“แม่สีดา” เผยทั้งน้ำตาตลอด 3 ปีที่เสียลูกชาย “อ๊อฟ อภิชาติ” ไม่มีวันไหนไม่คิดถึง ลั่นชีวิตลำบากอยู่โดดเดี่ยว เอาแต่เก็บตัวเพราะงานหด โต้โดนฟ้องล้มละลาย บอกไม่เคยขอเงินลูกใช้ เลยไม่ไล่ตามเช็คเงินทองของอ๊อฟหายไปไหนหมด ส่วนภรรยาและลูกสาวของอ๊อฟขาดการติดต่อกันแล้ว
วันแม่ของทุกๆ ปี คงเป็นวันที่มีแต่ความสุขความอบอุ่น ของทุกครอบครัวที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก แต่วันแม่สำหรับ “แม่สีดา พัวพิมล” ที่สูญเสียลูกชายสุดที่รักดั่งดวงใจ “อ๊อฟ อภิชาติ พัวพิมล” ผู้ที่เคยได้รับฉายา “คีนูรีฟเมืองไทย” ไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยโรคหอบหืดและมีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบแทรกซ้อน เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2549 บรรยากาศช่างแตกต่าง เป็นวันแม่ที่มีแต่ความเงียบเหงา เศร้าสร้อยและโดดเดี่ยวมาตลอดเกือบ 3 ปีเต็ม
ชีวิตภายหลังการเสียชีวิตของลูกชาย แม่สีดาได้เผยกับบันเทิง Manager Online ว่า ช่างเป็นโลกที่เงียบเหงา เธอเอาแต่เก็บตัวเงียบ ไม่ออกงานพบปะเพื่อนฝูงเหมือนเช่นที่ผ่านมา
“หลายปีหลังมานี้แม่ได้ออกงาน ไม่ได้ออกสังคม ไม่ได้ออกไปพบปะผู้คนเลย เพราะแม่ก็ทุกข์ๆ ของแม่อยู่ ก็เศร้าๆ เครียดๆ แม่ก็ไม่รู้จะออกไปทำไม ออกไปแล้วนั่งหน้าเศร้าๆ ก็ไม่อยากให้ใครทัก ถ้าเขาช่างสังเกตจะรู้ว่าเราสนุกไม่จริง แววตามันจะออก เรามีความทุกข์ก็แก้ปัญหาของเราไป แม่ทุกข์ในหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องส่วนตัว ธุรกิจ และอะไรต่ออะไรหลายๆ อย่างรวมกัน”
“ตอนนี้แม่อยู่กับแม่บ้านสองคน มันเหมือนชีวิตไม่มีใคร เหมือนตัวคนเดียว เพราะเราเองเราก็ไม่ได้ไปพึ่งพาใคร ไม่ได้ไปรบกวนใคร หมายถึงญาติพี่น้องนะคะ เพื่อนฝูงในวงการก็มีช่วยเหลือบ้าง แต่ก็น้อยมาก มีบางคนก็โอเค แต่เราคงไม่ได้ไปรบกวนอะไรเขามากมาย เพราะว่าเราคงไปรบกวนอะไรเขามากไม่ได้ คือบางคนก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือ แถมเอาเราไปพูด เรากลัวตรงนี้มากกว่า แต่บางคนก็โอเค ให้ความช่วยเหลือเมตตาเรานิดๆ หน่อยๆ นั่นก็คือน้ำใจอันสูงส่งแล้ว”
เผยด้วยน้ำเสียงสะอื้นร่ำไห้ เดือนพ.ย.ที่จะถึงนี้เป็นวันครบรอบ 3 ปีเต็ม ที่ลูกชายจากไปกะทันหัน รับยังคิดถึงอ๊อฟอยู่ตลอดเวลา
