xs
xsm
sm
md
lg

“เอกชัย” เปิดบ้าน 50 ล้านแข่ง "ลีเดีย" ใจดีแบ่งให้ “นาธาน” 1 ห้องหวั่นอยู่คนเดียวโดนกระทืบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอกชัย” เปิดบ้าน 50 ล้าน โต้ข่าวเป็นผู้ทรงอิทธิพล ลั่นเป็นคนเก็บหอมรอมริบเลยมีวันนี้ เผยอยากได้บ้านแถมเครื่องบินแบบ “ลีเดีย” เหมือนกันแต่ไม่รวยเท่า ใจดียกห้องให้ “นาธาน” หนึ่งห้อง หวั่นอยู่คนเดียวอาจโดนอุ้มไปกระทืบ

“เอกชัย ศรีวิชัย” ได้ฤกษ์ดีเปิดบ้าน 50 ล้านย่านลำลูกกา คลอง 5 หมู่บ้านวราบดินทร์ ต้อนรับสื่อมวลชน พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปของบ้านหรูหลังดังกล่าว โต้ข่าวเป็นผู้ทรงอิทธิพลไปไหนมีแต่บอดี้การ์ล้อมรอบ

“คือผมมีบ้านที่บางบัวทองอยู่แล้ว ที่เลือกทำเลที่นี่เพราะว่าเขาจะย้ายสนามบินจากดอนเมืองไปสุวรรณภูมิ แล้วเราต้องใช้สนามบินในการเดินทางมากกว่าเรื่องรถเลยคิดว่าถ้าเราอยู่ที่นั่นคงแย่แน่เลย ตอนแรกคิดคนเดียวแต่พอมาเจอฝน ธนสุนทร ในวันเกิดของเขาทุกคนก็เลยคิดเหมือนกันหมด เพราะว่าถ้าย้ายสนามบินเมื่อไหร่เราคงลำบากในการเดินทาง เขาก็เลยตั้งผมให้เป็นหัวหน้าทีมในการหาทำเล เราหาอะไรที่มันจะใกล้มอเตอร์เวย์ที่สุด ก็ปรากฏว่าตรงนี้มันใกล้สนามบินที่สุดห่างแค่ 27 กิโล”

“พอมาเจอเราก็มาเจอเฮีย พอมาเจอเฮียก็คุยกันถูกคอมาก มาคุยกันแล้วถูกชะตา โดยเฉพาะประเด็นหลังที่คุยกันเพราะว่าตอนที่มาคุยบ้านยังไม่มีมีแต่ที่ดินเปล่าๆ และเราก็มาเลือกว่าเราจะเอาหลังไหน และข้อแรกที่ประทับใจคือฝั่งที่บ้านผมอยู่เป็นโซนที่ราคาสูง และที่ดินราคาสูงกว่าโซนอีกฝั่งหนึ่ง ฝน พาเมล่า(พาเมล่า เบาว์เด้น) แจ๊ค ธนพล(ธนพล สัมมาพรต) ก็มาซื้อด้วยเราไม่กั้นรั้ว ทำเป็นหมู่บ้านลูกทุ่ง เพียงแต่มีหลักอาณาเขตว่าเป็นของใคร นอกจากนั้นแล้วทางเฮียก็ยังลดราคาให้เป็นพิเศษ ค่าโอนก็ไม่เอา ตอนนั้นบ้านยังสร้างไม่เสร็จเลยค่าวัสดุมันจะขึ้นไปเท่าไหร่ก็ไม่รู้ แต่เขาก็ลดราคาให้เราผมเลยบอกว่าเอาที่นี้เลย”

