“นุก” สุดกลัว โรครุมเร้า เผย เพิ่งผ่าตัดข้อมือเพราะเกิดภาวะเยื่อหุ้มกระดูกเสื่อม ล่าสุดพบเม็ดซีสต์ขึ้นที่คอ แถมขยายตัว เจ้าตัวหวั่นใจกลัวเป็นมะเร็ง บอกพยายามคิดแง่ดี หากเป็นจะได้พักผ่อนเร็วขึ้น
คดีความฟ้องหย่ากับอดีตสามี “ป้อ บุญสิทธิ์ ธรรมโรจน์พินิจ” ยังเคลียร์ไม่จบ หม้ายสาว “นุก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา” ก็มีเรื่องต้องเป็นกังวลกับอาการป่วยที่รุมเร้า ทั้งภาวะเยื่อหุ้มกระดูกเสื่อม จนต้องผ่าตัดข้อมือไปเมื่อสองเดือนก่อน
ล่าสุดพบว่ามีเม็ดซีสต์ขึ้นที่คอแถมขยายตัวลุกลาม งานนี้ทำเอาหม้ายสาวถึงขั้นใจคอไม่ดี เพราะหวั่นจะกลายเป็นมะเร็ง เนื่องจากเป็นโรคกรรมพันธุ์ ที่คุณแม่ก็เป็นเนื้องอกอยู่ บอก พยายามมองในแง่ดี หากเป็นจะได้ถือโอกาสพักผ่อนเร็วขึ้น
“นุกเพิ่งผ่าข้อมือไปเมื่อเดือนสองเดือนที่แล้ว เพราะมันมีน้ำในกระดูกออกมาค่ะ เหมือนกับว่าเยื่อหุ้มกระดูกของเรามันเสื่อม และน้ำในไขกระดูกมันก็ออกมา ก็ต้องไปผ่าตัด ไม่ได้อะไรมากแต่อาจต้องทำกายภาพ เพราะว่าอยู่ลึกค่ะ แล้วพอเราผ่าเราก็ต้องดามมือไว้ งอไม่ได้ พอถึงเวลาที่ต้องงออย่างนี้ (งอมือให้ดู) ก็เหมือนกับว่าเส้นมันยึด”
“ไม่น่าจะมีโอกาสเป็นอัมพฤกษ์นะคะ แล้วนุกก็ไม่ค่อยกลัวเท่าไหร่ด้วยจริงๆ คุณหมอบอกว่าเป็นโรคที่รักษาไม่หายค่ะ เพราะว่ามันเกิดจากความเสื่อมของกล้ามเนื้อ ของเซลล์ ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร เราอาจจะไปกระแทกอะไร หรือยกของหนักๆ คือถ้ามันใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มันอาจจะงอมือไม่ได้ แต่ว่าก็ไม่ได้อันตรายมากมายอะไร”
“ก็ไม่กลัวนะคะ นุกจะกลัวพวกเม็ดซีสที่คอมากกว่า เพราะว่าเป็นซีสต์เยอะ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากอะไร แต่ก็มีการตรวจร่างกายทุกปี นี่ก็ใกล้จะครบรอบหนึ่งปีแล้ว อีกสองเดือนก็เลยรอทีเดียวเลยดีกว่า เพราะว่าปกติเวลาตรวจก็จะมีตรวจเลือดหาผลมะเร็งหาอะไรด้วย ตอนนี้กลัวเม็ดซีสต์ที่คอมากๆ เพราะว่าที่คอยังไม่ได้ตรวจ นุกกลัวมันจะเป็นมะเร็ง”
“ตอนแรกๆ คิดว่าเป็นคนแข็งแรง แต่โรคพวกนี้มันเป็นกรรมพันธุ์ คุณแม่ก็เป็น แต่จะมีเป็นเม็ดเป็นเนื้องอกเต็มเลย นุกก็เลยกังวลตรงนี้ เพราะว่าตอนแรกมีเม็ดเดียว แล้วเมื่อสามวันที่แล้วก็จับเจอได้เอง มีเพิ่มมาอีกเม็ดนึง เราก็เลยรู้สึกว่ามันขึ้นมาเยอะเกิน นุกกลัวจะเป็นมะเร็งค่ะ เพราะว่ามันเป็นกรรมพันธุ์ ก็พยายามคิดบวกค่ะ แต่ถ้าเป็นก็ไม่เป็นไร ก็ยังถือว่าเป็นโชคดีของเราที่ได้พักผ่อนเร็ว”
ส่วนเรื่องคดีความฟ้องหย่ากับอดีตสามี เจ้าตัวทำใจหากต้องยืดเยื้อ แต่แอบหวังว่าในที่สุดจะสามารถไกล่เกลี่ยและหาข้อสรุปได้สักที
“ในตอนนี้เป็นการฟ้องคดีครอบครัวปกติค่ะ ต้องมีการเจรจาสามครั้ง ไกล่เกลี่ยกันสามครั้ง ถ้าสามครั้งแล้วยังไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ค่อยเป็นการตัดสินของศาลอีกที นุกก็หวังไว้ลึกๆ แต่อาจจะต้องมีครั้งที่สองครั้งที่สาม จริงๆ อยากจะไปตกลงเรื่องหย่าเป็นหลักก่อน แล้วก็คงเป็นเรื่องของการเลี้ยงดูบุตรมากกว่า ใครจะมีสิทธิ์ในการรับผิดชอบตรงนี้ แล้วก็คงจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่าย ในการเลี้ยงดูบุตรว่าจะจ่ายกันยังไง จะออกกันยังไง ใครจะเป็นคนออกเท่าไหร่ เพราะว่าไม่อยากจะเดินเข้าเดินออกในที่ที่เราไม่ได้อยากจะไปค่ะ”
“อันที่จริงก็ไม่ได้อยากจะมานั่งพูดเรื่องที่เราก็พูดจนไม่รู้เท่าไหร่แล้ว จริงๆ ที่อยากให้เขาไปก็อยากให้เขาพูดบ้าง คือเรารู้สึกว่าเราพูดมาเยอะแล้ว ก็อยากให้เขาพูดบ้าง เพราะว่าเวลาที่เราพูดอะไรไปเขาก็โทรมาว่า ทำไมต้องพูดถึงคนอื่น ทำไมต้องพูดถึงคนนี้ เราก็รู้สึกว่า ลองมาพูดมาตอบเองแล้วกัน อย่างกรณีมีลูกกับผัวทำไมต้องไปพูด เราก็บอกว่าแล้วมาตอบแทนเราได้มั้ยล่ะ จะตอบยังไง เราก็ตอบดีที่สุดแล้ว แต่พอมาว่าเรามากๆ เราก็เหวี่ยงใส่เหมือนกัน ตอบอย่างที่อยากพูดบ้าง”
“ลูกๆ ตอนนี้คือปกติปู่กับย่าเป็นคนดูแล ก็ยังคงมาหามารับมาส่ง ซื้อของ ดูแลทุกสิ่งอย่าง แต่ตัวคุณพ่อเขาไม่ค่อยได้เจอกัน ก็นานๆ ทีจะพาไปช็อปปิ้งบ้าง มันแล้วแต่ช่วงค่ะ เพราะว่าตอนนี้ก็ห่างๆ ไปบ้าง นุกว่าเฉยๆ นะ เพราะเรื่องนี้มันต้องเป็นความจริงใจค่ะ ตอนนี้ก็ยังเป็นคุณพ่อคุณแม่นุก และก็คุณพ่อคุณแม่ของฝ่ายนู้นที่ยังรับภาระดูแลลูกๆ อยู่ค่ะ”
