“นุ๊ก สุทธิดา” ลุ้น หย่า “ป้อ” ด้วยสันติวิธี บอก ถ้าตกลงกันได้นอกรอบคงดี จะได้ไม่ต้องไปถึงขึ้นศาล เพราะตนไม่ได้เรียกร้องอะไรอยู่แล้ว แค่ขอให้เซ็นใบหย่าอย่างเดียว เปรย ตอนนี้มีหนุ่มเข้ามา แต่ทิ้งระยะความสัมพันธ์แค่เพื่อน ส่วนหนึ่งเพราะยังไม่อย่า พร้อมเผย ถ้าจะมีคนใหม่ต้องให้ลูกเป็นคนตัดสินว่าชอบหรือเปล่า
อดีตนางเอกและนักร้องชื่อดัง “นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” เผยถึงความคืบหน้าคดีฟ้องหย่ากับสามีหนุ่ม “ป้อ บุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ” ว่าตอนนี้อยากขอเจรจากันนอกรอบ โดยที่ถ้าตกลงกันได้ก็จะได้ไม่ต้องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล แต่ตอนนี้เลี่ยงไม่คุยกับอดีตสามีโดยตรง แต่คุยผ่านพ่อกับแม่แทน บอกน่าจะเจรจาได้ง่ายกว่า
“คดีตอนนี้ก็ยังลุ้นๆ อยู่ว่าเราคงจะหย่ากันได้โดยที่แบบว่าไม่ต้องขึ้นศาล เพราะว่าโดยหลักแล้วตัวศาลเราก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร เรื่องค่าเลี้ยงดูก็คือเราฟ้องหย่ากันเฉยๆ ตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็น่าจะซอฟลงแล้ว”
“ไม่ได้เจรจาหรอกค่ะ ยังไม่ได้เจรจาเป็นเรื่องเป็นราว เพียงแต่ก็รู้สึกว่าถ้าเรายุติการคุยกับเขาไป มันก็ช่วยให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น เพราะว่านุ๊กก็จะไม่คุยด้วยเลยนะ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาจะไปคบหาใครใหม่ หรือว่าเลิกกับใครไป เราก็จะไม่คุยกับเขา ไม่แตะเขา ไม่ยุ่งกับเขาเลย แล้วเราก็เปลี่ยนคนคุยใหม่ เป็นคุณพ่อคุณแม่เขา ซึ่งเราก็คิดว่าน่าจะรู้เรื่องกว่า เพราะเราไม่ได้คุยกับเขาเอง เลยคิดว่ามันน่าจะดีขึ้นนะ เราไปคุยกับคุณพ่อคุณแม่เขาก็เป็นผู้ที่มีดุลยพินิจ ซึ่งก็ได้เคลียร์ในหลายอย่างที่เขาคิดว่าเราพูด แต่เราก็รู้ว่าจริงๆ แล้วเราไม่ได้พูดอะไร”
“เรื่องเวลาในการหย่า จริงๆ พอเราได้คุยกับผู้ใหญ่ คือ เราก็ต้องเกรงใจ หรือว่าก็ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันนะคะ ทั้งสองฝ่ายก็ต้องให้เกียรติกันทั้งคู่ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นยังไง แต่คิดว่าเรารู้สึกดีกว่า คือระยะเวลาอาจจะไม่แน่นอน อาจจะช้ากว่าปกติด้วยซ้ำ หรืออาจจะเร็วกว่าเพราะว่ามีความเกรงใจ มีความประนีประนอมมากขึ้น เพียงแต่ว่าน่าจะไปในทางที่ดี”
