ปัญหาเรื่องเงินๆ ทองๆ ระหว่าง สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ฮอลลีวูด ผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง “The Lord of The Rings” ของนักเขียนชาวอังกฤษ “เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน” ยุติลงด้วยการรอมชอม ซึ่งน่าจะทำให้หนัง The Hobbit ที่เล่าเรื่องก่อนหน้า สามารถดำเนินการสร้างต่อไปได้แล้ว
Lord of the Rings เป็นหนังที่สร้างจากนิยายแฟนตาซีชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่างความดีกับความชั่ว ในโลกสมมุติที่ชื่อว่า ‘มิดเดิลเอิร์ธ' ที่อาศัยของเผ่าพันธุ์ต่างๆ อย่าง มนุษย์ พ่อมด คนแคระ เอลฟ์ ออร์ค และ ฮอบบิท โดยมีหัวใจของเรื่อง อยู่ที่แหวนวิเศษอันเป็นศูนย์รวมแห่งความชั่วร้าย
หนังสามตอนที่ถูกสร้างโดยบริษัท นิว ไลน์ ซินิมา ระหว่างปี 2001 ถึง 2003 กลายเป็นงานที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล หนังทั้งสามเรื่องทำเงินรวมกันถึงเกือบ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากการฉายทั่วโลก สามารถคว้ารางวัลออสการ์มาได้ถึง 17 ตัว และทำให้เกิดแฟชั่นการหยิบเอาหนังสือแฟนตาซีชื่อดัง มาสร้างเป็นหนังอยู่พักใหญ่
ด้วยความสำเร็จอันมากมาย จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่นิยายตอนก่อนหน้าที่ชื่อว่า The Hobbit ซึ่งเป็นผลงานเรื่องแรกของผู้เขียน จะถูกหยิบยกขึ้นมาสร้างด้วย โดยหนังจะเล่าเรื่องการผจญภัยของตัวละครที่ชื่อว่า บิลโบ แบ๊กกิ้นส์ ผู้ค้นพบแหวนแห่งความชั่วร้ายที่ปรากฏอยู่ในหนัง The Lord of the Rings
ทางผู้สร้างวางแผนที่จะสร้างหนังออกมาเป็นสองภาค เข้าฉายติดต่อกันในปลายปี 2011 และ 2012 โดยวางตัว กีลเลอร์โม่ เดล โทโร่ เจ้าของผลงาน Hellboy และ Pan’s Labyrinth ไว้ในตำแหน่งผู้กำกับ โดยปีเตอร์ แจ็กสัน ผู้กำกับหนัง The Lord of the Rings จะรับผิดชอบในส่วนของบทหนัง และการอำนวยการสร้าง
แต่แล้วแผนการสร้างหนัง The Hobbit ก็ต้องชะงักลงชั่วคราว เมื่อเกิดคดีความเรื่องเงินๆ ทองๆ ระหว่างบริษัทผู้สร้างหนัง กับผู้รับผลประโยชน์ในนิยาย The Lord of The Rings ขึ้น
ในเดือน ก.พ. 2008 สำนักพิมพ์ ฮาร์เปอร์คอล์ลินส์ กับกองทุนโทลคีน ได้ร่วมกันเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง ต่อ นิว ไลน์ ซินิม่า ที่ละเมิดข้อตกลงว่าด้วยผลประโยชน์จำนวน 7.5 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ทั้งหมดจาก Lord of the Rings ซึ่งคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งต่างกันลิบลับกับตัวเลขที่ สตูดิโอชื่อดังจ่ายให้ก่อนที่หนังจะเปิดกล้อง เป็นจำนวน 62,500 เหรียญเท่านั้น
กองทุนโทลคีน เป็นบริษัทกองทุนที่ตั้งมาเพื่อจัดการกับทรัพย์สิน และผลประโยชน์ของนักเขียนผู้ล่วงลับ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการกุศล ซึ่งได้บริจาคเงินเพื่อการกุศลไปแล้วมากกว่า 8 ล้านเหรียญในเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ คริสโตเฟอร์ โทลคีน ลูกชายคนเดียวของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการของ กองทุน ได้ออกมาให้เหตุผลถึงการฟ้องร้องครั้งนี้ว่า "คดีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่การตกลงเรื่องผลประโยชน์ให้ถูกต้องซะ จะสามารถทำให้ภารกิจด้านการกุศล อันเป็นเป้าหมายหลักของกองทุนสามารถลุล่วงไปได้"
ศาลไม่รับคำฟ้องตามตัวเงินดังกล่าว แต่ก็อนุญาตให้ผู้เสียหายฟ้องร้องต่อ นิว ไลน์ ซีนีม่า ในข้อหาผิดต่อสัญญาได้ คดีความที่เกิดขึ้นมีผลโดยตรงต่อการสร้าง The Hobbit ที่กำลังอยู่ระหว่างเตรียมงานสร้างต้องหยุดชะงักลงอย่างไม่มีกำหนด และอาจทำให้หนังไม่สามารถเข้าฉายได้ตามกำหนดปี 2011
คดีความที่เกิดขึ้นดำเนินมายาวนานประมาณ 1 ปีครึ่ง จนกระทั่งในวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าปัญหาจะได้รับการคลี่คลายแล้ว เมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงรอมชอมกันได้นอกศาล
ขณะนี้ยังไม่มีแถลงการณ์ อย่างเป็นทางการออกมา ว่าข้อตกลง เรื่องผลประโยชน์มีรายละเอียดเป็นอย่างไร แต่ คริสโตเฟอร์ โทลคีน ได้ออกแถลงการณ์ซึ่งน่าจะเป็นที่พึ่งพอใจของแฟนหนังว่า "ตอนนี้ นิว ไลน์ สามารถดำเนินการสร้าง The Hobbit ต่อไปได้แล้ว"
