xs
xsm
sm
md
lg

“เต๋า” เย็บปากยัดเงินปิดคดีตื๊บ ด้าน “โกตา” แฉเคยจัดฉากขอขมาวอนจบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เต๋า” ท้าขาเม้าท์นับเดือนทำเมีย “ยุ้ย” เบนโลก่อนแต่ง เห่อลูกตั้งชื่อ “สมใจ” รอท่า ปัดตีปีกออกโซนี่ฯ ทำเพลงขายเอง และไม่ขอร่วมโปรเจ็คอัลบั้มรวมอดีตเพื่อนร่วมค่ายอาร์เอส เผยกำลังมีความสุขกับการทำหนังสั้นส่งประกวด พร้อมปิดปากไม่ตอบยัดเงิน 5 แสนปิดคดีตื๊บ “โกตา” อ้างกลัวเสียรูปคดี ด้านคู่กรณีแฉตลบหลังเคยจัดฉากขอขมา อ้อนวอนให้จบ

หลังจากออกมาประกาศภรรยาเบอร์สอง “ยุ้ย อัฐมาศ” กำลังตั้งครรภ์ลูกคนแรกได้ 2 เดือน และพาไปฝากท้องเรียบร้อยแล้วที่โรงพยาบาลตำรวจ พระเอกเลือดร้อน “เต๋า สมชาย เข็มกลัด” ก็ถูกเม้าท์กระหน่ำทางอินเตอร์เน็ตว่า ทำภรรยาเบนโลก่อนแต่ง ซึ่งเจ้าตัวก็ประกาศท้าให้จับตาและลองนับเดือนดู พร้อมเผยเห่อลูกถึงขนาดตั้งชื่อแฝง “สมใจ” เอาไว้รอท่าแล้ว

“ผมเพิ่งได้ยินข่าวนี้ ก็ลองดูกันสิครับ เพราะเรื่องอย่างนี้มันสามารถพิสูจน์กันได้ บางอย่างผมก็บอกในส่วนที่ผมบอกได้ และเชื่อว่าทุกคนเก่งอยู่แล้ว ผมไม่ได้ท้าใครนะ เพราะชีวิตมันขึ้นอยู่ที่ตัวเราเอง ไปทำในสิ่งที่ตัวเราอยากทำ ก็ขอให้ทุกคนมีความสุขครับ”

“เรื่องลูกถามว่าเห่อไหมก็รู้สึกตื่นเต้นนะ มีคนโทรมาถามว่า เป็นยังไงบ้าง แพ้ท้องไหม โชคดีมากที่คุณยุ้ย ภรรยาผมไม่แพ้ท้อง เพราะถ้าภรรยาแพ้ท้อง ผมคงมีงานหนักขึ้น ตัวผมเองก็ไม่ได้มีอาการแพ้ท้องแทนภรรยา ผมจะอ้วกทำไมล่ะครับ? ตอนนี้ก็รู้สึกดี ผมเชื่อว่าลูกเป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลก เราไม่รักลูกไม่ได้ เพราะกว่าเขาจะลืมตาขึ้นมาดูโลกใบนี้ มันต้องอาศัยหลายๆ อย่างมาก”

“เราต้องรักเขา รักโดยธรรมชาติ และธรรมชาติก็ต้องฝึกให้เรารักลูกเราโดยธรรมชาติเหมือนกัน ตอนนี้ผมไม่ได้ไปไหนเลย กลางคืนส่วนมากผมจะอยู่กับเพื่อนร่วมงาน ผมไม่ได้ดื่มเหล้าตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษาที่ผ่านมาแล้ว ผมก็บอกภรรยาว่า ฉันว่าเข้าพรรษานี้มันก็ดีนะ เรารู้ว่าได้ลูก ก็ยกบุญนี้ให้ลูกเลยแล้วกัน เราก็อนุโมทนาด้วยสำหรับสิ่งดีๆ”

“ผมพาภรรยาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ส่วนชื่อลูกก็เรียกกันเป็นนามแฝงว่า สมใจ คือผมชื่อ สมชาย แล้วยุ้ยก็บอกว่า ลูกน่าจะชื่อ สมใจ เป็นชื่อกลาง เป็นนามแฝงที่เราจะเรียกจนเขาโต เหมือนผมตอนอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ก็จะเรียกว่า เข่ง เหมือนกัน มันเป็นฉายาเล็กๆ คือ สมใจ มาจากสมใจอยาก บางทีก็เรียกว่า น้องลูกรัก ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ให้ชื่อ สมใจ หมด (หัวเราะ) มันเป็นแค่ชื่อกลางแต่อย่าไปตั้งถาวร เพราะกลัวตอนโตเขาจะเคือง”

“ผมพาภรรยาไปฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ส่วนชื่อลูกยังไม่ได้เตรียมตั้งเลย ผมเป็นคนไทย เราก็ต้องรอเขาเกิดมาก่อน รอดูวันเดือนปีเกิด เวลาตกฟาก ตั้งชื่อแล้วก็ดูว่าชื่อไหนเป็นมงคล แต่เราก็เรียกกันเป็นนามแฝงว่า สมใจ คือผมชื่อ สมชาย แล้วยุ้ยก็บอกว่า ลูกน่าจะชื่อ สมใจ เป็นชื่อกลาง เป็นนามแฝงที่เราจะเรียกจนเขาโต เหมือนผมตอนอยู่มหาวิทยาลัย เพื่อนๆ ก็จะเรียกว่า เข่ง เหมือนกัน มันเป็นฉายาเล็กๆ คือ สมใจ มาจากสมใจอยาก บางทีก็เรียกว่า น้องลูกรัก”

“ไม่ว่าจะเป็นลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ให้ชื่อ สมใจ หมด (หัวเราะ) มันเป็นแค่ชื่อกลางแต่อย่าไปตั้งถาวร เพราะกลัวตอนโตเขาจะเคือง แต่ผมว่าก็น่ารักดี เพราะเราเป็นคนไทย หน้าก็ไทย เราก็น่าจะตั้งชื่ออะไรไทยๆ ผมว่า สมใจ นี่ล่ะดี ผมชอบ ภรรยาเป็นคนคิดแล้วก็ชอบร่วมกัน”

แจงกรณีเปลี่ยนใจไม่ทำเพลงกับค่ายโซนี่ฯ แต่จะออกมาทำเองขายเองว่า เป็นแค่กระแสข่าว บอกให้รอดูผลงานแล้วจะรู้ว่าอยู่สังกัดไหน

“ผมไม่ได้จะย้ายออกจากโซนี่ อย่างที่บอกผมทำเพลงเองในส่วนหนึ่ง และผมก็ได้ทำกับพี่ชมพู(ชมพู ฟรุ๊ตตี้)ก็แค่นั้นเองไม่มีอะไร ผมบอกตั้งแต่แรกแล้วว่า ผมคุยกับพี่ชมพูในเรื่องของงานเพลง แล้วพอดีพี่ชมพูมาอยู่โซนี่ พอเราขยับไปทำอะไรก็เหมือนจะไปทางนั้น จริงๆ ผมว่าให้งานออกมาบอกเลยดีกว่าว่า เราอยู่ที่ไหน พูดตอนนี้มันดูลอยๆ ดูเป็นแค่กระแส”

ส่วนกับกระแสล่าสุดที่ทางโซนี่ฯ จะจับหนุ่มเต๋า มาร้องเพลงกับอดีตเพื่อนร่วมค่ายอาร์เอสอย่าง “นุ๊ก สุทธิดา” และ “วงบอยสเก๊าท์” นั้น เจ้าตัวรับว่าเคยโทรมาชวน และมีโปรเจ็คดังกล่าวจริง แต่ด้วยความที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป เพลงก็ต้องเปลี่ยนตาม ปัดมีปัญหากับเพื่อนเก่า

“จะหลอกถามอะไรผมอีก ส่วนตัวผมไม่ได้ไปร่วม แต่ถ้าเขามีผลงานออกมาจริงๆ จะให้ไปร่วม หรือให้กำลังใจ ผมก็ยินดีเลย แต่ตอนนี้ตัวผมไม่ได้อยู่ในโปรเจ็คที่เขาทำ ด้วยยุคสมัยวงการเพลงบ้านเราไม่เหมือนเมื่อก่อน ผมเชื่อว่าบางอย่างมันไม่ต้องเหมือนเมื่อก่อนก็ได้”

“เขาก็โทรมาชวน เพราะผมอยู่ในยุคสมัยนั้น แต่ตอนนี้แฟนเพลงเริ่มมีอายุมากกันแล้ว ผมก็อายุย่าง 36 แล้ว ดังนั้นเพลงคงต้องเปลี่ยนไป ผมไม่ได้มีปัญหากับกลุ่มเพื่อนๆ เพราะไม่ค่อยได้เจอกันอยู่แล้ว แต่ผมกำลังมีความสุขกับการทำหนังสั้น และทำเพลงประกอบ เรามีความสุขกับการทำอะไรเราก็ทำ”

เผยกำลังลุยทำหนังสั้น เพื่อส่งเข้าประกวดตามเทศกาลหนังต่างๆ แย้มชวนเพื่อนซี้ “ปราโมทย์ แสงศร” ทำโปรเจ็คดังกล่าวร่วมกัน

“ตอนนี้ผมมีโปรเจ็คทำหนังสั้น และมีเพลงประกอบในตัวหนังสั้น มีเพลงที่จะทำเป็นโหลดริงโทน และยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ทยอยคิดออกมา และอยู่ในช่วงของการผลิต อย่างหนังสั้นชื่อเรื่อง The Unreasonable Man: ไม่รู้มันคืออะไรแต่ชอบ เป็นการซ้อมก่อนทำหนังใหญ่ ซึ่งสิ้นเดือนนี้บทก็เสร็จแล้ว จะถ่ายประมาณเดือนหน้าและออนแอร์ให้เห็นเดือนพฤศจิกายน ผมทำภาคแรกไปแล้ว เหลือ 2 กับ 3 ซึ่งช่วงนั้นจะเป็นช่วงเทศกาลหนังสั้น และมีประกวดต่างๆ แล้วก็ยังมีเทศกาล Bangkok Film”

