ตกเป็นข่าวอย่างต่อเนื่องทีเดียวสำหรับการจัดทำภาพยนตร์พระไตรปิฎก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของเรื่องเงินบริจาคที่มีชื่อและพระผู้ใหญ่บางรูปของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย(มมร.) เข้าไปเกี่ยวข้อง เป็นเหตุให้ มมร.เอง ต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบุคคลภายในขึ้นมา
พร้อมกับร้องขอไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เพื่อให้ร่วมตรวจสอบในเรื่องนี้หลังมีกลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งได้นำชื่อ รวมถึงตราสัญลักษณ์ของ มมร.และสถาบันพระมหากษัตริย์ ไปแอบอ้างในโครงการจัดสร้างพระไตรปิฎก ฉบับภาพยนตร์ และโครงการเชิญชวนเช่าบูชาวัตถุมงคลพระพุทธโสธร "รุ่นเจริญสุข" ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เพื่อขอรับบริจาคเงิน
เป็นเหตุให้มีประชาชนซึ่งเข้าใจผิดได้บริจาคเงินเข้ามารวมกันกว่า 10 ล้านบาท ได้มาเข้าร้องทุกข์ต่อ มมร.จำนวนมาก
ทั้งนี้รายงานล่าสุดเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมาจากนาย "สงกรานต์ อัจฉริยะทรัพย์" ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ว่า ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงบุคคลภายในของ มมร. ซึ่งมีนายสุทธิ ผลสวัสดิ์ อดีตอธิบดีกรมพลศึกษา และอธิบดีกรมอาชีวศึกษา เป็นประธาน ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการพิจารณาเห็นชอบชงเรื่องสั่งปลด หรือไล่ออกผู้บริหารระดับสูงของ มมร. 2 รายด้วยกัน เนื่องจากกระทำผิดวินัยร้ายแรง ในการใช้อำนาจในตำแหน่ง หรือหน้าที่เพื่อไปแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
ที่สำคัญพบว่าเอื้อประโยชน์กับบริษัทจัดสร้างภาพยนตร์พระไตรปิฎก และกลุ่มบุคคล อันก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันเบื้องสูง และทาง มมร. รวมทั้งกรณีไปลงนามแทนอธิการบดีในเอกสารต่างๆ เพื่อขอรับบริจาคในโครงการดังกล่าว
โดยในข่าวยังแจ้งด้วยว่าในส่วนของ 2 ผู้บริหารระดับสูงที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเสนอให้ปลดหรือไล่ออกนั้นก็คือพระเทพวิสุทธิกวี รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวางแผน มมร. และนิติกรของ มมร.
ซึ่งนอกจาก 2 ผู้บริหารระดับสูงนี้แล้ว ทางคณะกรรมการฯ ยังได้มีมติให้โยกย้ายเจ้าหน้าที่อีก 20 รายเพื่อเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีทั้งทางวินัย และอาญาอีกด้วย
ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ มมร. ยังบอกต่อไปด้วยว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทผลิตภาพยนตร์อย่างบริษัทไตรรัตน มีเดีย จำกัด นั้น พบว่าสำนักงานที่ได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เลขที่ 555 ถนนนวมินทร์ 28 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เป็นบ้านร้างสภาพทรุดโทรม
นอกจากนี้ยังพบว่าในการจัดสร้างภาพยนตร์พระไตรปฎกนี้ได้มีนักการเมือง ข้าราชการ และผู้ที่มีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมากมาย ซึ่ง มมร.จะรวบรวมข้อมูลส่งให้ดีเอสไอได้เร่งตรวจสอบ รวมถึงจัดทำรายงานเสนอให้มหาเถรสมาคม (มส.) รับทราบด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้จะเกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย ทว่าเมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนาย "สนั่นพงษ์ สุขดี" ผู้จัดการบริษัทไตรรัตน เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า จะเดินหน้าสร้างหนังเรื่องนี้ต่อไปอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าทางพระเทพวิสุทธิกวีจะต้องถูกปลดจริงๆ หากมีเงินบริจาคเข้ามา พร้อมเผยที่ผ่านมาในส่วนของเงินที่บริจาคนั้นเท่าที่ตนทราบมีแค่ 1 ล้านบาท ซึ่งในตอนนี้การถ่ายทำได้หยุดมาแล้วพักหนึ่งโดยที่ตนเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไหร่
เมื่อถามต่อไปว่า ตกลงแล้วทาง มมร. นั้นวางตัวอยู่ในบทบาทใดกันแน่กับโครงการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ระหว่างดูแล-ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องเนื้อหา สาระ หรือเป็นผู้ผลิตร่วมกัน นายสนั่นพงษ์ตอบว่าโครงการนี้เกิดขึ้นโดยที่ทางตนไปเสนอกับทาง มมร. จากนั้นจึงได้เซ็นข้อตกลงร่วมกัน โดยทาง มมร.จะหาทุนมาให้ ซึ่งในเบื้องต้นนั้นจะเป็นการผลิตออกมาขาย ทว่าต่อมาได้เปลี่ยนเป็นแจกฟรีแทน
โดยงบประมาณในการผลิตแต่ละตอนจะอยู่ที่ราวๆ 2-3 ล้านบาท แต่จะมาสูงในเรื่องของการค่าจัดส่งแผ่นไปยังโรงเรียนหรือวัดต่างๆ โดยน่าจะอยู่ที่ราวๆ 4-500 ล้านบาท ก่อนจะบอกด้วยว่าตนคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นความขัดแย้งกันเองภายใน มมร.มากกว่า
...