ฟุ้งไอเดียตกแต่คิดเองหมด ซึ่งของตกแต่งก็มีทั้งแพงและถูก
 
“บ้านหลังนี้ผมทำเองหมดเลย ปลูกต้นไม้ใช้เครน 70 ตัน มาปลูกไฟดับหมดเลย เพราะสายไฟฟ้าขาด พอลงแล้วก็ร่มรื่นเลย ไอเดียแต่งบ้านผมทำเองหมดเลย ออกไอเดียเองเลยเปิดหนังสือดูเอา ต้องบอกก่อนว่าเป็นคนชอบแต่งบ้านชอบเฟอร์นิเจอร์ ชอบต้นไม้ว่างไม่ได้ต้องไปดูต้นไม้”

“ของที่ตกแต่งก็มีทั้งที่ราคามันก็จะอยู่หลักพันไม่เกินหมื่นก็ไปหาซื้อ บวกกับของที่มีราคาสูงก็มี ของที่ตกแต่งและหายากที่สุดก็จะเป็นพวกของโบราณจริงๆ พวกเครื่องเล่นเครื่องเสียงวิทยุ และก็มีของที่เอามาจากเยอรมันราคาบอกไม่ได้อยู่ประมาณหลักแสนขึ้นไป และยังใช้ได้หมดเลย ส่วนใหญ่ของโบราณจะหายาก อย่างพระพุทธรูปของเขมร แอร์ก็มีตัวละแสนกว่าบาท”

“ค่าตกแต่งที่ใช้ไปไม่กล้าคำนวณเลย ประมาณสิบล้านแต่ถ้ารวมตกแต่งก็เกิน ถ้าคิดไปแล้วจะใจหาย แต่ว่าไม่ได้เอาเงินก้อนใหญ่ๆ มาลงนะผมก็ทำของผมไปเรื่อยๆ คฤหาสน์ร้อยล้านไม่ถึงร้อยนะ จริงๆ มันขึ้นอยู่ว่าใครอยากจะโชว์อะไร ที่เปิดบ้านวันนี้เพราะว่าเพราะอยากให้มองในแง่ของคนเก็บหอมรอมริบ ใช้เงินในทางที่ถูกต้องที่ควร แต่ไม่ได้หมายความว่าเป็นผมในวันนี้แล้วจะมีแบบนี้ ถ้าสมมุติผมไม่เก็บหรือใช้เงินในทางที่ถูกต้องที่ควรจะใช้ ผมก็ไม่มีวันนี้แน่นอน อย่างที่สองใจอยากจะให้ทุกคนรู้จักบ้านนี้คนเราทำธุรกิจก็หวังกำไร แต่เขาเป็นคนที่ไม่ขูดเลือดขูดเนื้อ และไม่ใช่หมู่บ้านที่ดังมาก”

รวมเบ็ดเสร็จค่าบ้านและตกแต่งว่ากันว่าบ้านของ “เอกชัย” มีมูลค่าถึง 50 ล้านบาทขึ้นไปเลยทีเดียว งานนี้ผู้สื่อข่าวก็เลยอดถามไม่ได้ว่า ทำไมไม่ซื้อหมู่บ้านเดียวกับ “ลิเดีย ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา” เพราะราคาใกล้เคียงกันซ้ำยังแถมเครื่องบินอีกต่างหาก

“อ๋อ หมู่บ้านเดียวกับลิเดียเขามีที่จอดเครื่องบินให้ด้วยเหรอ เครื่องบินเดี๋ยวนี้ผมก็อยากมีนะ แต่ว่าการขออนุญาตเขายังไม่ให้เอกชนมีและเรื่องของผู้ขับขี่ยังต้องไปสอบกันอีกเยอะมาก อนุญาตเรื่องสอบใบขับขี่แต่ว่าไม่อนุญาตให้มีของมีเครื่อง และไม่มีการอนุญาตให้มีที่จอดของเราส่วนตัวไม่มี คือประเทศไทยยังไม่ได้อย่างนั้น คือถ้าเขาให้เป็นเที่ยวบินไป สมัครการบินได้ก็มีกันทุกคนแหละ เพราะว่ามันรีบเหมือนอย่างเมืองนอกศิลปินทุกคนก็จะมีเครื่องบินของเขา แต่ถ้าถามเรื่องค่าใช้จ่ายก็เยอะนะมันต้องดู บินเพื่อไปรับงานเจ็ดพันห้าก็ไม่น่านะ(หัวเราะ) และผมก็ไม่ได้มีฐานะดีเหมือนลิเดีย”