“พล็อตเรื่องนี้เป็นของน้องชายผม แล้วผมก็เอาคาแรคเตอร์และความคิดที่จะทำหนังส่วนหนึ่ง เอามารวมกันว่าเขาขาดอะไร เรามีอะไร ก็มาเติมเต็มซึ่งกันและกัน แล้วผมจะเอาเพื่อน คุณปราโมทย์ แสงศร มาทำด้วยกัน แต่ตอนนี้ยังหาตัวปราโมทย์ไม่เจอครับ (หัวเราะ) เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ญี่ปุ่นมั้ง ได้ข่าวว่าหลังจากหนังสั้นของเขาได้รับการตอบรับจากเกาเหลี เขาก็ได้เงินพัฒนาบท จากโปรเจ็คหนังสั้นเพื่อทำเป็นหนังใหญ่ คือมันจะมีส่วนที่ว่าถ้าหนังสั้นที่เราทำพล็อตดี อะไรดี เราก็จะส่งไปเมืองนอกได้ แล้วก็จะมีเงินทุนมาพัฒนาบท เพื่อจะทำหนังสั้นเป็นภาพยนตร์ต่อไป”

ด้านคดีตื๊บพ่อค้าขายของชำ “โกตา วีระชาติ เด่นศิริกุล” ที่เจ้าตัวเพิ่งถูกคู่กรณีฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเพิ่ม 5 แสนบาท พร้อมให้ลงข้อความขอโทษทางหนังสือพิมพ์ 5 ฉบับติดต่อกัน 7 วัน จากนั้นมีข่าวลือเต๋าได้ยัดเงิน 5 แสนปิดคดีดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าตัวบอกปัดไม่ขอตอบ อ้างกลัวเสียรูปคดี

“เรื่องคดีตอนนี้ต้องบอกก่อนว่าผมยังพูดอะไรไม่ได้ เราไม่สามารถพูดอะไรได้เลยครับ ก็อย่างที่ทราบๆกันอยู่ คิดว่าทุกคนน่าจะเข้าใจ ถ้ามาถามอะไรแบบนี้ ผมพูดอะไรไม่ได้มาก เพราะมันมีผลหมดทั้งทางรูปคดี ไม่ใช่ว่าผมไม่พูด แต่มันไม่สามารถพูดได้จริงๆ” 

ฟาก “โกตา วีระชาติ” ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวผ่านทางโทรศัพท์ถึงเหตุฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายเพิ่มอีกหนึ่งคดี พร้อมแฉเต๋าจัดฉากไหว้ขอขมาตน วอนให้จบคดี

“ใจจริงเราก็ไม่อยากฟ้องหรอก แต่ทนายอาสามาฟ้องให้ ทีแรกเขาตั้ง 1 ล้านบาท แต่ตอนหลังกลัวเขาจะคิดว่าเราเรียกเงินเยอะไป เลยลดเหลือแค่ 5 แสน ซึ่งเราก็พอใจ เขาว่าไงก็ว่าตาม ทางศาลก็ได้นัดไกล่เกลี่ยกันวันที่ 1 ก.ย. ก็ต้องดูว่าเขาจะยอมทำตามหรือเปล่า ถ้ายอมก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ยอมก็ว่ากันไปตามนั้น ถ้าเขาขอให้ลดหย่อน ก็คงไม่ลด ยืนยันว่าจะเอา 5 แสน”

“เราก็ไม่รู้ว่าเขาจะยอมขอโทษเราหรือเปล่า แต่จริงๆ เขาเคยมาขอโทษขอขมาผมแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา มันเป็นแผนของพรรคพวกผมที่รู้จักกับเต๋าด้วย เขานัดให้ผมมาสังสรรค์ที่ร้านอาหาร พอนั่งคุยสักพักเต๋าก็เข้ามา ผู้ใหญ่ในโต๊ะก็คุยให้ เต๋าก็ยกมือไหว้ขอขมา ความรู้สึกเราตอนนั้นไม่ได้เต็มใจเลย คิดว่ามันเป็นแผนที่เขาจัดฉากกันไว้ก่อนแล้ว เต๋าเตรียมพร้อมจะมาอยู่แล้ว พอเขาไหว้ผมเสร็จก็เดินออกจากร้านกลับกรุงเทพฯ เลย”

“ถ้าครั้งนี้เขาจะขอโทษอีก ผมว่ามันไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว คนที่คุมความประพฤติเขาอยู่ ก็พยายามมาพูดมาขอผมว่า เต๋าเป็นคนดีแล้ว เขาอยู่ในองค์กรทำความดีแล้ว เห็นใจเต๋าหน่อย ถามว่าผมเชื่อมั้ยที่เขาเป็นคนดีแล้ว ถ้าเขาเปลี่ยนได้ก็ดี ถือว่าเราทำบุญไปแล้วกัน ก็ให้สังคมตัดสินเองถ้ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก”


กำลังโหลดความคิดเห็น