“นาธาน” แสบกว่าเก่า เหยื่อถูกตุ๋นโผล่อีกราย ถูกหลอกจะฝากเข้าทำงานที่ททท. สูญเงินไปเกือบ 8 หมื่นบาท ทวงถามแต่บ่ายเบี่ยงตลอด ล่าสุดคอนเฟิร์มจะคืนเงินก่อนสิ้นก.ย. แต่เหยื่อไม่ไว้ใจเลยเข้าแจ้งความข้อหายักยอกทรัพย์ วอนให้คืนเงินอย่างน้อย 5 หมื่นพร้อมจบ แต่ถ้าไม่ทำจะสู้ดำเนินคดีจนถึงที่สุด
ดูท่าการลวงโลกของอดีตนักร้องหนุ่ม “นาธาน โอร์มาน” จะเป็นการลวงโลกเข้าขั้นมหากาพย์ มีหลายภาคให้ติดตามต่อ เพราะนอกจากคดีฉ้อโกงเงินกรุ๊ปลูกทัวร์ และหุ้นส่วนร้าน “จามารี ยัค คาเฟ่” แล้ว ล่าสุดมีผู้เสียหายซึ่งเป็นเหยื่อโดนตุ๋นโผล่เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งราย โดย น.ส.อรทัย ยิ้มละม้าย วัย 27 ปีอดีตพนักงานบัญชีโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เดินทางมายังสน.หัวหมาก เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับอดีตนักร้องหนุ่ม ในข้อหายักยอกทรัพย์และฉ้อโกง
ซึ่งเธอได้หอบหลักฐานเป็นใบโอนเงิน และสำเนาใบเสร็จรับเงินของการท่องเที่ยวประเทศไทย (ททท.) มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นจึงได้เปิดเผยรายละเอียดว่า นาธานตุ๋นเงินเธอไปเกือบ 8 หมื่น โดยหลอกว่าจะฝากเข้าทำงานที่ททท.ได้เงินเดือนเกือบ 4 หมื่น ซึ่งเธอก็หลงเชื่อและโอนเงินไปให้ตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว
“ที่มาวันนี้เพราะอยากได้เงินคืน พอดีเขาบอกว่าจะฝากงานให้เรา เขารู้จักกับเลขาฯ หน้าห้องท่านผอ.ของททท. ที่ชื่อ รจนา แล้วเขาก็อ้างว่ามันจะต้องมีค่าดำเนินการในการที่จะเข้าไปทำงานในนั้น เหมือนเป็นค่าสมัคร รวมแล้วทั้งหมดเป็นเงิน 78,780 บาท แต่เขาให้ดำเนินการจ่ายเป็นงวดๆ งวดแรกคือ 69,000 ซึ่งเราก็โอเคเห็นดีด้วย”
“เขาไม่ได้พูดอะไรมาก เขาแค่บอกว่าจะฝากงานให้ เป็นพนักงานฝ่ายพัฒนาเศรษฐกิจต่างประเทศ รับรองได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ชัวร์ และเงินเดือนก็ดีได้ประมาณเกือบๆ 4 หมื่น ซึ่งเราเองก็สนใจ เราเลยโอนเงินให้เขาไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว"
"เขาก็มีใบเสร็จรับเงินมาให้ บอกว่าเป็นเอกสารที่เข้าไปรับมาจากสำนักงาน เป็นการประกันว่า สามารถเข้าทำงานได้แน่ และถ้าทำงานครบ 3 เดือน เราจะได้เงินก้อนนั้นคืน คือใบเสร็จที่ได้มาเหมือนเราก้าวเข้าไปอยู่ในททท.แล้วครึ่งหนึ่ง”
“ก่อนโอนเงินให้เขา เราก็ปรึกษาทั้งครอบครัว ทางครอบครัวก็บอกว่าให้คิดดีๆ ก่อนแต่เราโอเค เราเชื่อถือเขา ถึงแม้จะรู้จักเขาไม่นาน แต่เขารู้จักกับพี่สาวเรา แล้วเขาก็พูดดูน่าเชื่อถือ เรามีโอกาสได้ไปทานข้าวด้วยกันบ้าง ได้โทรคุยและส่งแมสเซจหากันตลอด ก็ถือว่าสนิทกัน”
เรื่องมาแดงตอนไปสอบเข้าททท. และดูผลสอบ ปรากฏไม่มีรายชื่อ จากนั้นมาอ่านเจอข่าวของ “ดีเจ เจเจ” ที่ออกมาแฉนาธานชอบปลอมเสียง เลยรู้ว่าถูกหลอกเข้าเต็มประตู
