xs
xsm
sm
md
lg

“วุธ” น้ำตาไหลเมียคลอดลูกสาว มาแปลกตั้งชื่อเหมือนผู้ชาย “น้องสิงห์”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“วุธ อัษฎาวุธ” เผยนาทีเห็นหน้าลูกสาวครั้งแรก น้ำตาไหลเป็นปลื้ม แจงคลอดก่อนกำหนดโดยวิธีผ่า พร้อมตั้งชื่อ “น้องสิงห์” เพราะเคยเป็นชื่อของตัวละครที่แสดง รับเห่อถึงขนาดเอารูปตั้งเป็นหน้าจอโทรศัพท์ แย้มอยากมีลูกแค่คนเดียว แต่อนาคตไม่แน่อาจเปลี่ยนใจ

เป็นคุณพ่อสมใจอยากแล้ว สำหรับนักแสดงและพิธีกรหนุ่ม “วุธ อัษฎาวุธ เหลืองสุนทร” ที่ก่อนหน้านี้อ้อมๆ แอ้มๆ หมกเม็ดไม่ยอมรับว่า ภรรยา “ผานิต เจียรวิบูลยานนท์” กำลังตั้งท้องตามกระแสข่าวที่ออกมา แต่ในที่สุดหนุ่มวุธก็ได้เป็นคุณพ่อมือใหม่ตามข่าวลือจริงๆ เมื่อภรรยาได้ให้กำเนิดลูกสาวคนแรก เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น.ของวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ด้วยน้ำหนักแรกคลอด 3,340 กรัม ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ได้ตั้งชื่อลูกสาวสุดที่รักว่า “น้องสิงห์” หรือ “ด.ญ.สิงห์ เหลืองสุนทร”

ล่าสุดเจ้าตัวได้มาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวกลางกองถ่ายละคร “วีรบุรุษดินดำ” ที่ศูนย์วิจัยข้าวปทุมธานี รังสิต คลอง 6 ว่า ลูกสาวคลอดก่อนกำหนด โดยวิธีการผ่าคลอด ซึ่งขณะนั้นตนเพิ่งถ่ายละครเสร็จ เลยเข้าไปให้กำลังใจภรรยาในห้องคลอดด้วย

“น้องคลอดก่อนกำหนด เลยต้องใช้วิธีผ่าคลอด ไม่ได้คลอดเองตามธรรมชาติ จริงๆ เรามีวันที่ดูไว้ว่าจะให้คลอดวันไหนอยู่หลายวัน เพราะเรารู้ว่าน้องเขาอยู่ต่ำ และต้องไม่ครบกำหนดตามเดือนที่ตั้งครรภ์ ที่สำคัญคือน้องไม่กลับหัวเลยต้องผ่า ฉะนั้นเมื่อต้องผ่าแล้วเราก็มีโจทย์ว่าจะให้คลอดวันไหน อย่างวันนี้ยังไม่เจ็บท้องก็ต้องรออีกหน่อย วันต่อมาก็ยังไม่เจ็บท้อง แล้วเขาก็มาเจ็บท้องในวันนั้นพอดี”

“ตอน 6 โมงเช้าผมกำลังถ่ายละครเรื่อง “สะใภ้ใจเด็ด” ของดีด้า เสร็จแล้วกำลังจะไปถ่ายเรื่อง “โก๊ะจ๋าฯ” ที่กาญจนบุรีต่อ บังเอิญวันนั้นกองนัดสายประมาณเที่ยงๆ ผานิตก็บอกเราว่าเจ็บท้อง เราเลยแวะพาไปโรงพยาบาล แล้วก็ไปเข้าห้องผ่าตัดด้วยกันเลย ผมก็ไปให้กำลังใจเขา ไปดูตอนเขาผ่าเห็นแล้วก็ อ๋อ....เขาทำกันแบบนี้เองเหรอ (หัวเราะ) จะบอกว่าโหดก็โหดนะ จะว่าซาบซึ้งก็ซาบซึ้ง”

“ตอนที่เขาผ่าเรารู้ว่าเขาต้องเจ็บแน่ๆ ตัวเขาก็ดูกังวลเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น คนมันไม่เคยไม่รู้กับสิ่งที่ไม่เคยเห็น ยิ่งเป็นการเอามีดมาผ่าร่างกาย แล้วเอาอีกชีวตหนึ่งออกมาจากร่างกาย มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ที่สำคัญคือน่ายินดี พอลูกร้องอุแว้ขึ้นมา เราก็น้ำตาไหลกันทั้งสองคนเพราะชื่นใจ ผมพาภรรยาออกจากโรงพยาบาลแล้วเมื่อวานนี้ แต่ก็รู้สึกงงนิดหน่อย เพราะผมถ่ายละครเยอะ (หัวเราะ)”

เผยเหตุตั้งชื่อลูก “น้องสิงห์” เพราะเคยเป็นชื่อของตัวละคร ที่เคยแสดง เมินถูกมองชื่อเหมือนเด็กผู้ชาย เพราะเป็นคนไม่ยึดติด

“ผมตั้งชื่อลูกว่า น้องสิงห์ เพราะเขาเกิดเดือนสิงหาคม จริงๆ ชื่อนี้มีที่มา ตอนแรกเราไม่รู้ว่าลูกเป็นเพศอะไร เราก็มีชื่อที่ลิสต์เอาไว้ แต่ที่ชอบสุดๆ คือ สิงห์ เพราะแต่ก่อนผมเคยเล่นละครของพี่กิ๊ก (เกียรติ กิจเจริญ) เรื่องแรก พยัคฆ์ยี่เก แล้วในเรื่องผมชื่อ สิงหา เขาจะเรียกผมว่า ไอ้สิงห์ๆ เราก็ชอบชื่อนี้ พอมาเรื่องที่ 2 ชื่อเรื่องคือ ไอ้สิงห์มอเตอร์ไซค์ คราวนี้ชื่อ สิงห์ ทั้งสองเรื่องเลย เลยรู้สึกว่าอยากให้ลูกชื่อนี้ ชื่อจริงก็ชื่อ สิงห์ เรียกง่ายๆ เพราะเป็นคนขี้เกียจคิด แต่ก็ชอบและดูเป็นไทยดี”

