หวังจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ทั้งทีเซอร์และตัวอย่างความยาว 16 นาทีที่ออกฉายตามโรงหนังทั่วโลกในวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ก็มีแฟนหนังจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้ตื่นตาไปกับฉากที่สุดอลังการของ Avatar ไปทั้งหมด เมื่อมีแฟนหนังบางส่วนที่เริ่มเห็นความเหมือนของหนังสุดดังแห่งปี 2009 เรื่องนี้กับการ์ตูนที่ล้มเหลวที่สุดของปี 2008!
Avatar คือผลงานภาพยนตร์ที่ไม่ใช่สารคดีเรื่องแรกในรอบ 12 ปีที่ เจมส์ คาเมรอน กลับมาคืนวงการจอเงินอีกครั้ง หลังจากส่ง Titanic เป็นทั้งหนังที่คว้าออสการ์มากที่สุด (11 ตัว) และหนังที่ทำเงินรอบโลกสูงสุดตลอดกาล ที่ 1.84 พันล้านเหรียญไปเมื่อปี 1997
ผลงานไซไฟในสไตล์ 3D เรื่องนี้มีกำหนดฉายในวันที่ 18 ธ.ค. หลังจากเลื่อนจากกำหนดเดิมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาเพื่อมีเวลาในการทำโพสต์โปรดักชั่นมากขึ้น และรอเวลาให้ทั่วโลกมีโรงฉายแบบสามมิติมากพอ
ซึ่งหลังจากเปิดตัวทีเซอร์ความยาวประมาณ 2 นาทีให้แฟนๆ ทั่วโลกได้ชมเรียกน้ำย่อยไปเมื่อวันพฤหัสบดี วันศุกร์ที่ 21 ส.ค. ซึ่งทางค่าย 20th Century Fox ได้ตั้งชื่อให้ว่าเป็น Avatar Day ได้มีการเปิดฉายตัวอย่างหนังความยาวถึง 16 นาทีไปยังโรงฉายรอบโลกกว่า 58 ประเทศ ให้แฟนๆ ที่ได้ตั๋วฟรีออนไลน์ได้ร่วมพิสูจน์ความยิ่งใหญ่ และยังใช้เป็นฤกษ์ในการเปิดตัวโลโก้ใหม่ของทาง 20th Century Fox อีกด้วย
Avatar กล้าวถึง เจค อดีตนาวิกโยธินหนุ่มที่เป็นอัมพาตครึ่งตัว ที่ถูกเรียกมาปฎิบัติหน้าที่ในภารกิจพิเศษที่ทางการสัญญาว่าจะสามารถคืนร่างที่สมบูรณ์ให้กับเขา ก่อนจะรู้ว่าสิ่งที่รอเขาอยู่คือการเปลี่ยนร่างกายของเขา(อวตาร)ให้กลายเป็นชาว Na’vi มนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่ที่ดาว Pandora ที่สำหรับมนุษย์แล้วดูเหมือนคนป่าเถื่อนแต่แท้จริงมีวิวัฒนาการสูงส่งกว่ามนุษย์ หน้าที่ของเจคก็คือการเข้าไปสอดแนมในกลุ่มของ Na’vi เพื่อนำทางให้มนุษย์เข้าไปตักตวงแร่อันมีค่าของที่นั่น แต่ยิ่งเจคสัมผัสชีวิตบนดาว Pandora มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งหลงรักในความงามของที่นี่มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะความรู้สึกที่เขามีต่อ Neytiri สาวสวยพื้นเมือง ที่เก่งกาจในการรบพอๆ กัน ท้ายที่สุดเขาต้องเลือกระหว่างภารกิจที่เขาได้รับมอบหมายจากโลกและชาว Na’vi ในสงครามที่มีอนาคตของโลกมนุษย์เป็นเดิมพัน
ทันทีที่ตัวอย่างได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลก ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย หลายเสียงกล่าวชื่นชมในความยิ่งใหญ่อลังการของผลงานทุนสร้างกว่า 237 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เรื่องนี้
แต่ก็มีบางกระแสที่เห็นว่ามันไม่คุ้มค่าต่อการรอคอยซักเท่าไหร่ แต่ที่แย่ยิ่งกว่าก็คือมีบางคนเห็นความคล้ายคลึงของผลงานชิ้นนี้กับแอนิเมชั่นเรื่องก่อนๆ อย่าง Ferngully การ์ตูนของ 20th Century Fox เองที่เคยออกฉายเมื่อปี 1992
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายคนเห็นว่ามันมีองค์ประกอบหลายอย่างคล้ายกับ Delgo หนังแอนิเมชั่นเมื่อปี 2008 ที่ทำเงินจากการฉาย 2,000 กว่าโรงไปเพียง 694,782 เหรียญสหรัฐฯ จากทุนสร้างกว่า 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และได้เสียงวิจารณ์ในแง่ลบไปถ้วนหน้า จนกลายเป็นหนังที่ล้มเหลวที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ของฮอลลีวูดทีเดียว ซึ่งตอนนี้ได้มีคนนำภาพของผลงานทั้งสองเรื่องมาเปรียบเทียบกันเรียบร้อยแล้ว