“จริงๆ ที่หวังเลยนะคะ อยากให้เรายุติกันด้วยดีเหมือนที่คนดีๆ เขาทำกัน เมื่อรักกันก็รักกัน เมื่อเลิกไม่รักกันก็แค่ไม่รักกัน ไม่จำเป็นจะต้องมามีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเจ็บป่วยหรือตายไป ก็คิดอย่างนั้นนะคะ แล้วก็ต่างคนถ้าเกิดว่าใครพร้อมตอนนี้แล้วอยากจะไปเริ่มใหม่ เราก็คิดว่าไม่มีผลสำหรับเรา ไม่ได้รู้สึกว่าจะเจ็บหรือร้อนหรืออะไร เพียงแต่เราแค่รู้สึกว่าลูกก็ไม่ควรจะมารับรู้ว่าเขามีพ่อใหม่หรือแม่ใหม่”
“ขึ้นศาลก็น่าจะมีอีกนะคะ แต่ว่าเราไม่ได้มุ่งประเด็นไปตรงนั้น เรามุ่งประเด็นว่าเราน่าจะคุยกันรู้เรื่อง น่าจะตกลงกันเองได้ ก็คือยังไม่ได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ว่าเราก็อยากเคลียร์เพราะเราก็ไม่ได้ขออะไรใช่มั้ยคะ ว่างก็แค่ไปหย่าให้เราเท่านั้นเอง ถ้าเราเซ็นใบหย่ากันเรียบร้อย เราก็ไม่ต้องมีอะไรต้องฟ้องกันแล้ว”
โต้เรื่องที่มีคนเห็นเดินควงหนุ่มช็อปปิ้งตามห้างว่าเป็นแค่เพื่อน และทุกคนที่เข้ามาก็ยังอยู่ได้แค่ฐานะเพื่อนเท่านั้น เพราะถ้าจะมีคนใหม่ต้องผ่านการอนุมัติจากลูกทั้งสองก่อนเท่านั้น
“คนที่เห็นเดินด้วยกัน เดินชอปปิ้งรึเปล่าคะ ไม่มีนะคะ ถ้ามีอาจจะเป็นเพื่อน ไม่แน่ใจนะคะ แต่ถ้าเป็นที่ฟู้ดแลนด์น่าจะเป็นที่เปิดใหม่ แต่ถ้าไปเดินชอปปิ้งที่ห้างเนี่ยไม่ได้ไป คือ ตอนนี้นุ๊กยังมองว่าไม่ใช่จุดที่นุ๊กจะมีแฟน ถ้าคุยเป็นเพื่อนแก้เหงาหรือว่าทำให้จิตใจเราเบิกบานเวลาที่ทุกคนมาทำดีๆ กับเราก็โอเค”
“แต่ส่วนมากที่เข้ามาก็จะแบบชัดเจนนะคะ ถ้าเพื่อนก็คือจะคุยเป็นเพื่อนไป แต่เวลาใครเข้ามาก็จะชัดเจนกับเขาว่าเรายังไม่สะดวกใจ คืออาจจะด้วยลูกด้วย คือนุ๊กพยายามสมมติว่าถ้าใครเป็นเพื่อนเรา ก็ทำให้ลูกเห็นก่อนว่าเราเป็นเพื่อนกัน ก็ต้องดูลูกว่าลูกชอบมั้ย กับการที่แม่มีเพื่อนสักคนนึง โดยที่เราไม่ได้เปิดว่าเป็นแฟนใหม่หรืออะไร”
“ที่ยังไม่เปิดใจรับคนใหม่ไม่ใช่เพราะติดเรื่องหย่าค่ะ คือในความรู้สึกของนุ๊กคือรู้สึกว่าเราหย่ากันมานานแล้วนะคะ เพราะว่าตัวเขาเองก็มีแฟนใหม่ไปแล้ว และตัวเราเองก็แยกบ้านกับเขามานานแล้ว เพียงแต่ว่าอาจจะเป็นเพราะมีลูก มันก็เลยทำให้รู้สึกว่าใครจะมารักลูกเราได้เท่าเรา”
“ลูกๆ ก็ถามน้อยลงค่ะ เพราะว่าช่วงนี้นุ๊กมีเวลาเยอะขึ้น ก็จะใช้เวลาอยู่กับเขาเยอะ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อย กับคนที่มีเคยเห็นเรียกว่าเป็นเพื่อนกันดีกว่าค่ะ แต่ก็มีเพื่อนเยอะนะคะ(หัวเราะ) ถ้าเอาจริงๆ ถ้าลูกนุ๊กรักใครนุ๊กก็รักคนนั้น แต่เด็กๆ เขาหลอกง่ายไงคะ ใครมาทำดีด้วยนิดๆ หน่อยๆ เด็กก็ชอบ แต่ว่าเราก็ต้องคอยดูด้วยว่าคนที่มาทำดีกับลูกเราเขาจริงใจรึเปล่า”