สำหรับโครงการสร้างภาพยนตร์เรื่อง “พระไตรปิฎก” นั้นปรากฏเป็นข่าวครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2548 จากพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย กับบริษัทไตรรัตน มีเดีย จำกัด โดยมีพระเทพวิสุทธิกวี เป็นประธาน และมอบหมายให้นายถนอม บุตรเรือง รองอธิการบดีฝ่ายการเงินและทรัพย์สินเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัย
ขณะที่ทางฝั่งของ บริษัทไตรรัตน มีเดีย จำกัด นั้น ประกอบไปด้วย นายสนั่น(พงษ์) สุขดี ผู้จัดการบริษัทในฐานะของผู้อำนวยการสร้าง และนายพยุง พยัคฆ์กุล ในฐานะผู้กำกับ วัตถุประสงค์ก็เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระเกียรติ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และทรงมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา
โดยการลงนามที่ว่าจัดขึ้นที่หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย และมีดารา นักแสดง เข้าร่วมมากมาย อาทิ ดามพ์ ดัสกร, เป้า ปรปักษ์, ชุติมา กาวิละ, พิพัฒน์ อินทรัตน์, สมคิด สุขเจริญ, สัมพันธ์ ชุติมันต์, พงษ์ยศ อรัญปาน, โชติพัฒน์ สกุลดีเชิดชู, อินทิรา ทันมงคล รวมถึง นักแสดงอาวุโสอย่างสีเทา ซึ่งในเบื้องต้นมีการตั้งงบไว้ที่ 100 ล้านบาท
ภาพยนตร์เรื่องนี้มาเป็นข่าวอีกครั้งจากการแถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดสร้างเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ซึ่งในคราวนี้นายสนั่นพงษ์ สุขดี ผู้อำนวยการสร้าง ได้ให้รายละเอียดว่าการจัดสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นไปตามมติของกรรมการมหาเถรสมาคม โดยจะจัดทำทั้งสิ้น 250 ตอน ใช้ทุนสร้างกว่า 1,200 ล้านบาท เวลาในการถ่ายทำ 5 ปี ซึ่งรัฐบาล และสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติโดยมหาเถรสมาคมนั้นเป็นผู้ตั้งงบประมาณ และจะบันทึกเป็น DVD-VCD ถวายให้แก่วัดและส่งมอบให้แก่สถานศึกษาทั่วประเทศ
(งบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล 726 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะใช้วิธีการรับบริจาค ซึ่งในส่วนของงบจากรัฐฯ นั้น นายสนั่นพงษ์เคยให้ข่าวว่าคุณหญิง "ทิพาวดี เมฆสวรรค์" อดีตปลัดกระทรวงวัฒนธรรมฯ ได้เซ็นอนุมัติให้ความเห็นชอบไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2550 เพียงแต่ยังไม่ได้รับเงิน ทว่าต่อมาอีกฝ่ายได้ออกมายืนยันว่าไม่เคยเซ็นอะไรแต่อย่างใด อ่านเรื่อง ผ่างบงุบงิบ 1,200 ล้านหนัง "พระไตรปิฎก" ประกอบ)
อย่างไรก็ตามหลังเปิดตัวพระเอกที่จะมารับบทเป็นพระพุทธเจ้าอย่าง "มาร์ค สงกรานต์ (สโคลส์) ทัพมณี" ปรากฏว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ต้องพบกับคำถามจากสังคมมากมาย ทั้งเรื่องความเหมาะสมของตัวหนุ่มมาร์คเองที่เคยถ่ายแบบหวิวมาก่อน, คุณภาพของทีมงานผู้ผลิต, นักแสดงบางส่วนที่ออกมาให้ข่าวว่าไม่ได้รับเงินค่าตัว และที่สำคัญก็คือ ความโปร่งใสในการจัดทำและเรื่องเงินบริจาค ซึ่งค่อนข้างจะวกวนไม่ค่อยตรงกันสักเท่าไหร่
กระทั่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วก็มีข่าวออกมาจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ว่าทางทางมหาเถรสมาคมได้ออกหนังสือยุติ-ไม่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไปนานแล้ว ท่ามกลางกระแสของการร้องเรียนจากหลายๆ ฝ่ายเนื่องจากในโครงการนี้ได้จัดพิมพ์หนังสือเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี โดยปกหนังสือนำพระบรมฉายาลักษณ์และตราสัญลักษณ์ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มาจัดพิมพ์โดยมิได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต และมีส่วนทำให้ประชาชนเข้าใจผิด
...