“ชีวิตมันเงียบเหงาบอกไม่ถูก มันทุกข์ๆ ยังไงก็ไม่รู้ มันเงียบเหงา โดดเดี่ยว แต่แม่ไม่ได้ฝันถึงอ๊อฟมานานแล้วนะ ส่วนเรื่องคิดถึงก็มีบ้าง เป็นเรื่องปกติของคนเป็นพ่อเป็นแม่อยู่แล้ว เมื่อเวลาที่สูญเสียลูกไปก็เป็นเรื่องที่ต้องคิดถึงเขาเป็นเรื่องธรรมดา นี่เขาจากไปจะ 3 ปีแล้วนะ เดือนพฤศจิกายนนี้ก็ครบ 3 ปีแล้ว แม่ก็ยังคิดถึงลูกตลอด”
“วันที่เสียลูกไปรู้สึกเหมือนขาดหัวใจดวงนึงไป(ร้องไห้) เราเคยอยู่ด้วยกัน แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีอีกแล้ว ทำให้รู้สึกโดดเดี่ยว ถึงเขาจะไม่ได้มาเป็นคู่คิดอะไรให้กับเรา แต่อย่างน้อยเขาก็ยังอยู่กับเรา ตอนที่อ๊อฟอยู่ เขาจะอยู่กับแม่ตลอด ตอนนี้แม่ก็ดิ้นรนให้มันอยู่รอด เพราะชีวิตแม่ก็ดิ้นรนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ตั้งแต่เด็กจนโต ปากกัดตีนถีบ ต่อสู้ด้วยตัวเอง ด้วยชีวิตของผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ถ้าอะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด เราก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ถ้าคนเข้าใจก็คือเข้าใจ ไม่เข้าใจก็คือไม่เข้าใจ เราคงไปห้ามความคิดเขาไม่ได้”
โต้โดนฟ้องล้มละลาย เผยชีวิตทุกวันนี้ไร้งานแสดง แต่ยังคงทำงานเบื้องหลัง ซึ่งมีงานเข้ามาให้ทำบ้างประปราย
“ตอนนี้แม่อยู่เบื้องหลังทำละคร รายการบ้าง แม่มีบริษัทชื่อ “AFA Group Entertainment” เป็นบริษัทเล็กๆ แต่มีคุณภาพ(หัวเราะ) ก็เปิดมาหลายปีแล้ว ธุรกิจเป็นไปได้เรื่อยๆ ใครว่าจ้างก็ทำ ไม่มีใครจ้างก็อยู่แบบไปเรื่อยๆ แม่ยังไม่ได้ทิ้งวงการ เพราะเราอยู่ตรงนี้คงทิ้งไม่ได้ อะไรที่ถนัดก็คิดว่าจะทำตรงนั้นได้ดี แม่ยังรับงานแสดงอยู่ ตอนนี้ก็มีประปรายไม่ได้เยอะมากมาย ถ้าใครเมตตาเราเขาก็จะเรียกเล่น”
“ข่าวล้มละลายอาจเป็นช่วงที่แม่ลำบากอยู่มั้ง แต่ไม่เป็นไรหรอก ใครจะพูดยังไงก็แล้วแต่เขา เราไปห้ามเขาคิดไม่ได้ แม่ก็สวดมนต์ของแม่ไปเรื่อย ได้ยินข่าวก็เครียดเหมือนกัน แต่เดิมแม่ก็เครียดอยู่แล้ว”
ปัดที่ผ่านมา “อ๊อฟ” เป็นเสาหลักของครอบครัว บอกต่อสู้ชีวิตหาเงินเลี้ยงตัวเอง มาตั้งแต่ลูกยังมีชีวิตอยู่แล้ว