“จากนั้นเราก็ออกจากงานเดิม เพื่อที่จะสอบเข้าททท. ก็รอสอบมาตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ และได้ไปสอบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา พอถึงเดือนพฤษภาคมก็มีการประกาศผล ปรากฏเราไม่ได้ เราก็คุยกับเขา เขาก็บอกว่าจะไปเอาเงินจากททท. มาคืนให้ จากนั้นก็พูดผลัดมาเรื่อยๆ ว่ายังไม่ได้เงิน เดี๋ยวเขาจะไปยืมคนอื่นเอามาคืนให้ก่อน แต่ปรากฏเรายังไม่ได้ ก็โทรทวงเขาเรื่อยๆ จนรู้สึกว่ามันนานผิดปกติ ”
“พอดีได้มาอ่านข่าวของพี่เจเจ (ดีเจ จามจุรี จูลี่ แคสเชอร์) ที่บอกว่าพี่นาธานชอบปลอมเสียงเป็น รจนา เราก็เอะใจเลยโทรไปปรึกษาพี่เจเจที่รายการวิทยุ เพราะอยากได้เงินส่วนของเราคืน พี่เจเจโทรกลับมาได้คุยกัน เลยรู้ว่าเราน่าจะถูกหลอก จากนั้นเราก็โทรไปถามที่ททท.ว่า มีเลขาฯ ชื่อ รจนา มั้ย เขาก็บอกว่าไม่มี ส่วนหลักฐานที่เป็นใบเสร็จรับเงิน พอดูแล้วก็รู้ว่าเป็นของปลอม เพราะดูจากช่องไฟการเว้นวรรคตัวอักษรที่พิมพ์แล้ว มันก็ไม่น่าจะใช่ พี่เจเจเลยบอกให้มาแจ้งความที่สน.หัวหมาก”
เผยได้รับการติดต่อจากนาธานว่า จะคืนเงินให้ภายในสิ้นเดือนก.ย.นี้ แต่ไม่ไว้ใจเลยโร่เข้าแจ้งความ ยันเปล่าทำเพราะอยากดัง หรืออยากเกาะกระแส ย้ำแค่อยากได้เงินคืนเท่านั้น
“ จริงๆ มีเพื่อนอีก 2 คนที่โดนแบบเดียวกัน แต่เขาไม่มาร่วมแจ้งความด้วย เพราะเขาอาย และจำนวนเงินของเขาก็น้อยกว่า ก่อนมาแจ้งความวันนี้ก็ไม่ได้โทรบอกพี่นาธาน แต่เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เขาโทรมาบอกว่าอยู่กรุงเทพฯ นี่แหละ ข่าวเขาเริ่มจะเงียบแล้ว"
"เดี๋ยวจะโอนเงินคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ภายในไม่เกินเดือนก.ย. แต่เราไม่ไว้ใจเขาแล้ว เพราะเห็นพูดอย่างนี้มานานแล้ว หลังแจ้งความแล้วยังไม่แน่ใจว่าจะบอกเขาดีหรือเปล่า แต่คิดว่าให้ทางตำรวจดำเนินการจะดีกว่า”
“ตอนแรกไม่อยากมาแจ้งความ เพราะกลัวจะโดนว่ามาเกาะกระแสข่าวพี่นาธาน เรากลัวเสียชื่อ ก็ยังปรึกษาพี่เจเจเลยว่า ไม่อยากออกสื่อ หรืออยากดัง เราแค่อยากได้เงินคืน แต่ที่ยอมออกเพราะอยากให้พี่นาธานรู้ว่า เราอยากได้เงินคืน คิดว่าการมาแจ้งความในครั้งนี้คงไม่ผิดใจกับพี่นาธาน คิดว่าเขาน่าจะเข้าใจ”
“ตอนแรกมาแจ้งความที่สน.หัวหมาก แต่ทางสน.หัวหมากบอกให้ไปแจ้งความที่สน.นวนคร เพราะวันที่โอนเงินให้พี่นาธาน เราโอนเงินผ่านธนาคารกรุงเทพ สาขานวนคร ซึ่งตอนนี้ก็ได้ไปแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียก ให้มาไกล่เกลี่ยกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเขาจะมาหรือเปล่า”
รับเสียความรู้สึกเพราะนับถือเหมือนพี่ชาย วอนนาธานคืนเงินอย่างน้อย 5 หมื่นบาท ถ้าไม่เช่นนั้นจะสู้จนถึงที่สุด
“ก็ยอมรับว่าเสียความรู้สึกที่เรื่องเป็นแบบนี้ เพราะเรารักและเคารพเขาเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง เขาไม่น่าทำกับเราแบบนี้ ถามว่าเป็นการตอกย้ำการลวงโลกของเขาหรือเปล่า (หัวเราะ) อันนี้ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ถ้าเขาเอาเงินมาคืนทุกอย่างก็จบ ตอนนี้ขอคืนสัก 5 หมื่นบาทก็ยังดี ความหวังที่จะได้เงินคืนจากพี่นาธานตอนนี้มีแค่ 40-50 เปอร์เซ็นต์ แต่ถ้าเขาไม่ยอมคืนเงินให้ เราก็จะสู้ถึงที่สุด”