงตั้งแต่อายุน้อย, มีปัญหาการติดเหล้ายามาตั้งแต่วัยรุ่น, ต้องทนทุกข์กับอาการป่วยซึมเศร้ารุนแรง, แต่งงานครั้งแรกกับนักร้องชื่อดัง พอล ไซมอน กลายเป็นที่จับตามองต้องจบลงด้วยการหย่าร้างภายในปีเดียว ขณะที่ความสัมพันธ์ครั้งที่สองกับเอเย่นต์ชื่อดัง ไบรอัน ลอร์ด ที่มีพยานรักเป็นลูกสองคน กลับต้องจบลงเมื่อแฟนหนุ่มของเธอเป็นฝ่ายปันใจไปให้ชายคนอื่น
เรื่องราวเหล่านี้ในชีวิต จะถูกเล่าในการแสดงที่ชื่อว่า "Wishful Drinking" ที่เป็นการหยิบเอาหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองในชื่อเดียวกัน มาดัดแปลงเป็นการแสดงเดี่ยว ซึ่งเปิดการแสดงตั้งแต่วันนี้จนถึง 3 ม.ค. ปีหน้าที่สตูดิโอ 54 นิวยอร์ก
Wishful Drinking เป็นการแสดงที่เปิดโอกาสให้กับ แครี่ ฟิชเชอร์ วัย 52 ได้แสดงด้านที่แตกต่างจากที่คนทั่วไปคุ้นเคยกัน อารมณ์ขันแบบตลกร้ายถูกเล่า และแสดงออกมาอย่างไม่บันยะบันยัง รวมถึงการล้อเลียนตัวละครสุดฮิตที่เธอเคยรับบทอย่าง เจ้าหญิงเลอา
แครี่ ฟิชเชอร์ เกิดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 1956 เป็นลูกของครอบครัวนักแสดงผู้โด่งดังมีพ่อและแม่ที่ชื่อว่า เอ็ดดี่ ฟิชเชอร์ และเด็บบี้ เรย์โนลดส์ นอกจากนั้นเธอยังประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุน้อย มีบทบาทในหนังที่เรียกได้ว่าโด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์โลก แต่ในอีกด้านหนึ่งเธอกลับต้องเผชิญหน้ากับปัญหาส่วนตัวมาตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาไม่ลงรอยกับแม่
อย่างไรก็ตามแม้หลังจาก สตาร์ วอร์ส แครี่ ฟิชเชอร์ จะไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดังในทางการแสดงเท่าเดิม แต่เธอก็ประสบความสำเร็จกับอาชีพนักเขียน มีผลงานหนังสือ และบทภาพยนตร์ออกมาหลายชิ้น
Wishful Drinking กลายเป็นที่สนใจของคนดู และสื่อมวลชน เพราะเรื่องราวส่วนตัวอันโด่งดัง และความสามารถที่แสดงออกมาในงานเขียนของเจ้าตัว แต่ก็มีบางส่วนมองว่า การผสมของอารมณ์ความหดหู่, การจิกกัดตัวเอง และมุขตลกร้าย ของการแสดงชุดนี้ ออกจะให้ความเครียดมากกว่าที่จะให้เสียงหัวเราะอย่างที่การแสดงเดี่ยวปกติทั่วไปพึงมี จนบางเสียงบอกว่าการดูโชว์ครั้งนี้เหมือนมาจ่ายเงินฟังผู้หญิงวัย 52 บ่นถึงเรื่องของตัวเองมากกว่า
เจ้าตัวตอบถึงเรื่องนี้ว่า "ชีวิตของฉันอาจจะไม่ตลกเท่าไหร่ แต่มันเป็นเรื่องจริง หลายๆ เรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตมันเป็นเรื่องที่ยากมาก" แครี่ ฟิชเชอร์ ยังตอบคำถามที่ว่าเมื่อไหร่จะเลิกออกผลงานประเภทที่หมกมุ่นกับเรื่องราวส่วนตัวของตัวเองเสียทีหลังจากมีผลงานเป็นนิยาย, หนังสือชีวประวัติ รวมถึงบทภาพยนตร์เรื่อง Postcards from the Edge ที่เล่าเรื่องความสัมพันธ์อันซับซ้อนของเธอกับ และเด็บบี้ เรย์โนลดส์ ผู้เป็นแม่
"ใช่ฉันก็อยากจะทำงานเกี่ยวกับเรื่องอื่นๆ นอกจากเรื่องส่วนตัวเหมือนกัน แต่งานแบบนี้มันเป็นวิธีเดียวที่ช่วยฉันรับมือกับเรื่องร้ายต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต" เธอให้คำตอบเอาไว้
ไม่ต่างจากหลายๆ คนที่ใช้ความตลกขบขันเป็นเครื่องรางป้องกันปัญหาจากความหดหู่ซึมเศร้า แต่สำหรับแครี่ ฟิชเชอร์ บาดแผลทางใจที่สะสมมาตั้งแต่วัยเยาว์ของเธอดูเหมือนว่ายังไม่ยอมหายสนิทเสียที