“กอล์ฟ” เผยบอกลา "ตีท้ายครัว" เหตุเวลาไม่ลงตัว ก่อนแจงกรณีจูงมือแฟนสาววิ่งหนีก็เพราะอยากหยอกนักข่าว พร้อมยันเรื่องวัยที่ต่างกันร่วม 10 ปีใช่ปัญหา
บอกลาจากการเป็นพิธีกรในรายการ "ตีท้ายครัว" ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับหนุ่ม "กอล์ฟ เบญจพล" โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากับคนอื่นๆ แต่ติดเรื่องของเวลาเนื่องจากรายการฯ นั้นค่อนข้างถ่ายโดยกำหนดวันที่แน่นอนได้
“ต้องบอกว่ารายการนี้ผมทำมา 3 ปีแล้ว ผมเองเคยจะออกมาครั้งนึงแล้วเมื่อตอนที่ขึ้นปีที่ 2 แต่ว่าทีนี้เนื่องจากว่ารายการเป็นของเพื่อนๆ พี่น้องกัน แล้วรายการก็ยังไม่เข้าที่เราก็เลยอยู่ช่วยมาเรื่อยๆ แต่ว่าทีนี้มันครบ 3 ปีแล้วเราก็เลยมีความรู้สึกว่าเราเองก็มีงานอื่นที่จะต้องไปรับผิดชอบต่อ”
“ปัญหาของการถ่ายทำรายการตีท้ายครัวคือมันเป็นรายการที่จะต้องอัพเดท และก็เป็นรายการที่จะต้องตามคิวดาราเยอะ มันเลยเป็นรายการที่ไม่สามารถจะกำหนดวันถ่ายทำได้ คือตีท้ายครัวนี่เราถ่ายมาตลอดแล้วตั้งแต่วันอาทิตย์-วันจันทร์ เราเคยถ่ายมาหมดทุกวันแล้ว"
"มันเลยค่อนข้างที่จะแบ่งเวลาในการทำงานที่ค่อนข้างยากมาก ทีนี้เราเห็นว่าตอนนี้รายการเองก็อยู่ตัว มีคนติดแล้ว ซึ่งผมเองก็มองว่ารายการน่าจะอยู่ได้ด้วยพิธีกรทั้ง 3 คน เราก็เลยบอกว่างั้นเราขอลาออกถอนตัวออกมาดีกว่า ไม่ได้มีเรื่องหรือมีปัญหาอะไรกันเลย”
เผยอนาคตหากทีมงานสามารถเคลียร์คิวการถ่ายได้ลงตัวก็มีโอกาสกลับไปทำ แต่ตนมองว่าเป็นไปได้ยาก...“มันเป็นปัญหาเรื่องของเวลา เพราะที่ผ่านมาเราค่อนข้างที่จะทำงานลำบาก คิดดูว่าพิธีกรตั้ง 4 คนแล้วไหนจะต้องมาเคลียร์กับแขกรับเชิญอีก กว่าจะเคลียร์ให้เวลามันลงกันมันก็ทำงานลำบากเหมือนกัน"
"ทีนี้รายการตีท้ายครัวมันเป็นรายการที่จะต้องเอนเตอร์เทนคนดู เป็นรายการที่จะต้องสนุกสนานตลอด เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเราไปมีปัญหาหน้ากองเวลาไม่ลงไม่ลงอะไรมันก็ทำงานลำบากเหมือนกันก็เลยถอยมา แต่มีโอกาสได้ดูเทปหลังๆ เขาก็สนุกกันดี”
“อนาคตถ้ารายการตีท้ายครัวเริ่มมีวันที่สามารถกำหนดถ่ายได้ประจำ ไม่แน่อาจจะกลับไปทำ แต่ว่ามองแล้วมันยาก เพราะมันเป็นรายการที่เราต้องดูความสะดวกของเจ้าของบ้านจริงๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ดาราทุกคนจะว่างทุกวันจันทร์ ว่างทุกวันอังคารมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"
"ผมเองก็เกรงใจละครด้วย แล้วก็งานอื่นๆ ที่ทำอยู่ อย่างที่ผ่านมาเราก็ขอเขาว่าขอไปถ่ายรายการตีท้ายครัวก่อนนะเดี่ยวมาครึ่งวัน เราก็รู้สึกเกรงใจเขาไง”