ซื้อบ้านราคาแพงขนาดนี้ แถมเวลาไปไหนมาไหน “เอกชัย” ก็ยังมีบอดี้การ์ดดูแลความปลอดภัยอีกมากมาย แม้กระทั่งที่บ้านก็มีคนดูแล งานนี้ก็เลยไม่แคล้วโดนข้อหา “ผู้ทรงอิทธิพล”

“ทำไมถึงไม่มองในมุมกลับครับว่าถ้าผมไม่ดีเด็กจะเคารพเหรอ ถ้าผมไม่ดีผู้พิพากษาจะคบผมเป็นเพื่อนเหรอ ถ้าผมไม่ดีผู้บัญชาการจะกล้าคบผมเหรอ ถ้าผมไม่ดีนายอำเภอผู้ว่าจะคบผมเหรอ ถ้าผมเป็นคนแย่ผู้ใหญ่เขาจะมาให้ความสำคัญอะไร ต่อไปเขาจะคบเรามั๊ยก็ไม่คบต้องมองในอีกมุมหนึ่ง ต้องคิดบวกสิถึงจะสวย พวกสห.พวกคนติดตามผมไม่ได้เอามาไว้ยิงใครนะ เอามาไว้ยกกระถางต้นไม้”

“ถ้าคนไม่รู้จักผมนะ รู้ไว้ว่าผมเป็นคนง่ายๆ มากมีเหตุมีผล ง่ายๆ มากเลย ไม่มีพิธีรีตองอะไร เป็นคนง่ายมากง่ายมากๆ และเรื่องข่าวที่เกิดขึ้นกับผมเพราะว่าไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่แรก อย่างผมด่าแม่ทำไมไม่เล่าก่อนว่าก่อนที่จะด่าแม่มันเกิดอะไรขึ้น และมันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะไปว่าใคร คือมันต้องมีอะไรกันมาก่อน พูดอะไรก่อนที่มันไม่เข้าหูแล้วมันสะท้อนกลับ อย่างไปกองถ่ายเจอผมด่าใหญ่เลย ด่าอย่างนู้นอย่างนี้ทำไมไม่เล่าก่อนว่านัดแปดโมงแล้วมาสิบโมง ประเด็นอย่างนี้ แต่ไม่ได้เป็นคนที่จะเอาประเด็นตรงนั้นมาคิด แต่งานเสร็จไปกินข้าวกัน”

ส่วนกระแสข่าววิพากษ์วิจารณ์กรณีที่ออกมาให้สัมภาษณ์ปกป้อง “นาธาน โอร์มาน” ไม่ว่าเจ้าตัวจะทำผิดหรือถูกก็ตาม เจ้าตัวไม่อยากพูดถึงแต่ยังยืนยันคำเดิมว่ายินดีให้ความช่วยเหลือ และบ้าน 50 ล้านหลังนี้ก็มีห้องสำหรับนาธานโดยเฉพาะ

“คือผมจะพูดทุกครั้งว่าจะไม่พูดเรื่องนาธานแล้วไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด แต่คือที่ถามว่านาธานมีห้องก็มีครับ อยู่ข้างบน มานอนบ้าง และผมก็ยินดีให้เขามาพักผ่อน ด้วยความที่เป็นพี่ก็ต้องดูแลน้องก็เป็นเรื่องปกติ เขาก็เคยมาพักที่นี่ ห้องเขาอยู่ข้างบนผมให้เขา ก็เป็นห่วงเขาเพราะว่ากลัวว่าถ้าเขาไปอยู่ที่ไหนคนเดียว กลัวคนจะอุ้มไปกระทืบ เราก็ต้องดูแลกันนะ ในระดับหนึ่งก็เป็นหน้าที่ของคนที่รู้จักกัน คบกันเรื่องจะผิดจะถูกเราไม่พูด เพราะว่าคนเรามันก็มีมุมมองของเราทุกอย่าง ทุกคนมีวิธีคิดเป็นของตัวเอง ส่วนวิธีคิดมันจะผิดหรือถูกสังคมเป็นคนบอกเอง”