“ตอนที่เขายังอยู่ แม่ก็ไม่ได้รบกวนอะไรเขาหรอก เพราะแม่เป็นคนที่ต่อสู้ชีวิตด้วยตัวของตัวเอง แม่หาค่าครองชีพเอง ไม่เคยรบกวนอ๊อฟ เขาหามาก็ใช้ของเขา เก็บของเขา ส่วนใหญ่แม่จะหาให้ลูกมากกว่าที่จะไปขอของลูก แม่อาจเป็นผู้หญิงแกร่งเลยไม่คิดรบกวนลูก เพราะฉะนั้นจะบอกว่าเขาเป็นเสาหลักมันก็ไม่ใช่ แต่ด้วยความผูกพันที่เป็นแม่เป็นลูก เราก็คิดถึงที่ว่าเขาเป็นลูกของเรา และเขาก็จากเราเร็วเกินไป”
“ช่วงนั้นถึงแม่จะทุกข์ยังไง ลำบากยังไง ก็ไม่เคยปริปากเล่าให้ลูกฟัง ไม่เคยขอความช่วยเหลือจากลูก แต่จะหันไปทางอื่นมากกว่า ไม่ใช่ว่าลูกใจดำนะคะ แต่ด้วยความที่ลูกเห็นว่าเราทำมาหากินเองได้ และเราก็ไม่เคยรบกวนเขา เขาเลยไม่ค่อยรู้สึกว่าเราสะเทือน ตอนนี้ถามว่าเรามีปัญหาไหม มันก็ตามอัตภาพของความเป็นอยู่เดิม ที่เราเป็นอยู่อยู่แล้ว”
“ตั้งแต่เขาตายแม่ก็ไม่รู้ว่าเงินทองเขาอยู่ไหน ATM ก็ไม่มีไม่รู้หายไปไหน เพราะแม่ไม่ได้ไล่ตามเช็ค จะให้ไปถามใครก็คงไม่มีประโยชน์มั้ง เขาก็คงไม่ตอบมั้ง เขามีคนดูแลอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ แม่รู้ว่าอ๊อฟมี ATM เวลาจะใช้ก็ให้เพื่อนฝูงไปกด เราก็ไม่รู้จะไปตามอะไรตรงไหน สมุดบัญชีก็ไม่มี ก็ไม่รู้จะเช็คยังไง ไม่มีใครให้ข้อมูลอะไรใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนข้าวของของอ๊อฟแม่ก็แจกจ่ายคนไปหมดแล้ว”
เผยเคยเจอ "ลูกกวาด" น.ส. สิริพร เชียร์สมสุข และ “น้องจีนส์” หรือ ด.ญ.แพรวา ซึ่งเป็นเมียและลูกสาวของอ๊อฟ ตอนเสียลูกชายใหม่ๆ หลังลำบากไม่มีเงินส่งค่าเล่าเรียนหลาน ก็ไม่ได้รับการติดต่อจากทั้งคู่อีกเลย
“หลังอ๊อฟตายไป แม่ไม่ได้เจอหลานมาพักใหญ่แล้ว ช่วงที่อ๊อฟเพิ่งตายจะได้เจอบ่อยหน่อย แต่ตอนหลังแม่ลำบาก เพราะงานไม่มีต่อเนื่อง มันเลยสะดุด แม่ของหลานโทรมาขอค่าเล่าเรียน ตอนนั้นเราไม่มีจริงๆ ก็บอกว่าไว้รอสักพักได้มั้ย แล้วเขาก็เงียบไปเลย พอเราติดต่อไปให้เขาโทรกลับมา เขาก็ไม่โทรกลับ เราก็เลยติดต่อเขาไม่ได้ เขาคงสบายดีมั้งคะ”
“ช่วงนี้แม่เพิ่งมีงานเข้ามา ชีวิตก็ยังไม่ได้ดีขึ้นหรอก แต่คงจะดีขึ้นกว่าก่อนๆ นี้ คนเรามีขึ้นก็ต้องมีลง แม่ก็คิดอย่างนี้ แม่อยากขอบคุณทุกคน ที่เป็นห่วงกันมาว่าชีวิตแม่เป็นยังไงบ้าง กราบขอบพระคุณมากๆ แค่ความเป็นห่วงเป็นใยก็รู้สึกซึ้งมากๆ แล้ว(สะอื้น)”