ตัวแทนทางกฎหมาย ของผู้ดูแลกองมรดก "ไมเคิล แจ็คสัน" ตัดสินใจฟ้องร้องต่อมูลนิธิการกุศลที่ใช้ชื่อว่า "Heal the World" จากพฤติกรรมแอบอ้างชื่อของซุปเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับ ในการเรี่ยรายเงิน
ตัวแทนทางกฎหมาย ที่ดูแลทรัพท์สินของราชาเพลงป๊อบผู้ล่วงลับ ได้กล่าวหาว่ามูลนิธิ Heal the World ว่าจงใจใช้ชื่อเพลงฮิตของไมเคิล แจ็คสัน เพื่อสร้างความเข้าใจผิด ว่างานการกุศลของมูลนิธิมีส่วนเกี่ยวข้อง แจ็คสัน ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วไม่ใช่
ในเว็บไซท์ของมูลนิธิดังกล่าวยังมีเนื้อหา และข้อความหลายจุดที่อ้างอิงไปถึง แจ็คสัน เพื่อการเรี่ยรายเงิน ซึ่งอันที่จริงแล้วกิจกรรมของ Heal the World ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ ไมเคิล แจ็คสันหรือครอบครัวเลย
ต้นเหตุของความสับสนครั้งนี้มีที่มาเริ่มต้นเมื่อปี 1992 เมื่อ ไมเคิล แจ็กสัน ได้ปล่อยผลงานชุด Dangerous ออกมาซึ่งบรรจุเพลงที่ชื่อว่า Heal the World ความยาว 6.25 นาทีที่แต่งออกมาเพื่ออุทิศให้กับเด็กๆ ทั่วโลก ต่อมา แจ็กสัน ตัดสินใจใช้ชื่อเพลงดังกล่าวก่อตั้งเป็นมูลนิธิ Heal the World ขึ้นมา มีจุดมุ่งหมายในการ ช่วยเหลือ เด็ก และผู้คนทั่วโลกที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างยากลำบาก โดยเขานำเงินรายได้คอนเสิร์ต The Dangerous World Tour จำนวน 67 รอบที่มีคนดูกว่า 3.5 ล้านคน ของ ระหว่างวันที่ 27 มิ.ย. ถึง 11 พ.ย. 1993 มาบริจาคเข้ามูลนิธิทั้งหมด
งานของมูลนิธิ Heal the World ของ แจ็คสัน ประกอบไปด้วยกิจกรรมอันหลากหลายเช่น บริจาคและขนส่งอาหารจำนวน 47 ล้านตันให้กับผู้อดยากที่ซาราเยโว, ก่อตั้งโครงการให้การศึกษาเรื่องยาเสพติด และเหล้า, บริจาคเงินหลายล้านเหรียญให้กับเด็กยากจนทั่วโลก และบริจาคเงินเพื่อการเปลี่ยนถ่ายตับให้กับเด็กในฮังการี
อย่างไรก็ตามมูลนิธิ Heal the World ของ แจ็คสัน ได้ปิดตัวเองลงไปในปี 2002 หลังจากที่ล้มเหลวในการยื่นหลักฐานทางการเงินประจำปี เพื่อขอยกเว้นภาษีสำหรับองค์กรการกุศล
ส่วนมูลนิธิ Heal the World ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่นี้ ก่อตั้งเมื่อปี 2008 ดำเนินงานโดยสตรีที่ชื่อ เมลิซา จอห์นสัน และได้ถูกตั้งข้อกล่าวหา ว่าอาศัยชื่อนักร้องชื่อดังมาได้ระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการจัดการอะไรอย่างจริงจัง จนกระทั่งการเสียชีวิตอย่างกะทันหันของ ราชาเพลงป๊อบ ทำให้มีผู้บริจาคเงินให้กับมูลนิธิที่ว่านี้ จากการค้นหาชื่อหาทางอินเตอร์เน็ต และโอนเงินทาง Paypal ตั้งแต่เดือน ก.ค. เป็นต้นมา รวมแล้วถึง 6,191 เหรียญสหรัฐ (216,685 บาท) จึงทำให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง ต้องออกมาดำเนินการทางกฎหมายอย่างจริงจังในที่สุด