“ส่วนข่าวจะออกมายังไง ผู้บริโภคข่าวเองก็จะต้องบริโภคข่าวสองด้านนะ อย่าบริโภคด้านเดียวคือสังคมเมืองไทยข่าวออกไปก่อนโดยที่ยังไม่ได้พูด คนก็จะเชื่อข่าวนั้นๆ แต่พอคนเขาออกมาบอกเองก็กลับกลายเป็นว่าแก้ตัวทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องของเรา อย่างในอินเตอร์เน็ตมันก็ติได้ ว่าได้ทุกเรื่องในอินเตอร์เน็ต ผมว่าถ้าเกิดว่าลงความเห็นมาแล้ว แล้วเราสามารถไปถึงบ้านเขาได้ คงไม่ถึงขนาดนี้ เมื่อก่อนอ่านแล้วเหงื่อแตก อ่านแล้วอยากไปบ้านไอ้ที่แสดงความคิดเห็นนั้นนะ แต่มันไปไม่ถูก และส่วนหนึ่งที่คนเขากล้าพูดเพราะว่าเราไปบ้านเขาไม่ถูก ทีนี้เราก็มาคิดอีกว่าถ้าผู้ใหญ่จริงๆ เขาคงไม่ลงรายละเอียดกันถึงขนาดนี้ อันนี้ก็น่าจะว่างกันมาก”

“ถึงข่าวของนาธานจะออกมายังไง จะหาว่าออกมาปกป้องนาธานอะไร ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบในส่วนของคนที่เป็นแฟนเพลงผมก็ยังเป็นแฟนเพลงของผม ขนาดผมไปเล่นหนังเป็นกะเทยเขายังรับได้เลย อันนั้นถ้ามองในภาพพจน์ของคนที่เป็นศิลปิน ผมว่าภาพมันก็ที่สุดแล้ว แต่แฟนเพลงกลับบอกว่าเล่นดีมากเลยนะ ตลกมากขำมากนั้นคือสิ่งที่เรา อยากให้เขาเสพจากตัวเรา คือความสุขต่างหาก ไม่ใช่เสพว่าเรานุ่งกางเกงสีอะไร ผมว่าเรื่องต้นไม้มันเหลือเยอะมั๊ยในประเทศไทย ยาเสพติดเยอะมั๊ย เด็กติดยาเยอะมั๊ยผมว่าเรื่องนี้น่าสนใจกว่าประวัติของนาธาน น่าสนใจกว่าเยอะมากๆ เลยนะผมว่า”

“แต่มันก็มีบางกระแสนะที่ออกมาพูดเรื่องนาธานแล้วว่าว่าไม่ดี ซึ่งผมว่าเราเองเราควรจะรู้ว่า เราทำอะไรอยู่ ถ้าเกิดคนที่เป็นพ่อคนเป็นพี่เป็นน้องคนออกมาพูดปกป้องคนในครอบครัวหรือว่าพี่น้องเราเอง ผมว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกของสังคมไทย ส่วนใครจะมองยังไง ผมว่าคนที่รักผมคนที่เข้าใจผมก็เข้าใจ ส่วนคนที่ไม่ชอบทำยังไงมันก็ไม่ชอบ ต่อให้กูหน้าตาดีกว่านี้อีกร้อยเท่าพันเท่ามันก็ไม่ชอบ คือคนที่เขาไม่ชอบจะพูดยังไง มันก็บอก คนไม่ชอบมันก็ติได้ทุกเรื่องนะ”





















กำลังโหลดความคิดเห็น