"มหามกุฎฯ" ร้อง"ดีเอสไอ" ตรวจสอบผู้สร้างหนัง "พระไตรปิฎก" แอบอ้างเรี่ยไรเงิน
ผู้สร้าง “พระไตรปิฎก” พร้อมให้ตรวจ บอกข่าวเยอะเพราะบริสุทธิ์เกินไป
"มาร์ค" ตัดพ้อ หนัง "พระไตรปิฎก" มีแต่เรื่อง หวั่นคนไม่ศรัทธา
ผู้สร้าง “พระไตรปิฎก” พร้อมให้ตรวจ บอกข่าวเยอะเพราะบริสุทธิ์เกินไป
อดีตพีอาร์ "พระไตรปิฎก" เดือด! บุกชี้หน้าทวงความเป็นธรรมกับผู้สร้างหนัง
“มาร์ค” ยันค่าตัวหนัง “พระไตรปิฎก” ได้รับดีไม่มีปัญหา
หนัง “พระไตรปิฎก” สุดวุ่น ผู้สร้าง-อดีตพีอาร์ฟ้องกันนัว
ดาราโวยสัญญาหนัง "พระไตรปิฎก" จี้จับตาเงินบริจาค
“มาร์ค” รับเอ็มไทยแลนด์ให้แหวนวงเดียว ก่อนคุยพระไตรปิฎกหนังดี
เปิดกล้องแล้วหนังพระไตรปิฎก ชม "มาร์ค" ในบทพระพุทธเจ้า
ควักทุนส่วนตัวเริ่มถ่ายแล้ว "หนังไตรปิฎก" พระผู้ใหญ่ไฟเขียวถ้า "มาร์ค" แอ็กติ้งได้
จากเสียงท้วงติงของ "โกยเถอะโยม-องคุลิมาล" สู่ความนิ่งขององค์กรพุทธต่อหนัง "พระไตรปิฎก"
พระรับได้ "มาร์ค" หวิว ส่วนหนังจะสร้าง/ไม่สร้าง อยู่ที่ทีมงาน
ว่าที่พระพุทธเจ้า "มาร์ค" เปิดใจข่าวเกย์ บอกเรื่องส่วนตัว
คุณหญิงทิฟฟี เห็นชอบเซ็นเอง งบหนังพระไตรปิฎก
ชี้หนังพระไตรปิฎกตีบุคลิกพระอรหันต์ ทั้งพระนักกล้าม โง่นิดๆ รักสวยรักงาม
"จิ๊ก" เชื่อข่าวคบเด็ก ไม่กระทบภาพลักษณ์หนังพระไตรปิฎก
น้อมรับกระแสวิจารณ์ "การ์ตูน" เชื่อภาพเซ็กซี่ (ไม่) ขัดต่อบทหนัง "พระไตรปิฎก"
รัฐฯ เบรกงบหนังพระไตรปิฎกเหตุไม่เคลียร์ ด้าน "มาร์ค" ยัน ทีมงานรู้ตนเคยถ่ายหวิว!
มาตรฐาน “ดารา” ผู้ที่จะมาเป็น “ศาสดา” ของชาวโลก
ผ่างบงุบงิบ 1,200 ล้านหนัง "พระไตรปิฎก"
"พยุงเวทย์" วอน ให้โอกาสนายแบบแนวสยิวเป็นพระพุทธเจ้า
เปิดตัว "มาร์ค เอ็มไทยแลนด์" กับบทพระพุทธเจ้า
ทุ่ม 1.2 พันล้านสร้างพระไตรปิฎกฉบับ “ภาพยนตร์”