“บางคนบอกทำไมตั้งชื่อลูกเหมือนเด็กผู้ชาย คือคนมักไปยึดติดว่า ชื่อแบบนี้ต้องเป็นผู้หญิง ชื่อแบบนี้ต้องเป็นของผู้ชาย เรารู้สึกว่าใครเป็นคนกำหนดมาแบบนี้ มันก็ไม่รู้ว่าถูกต้องหรือจริงหรือเปล่า เราเองก็ไม่อยากให้ลูกเป็นคนเชื่อคนง่ายโดยไร้เหตุผล ฉะนั้นชื่ออาจสะท้อนบุคลิกของเขาได้ในอนาคต แล้วก็มีคนหวังดีเอาไปดูดวงให้ว่า ชื่อเหมาะสมหรือเปล่า เราเลยรู้สึกว่าไม่อยากไปยึดติดอะไรมากมาย”

เห่อลูกถึงขนาดเอารูปขึ้นหน้าจอโทรศัพท์ พร้อมวางอนาคตอยากให้เรียนในโรงเรียนที่เล็งไว้ในใจ

“ไม่รู้ว่าเห่อหรือเปล่า แต่ขึ้นรูปเป็นหน้าจอโทรศัพท์เลย ดูหน้าเขาเปลี่ยนทุกวัน ที่สำคัญคือเขายิ้มเก่ง ต่อไปผมก็อยากให้ลูกเรียกป๋า ส่วนของรับขวัญลูกผมยังไม่ได้ซื้อเลย มีแต่ของใช้ที่ผานิตเป็นคนจัดการ ก็มีทางยายเขาเอาของมารับขวัญ มาดูหน้าหลานกัน มีทั้งเพื่อนและคนสนิทที่อยากเห็นหน้าหลาน ผมก็ส่งรูปไปทาง MMS ให้คนที่เราสนิทๆ ดูหน้าว่าเป็นยังไงบ้าง”

“เรื่องอนาคตของลูกเหมือนไม่ได้วางแต่ก็วาง คือเราไม่ได้ฟิกซ์มากว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผมได้มีโอกาสทำรายการ รถโรงเรียน ที่ไปตามโรงเรียนต่างๆ พอเรารู้ว่าจะมีลูก ก็คิดไว้ว่าจะให้ลูกเข้าโรงเรียนไหนดี แต่ตอนนี้เรายังไม่รู้ว่า โตขึ้นเขาจะเป็นยังไง แต่คร่าวๆ อยากให้เขาเป็นคนว่านอนสอนง่าย เป็นคนที่อยู่ในสังคมได้ไม่ยาก มีคนรักและใจกว้าง รู้จักเขาเอาใจเขามาใส่ใจเรา และไม่อยากให้เขายึดติดอะไรมากมาย”

สปิริตสูงแม้จะเป็นพ่อลูกอ่อน แต่ไม่คิดหยุดทำงานเพื่อดูแลครอบครัว แย้มอยากมีลูกแค่คนเดียว แต่อนาคตไม่แน่อาจเปลี่ยนใจ

“มันเป็นการนัดคิวล่วงหน้า และเป็นการทำงานแบบเป็นทีม ฉะนั้นเราจะเอาแต่ใจเราเองไม่ได้ว่า อยากอยู่กับภรรยาและลูก ไม่อยากไปทำงานแล้ว ถึงแม้กองถ่ายจะปิดกล้องไปแล้ว ผมก็ไม่ขอพักงาน ไมใช่ว่ามีลูกมีครอบครัวแล้ว เราต้องหยุด ผมคงทำงานไปเรื่อยๆ เพราะยังสนุกกับงานอยู่ และการมีครอบครัวก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับการทำงานอาชีพวงการบันเทิง”

“เรื่องลูกคนต่อไป ผมขอคนเดียวพอแล้ว แต่ไม่แน่อาจเปลี่ยนใจก็ได้ แต่ตอนนี้เรารู้สึกมีคนเดียวก็เลี้ยงยากแล้วนะ เวลาจะทำงานยังน้อยอยู่เลย ทุกวันนี้ผมกลับบ้านไปเปิดประตูหอมแก้มลูก 2 ทีแล้วก็เข้านอน เพราะมันดึกแล้ว ตอนเช้าก็มาหอมเขาอีกที แต่ลูกยังไม่ตื่น ผมรีบออกมาแล้วก็โทรหาผานิตว่า ลูกเป็นยังไงบ้าง ลูกร้องไหม แม่เขาก็บอกว่ามีคนมาหา หน้าลูกยิ้มทั้งวัน หน้ารับแขกมาก”

“ส่วนตัวผานิตเอง ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาอยากมีลูกอีกหรือเปล่า เราก็เคยคุยกันว่าจะยังไงดี แต่ใจคิดว่าคนเดียวน่าจะพอแล้ว แต่ถ้ามีอีกก็ไม่ว่ากัน ยังไงซะก็ลูกเรา จะมากจะน้อยก็ลูกเรา จะหญิงจะชายก็ลูกเราทั้งนั้น”





กำลังโหลดความคิดเห็น