บอกยังรับงานพิธีรกรอยู่แต่ขอให้เป็นรายการกำหนดวันเวลาถ่ายทำได้เพื่อที่ตนจะได้บริหารเวลาในการทำงานอย่างอื่นด้วย...“ไม่ได้อิ่มตัวกับการเป็นพิธีกรนะบริษัทไหนอยากจ้างผมก็ยังยินดีเพียงแต่ว่าโดยส่วนตัวผมขอนิดเดียวเองขอแค่กำหนดวันที่ถ่ายได้ประจำแค่นั้นเอง เราจะได้จัดแจงระบบชีวิตเราได้ เพราะเราเองก็มีบริษัทที่ต้องดูแลด้วย"
"คือถ้าเกิดสามารถกำหนดได้ว่าโอเคถ่ายรายการนี้ทุกวันพุธ เราก็สามารถให้ได้ทั้งวันอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าไม่สามารถกำหนดวันที่แน่นอนมาให้เราได้มันก็ทำงานลำบากจริงๆ ต้องขออภัยด้วยคงฝากคุณผู้ชมแหละครับว่ายังไงก็ให้โอกาสรายการได้ลองปรับๆอะไรดูก่อนแล้วกัน”
ส่วนเรื่องความรักที่ล่าสุดเพิ่งจูงมือสาวนอกวงการวิ่งหนีสื่อฯ เจ้าตัวบอกแค่อยากหยอกล้อกับนักข่าวเท่านั้น...“จริงๆ แล้ววันนั้นผมไม่ได้ตั้งใจจะพาเขาวิ่งหนีนะ วันนั้นกะจะแกล้งพี่ๆนักข่าวเฉยๆ พอดีวันนั้นไปยืนอยู่ตรงพี่ๆ เขา แล้วน้องเขาก็ออกมาพอดี เราก็เลยแกล้งเขา เรายังบอกกับพี่นักข่าวเลยว่าพี่พร้อมไหม เขาบอกว่าพร้อม ทำไมเหรอ เราก็บอกว่าโอเคงั้นวิ่งแล้วนะ เราก็เลยวิ่งเลย”
“ผมแค่อยากเล่นกับพี่ๆนักข่าวมากกว่า จริงๆ น้องเขายืนอยู่ข้างๆ เราเลย แต่พี่ๆ นักข่าวเขาไม่รู้กันว่าเป็นคนนี้ ผมก็ไม่ได้ปิดนะ จริงๆ แล้วก็มีภาพออกมาเรื่อยๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเราไม่รู้จะออกมาพรีเซนต์ทำไม เราก็คบของเราอยู่มา 2-3ปีแล้ว
"จริงๆ แล้วเราเองก็เกรงใจน้องเขาด้วย กลัวเขาจะทำตัวไม่ถูก เขาก็เขินๆ เอาเป็นว่าเขาชื่อน้องปุ้ยแล้วกันครับ”
เผยสเป็คชอบเด็กเพราะได้เปลี่ยนมุมมองใหม่ๆ ยันคบกันไม่มีปัญหาช่องว่างระหว่างวัย...“เอาน่ะ เป็นว่าไม่ได้เป็นนักศึกษานะ เขาเรียนจบแล้ว อย่าไปรู้เรื่องอะไรของเขาเยอะเลยเขา ปล่อยให้เขามีพื้นที่ส่วนตัว เอาเป็นว่าเราคบกันอยู่จริงๆ เดี่ยวก็คงได้เห็นได้เจอกันเรื่อยๆ”
“เอาเป็นว่าขอให้เป็นเด็กๆ เด็กกว่าวันนึงก็โอเค คนนี้เราก็แก่กว่านิดหน่อยเองประมาณ 10 ปีได้มั้ง เรื่องทัศนคติไม่ตรงกันเรื่องตรงนี้ของเราไม่มีนะ จริงๆ เวลาคบใครผมก็พยายามอธิบายถึงพื้นฐานและวิธีการทำงาน วิธีการดำรงชีวิตของเราก่อน ต้องให้เขาได้รู้"
"จริงๆช่วงแรกๆ ก็มีปัญหาบ้างแต่สุดท้ายมันก็ค่อยจูนกันไปเรื่อยๆ มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คบกันปุ๊บแล้วจะเข้ากันได้ดีมันหาแบบนี้ได้ยาก เขาเองต้องยอมรับในสิ่งที่เราเป็นด้วย”
