หลังจากที่โดน 3 สมาชิกจากวง"ดงบังชินกิ"บอยแบนด์ชื่อดังจากเกาหลีเข้าฟ้องศาลขอยกเลิกสัญญาทาสโดยอ้างเหตุความไม่ชอบธรรมไปเมื่อไม่กี่วันก่อน ล่าสุดทางต้นสังกัด SM Entertainment ออกโรงโต้กลับทุกข้อกล่าวหา โดยย้ำว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างสมเหตุสมผล
ทันทีที่ 3 หนุ่มดงบังชินกิทั้ง มิคกี้ ยูชอน, ซีอา จุนซู และ ฮีโร่ แจจุง ส่งตัวแทนออกมากล่าวยืนยันเดินหน้าฟ้องร้องฉีกสัญญาต้นสังกัดไปเมื่อวานนี้ ล่าสุดทางต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีต่างๆที่ 3 นักร้องดังกล่าวว่าถูกเอาเปรียบพร้อมระบุให้ค่าตอบแทนมหาศาลพร้อมสินค้าสุดหรูไปมากมายด้วย
"ดงบังชินกิ ได้รับเงินไปทั้งหมด 11,000 ล้านวอนหลังจากที่พวกเขาเดบิวต์จนถึงก.ค.ปี 2009 ( แบ่งเป็นเงินปันผล 9.2 พันล้านวอน รวมกับ เงินล่วงหน้าอีก 1.77 พันล้านวอน ) พร้อมกันนั้นยังได้รับผลิตภัณฑ์สินค้าระดับไฮ-เอนด์แบรนด์ดังของต่างชาติมากมาย แม้ว่าขณะเดียวกันทางบริษัท SM Entertainment จะประสบกับปัญหาขาดทุนในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาหลังจากที่วงดงบังชินกิเดบิวต์ก็ตาม และแม้ว่าพวกเขาจะได้รับเงินปันผลไปแล้ว ยังมีงานถ่ายโฆษณา ออกงานอีเวนต์ และ ถ่ายภาพลงหนังสือที่พวกเขายังจะสามารถทำรายได้จากจุดนี้เพิ่มได้อีก"
ในส่วนของข้อกล่าวหาที่ว่าสมาชิกทั้ง3 ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมกับพวกเขาเท่าใดนักทั้งในเรื่องของสัญญาที่เอาเปรียบ และการทรมานให้พวกเขาได้พักผ่อนแค่วันละ 3-4 ช.ม. เพื่อทำงานตามตารางที่วางไว้อย่างแน่นเอี๊ยด จากกรณีนี้ SM Entertainment ระบุว่า "เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพและตารางงานของพวกเขา ทางเราต้องพูดคุยปรึกษากับพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะเข้าร่วมงานอยู่แล้ว"
แม้ว่าก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คนจะออกมาระบุถึงสาเหตุที่ฟ้องต้นสังกัดว่าเป็นเพราะสัญญาผูกมัดยาวนานและไม่เป็นธรรมจนต้องการขอยกเลิก ไม่ได้ฟ้องเพราะเกี่ยวกับการทำธุรกิจเครื่องสำอางแต่อย่างใดนั้น งานนี้ทางด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กลับมองว่าปัญหาฟ้องร้องครั้งนี้สาเหตุหลักๆน่าจะสืบเนื่องมาจากการที่สมาชิกทั้ง 3 คนต้องการทำธุรกิจเครื่องสำอางเป็นของตนเองจึงเป็นเหตุให้ไปขัดแย้งกับสัญญาและข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับบริษัทเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งทางต้นสังกัดเองก็ออกมาระบุยืนยันเช่นกันว่า "มองจากกรณีนี้แล้ว ถือได้ว่าเรื่องนี้เป็นสาเหตุหลักๆเลย เพราะมีเพียงแค่สมาชิก 3 คนนี้เท่านั้นที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจดังกล่าว พวกเขาวางแผนต้องการที่จะลดและทำลายภาพลักษณ์ของพวกเขาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อที่จะสามารถเข้าร่วมทำธุรกิจโดยใช้ภาพของพวกเขาเองทำการตลาดโดยไม่ติดเงื่อนไข และจะได้เข้าร่วมงานอีเวนท์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของพวกเขาได้ทำให้ต้นสังกัดต้องออกมาปกป้องเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด"
ในส่วนที่ระบุว่าสัญญาทาส 13 ปีอันยาวนานเป็นเหตุให้ทั้ง 3 คนไม่พอใจนั้น ทางต้นสังกัดชี้แจงโดยยืนยันว่าไม่มีข้อบังคับห้ามทำสัญญาเกิน 7 ปี และสัญญามีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อตกลงมาโดยตลอดตามความเห็นชอบของทุกฝ่าย
"ตามกฏของ คณะกรรมการการค้ายุติธรรม ( Fair Trade Commission ) ไม่มีบทบัญญัติไหนระบุว่า ห้ามนักร้องเซ็นสัญญาเกิน 7 ปี และไม่ได้จำกัดระยะเวลาของสัญญาในการโปรโมทผลงานที่ต่างประเทศด้วย ทางเราเคยแก้ไขรายละเอียดสัญญาเพื่อเป็นไปอย่างถูกต้องเหมาะสมมาแล้วถึง 5 ครั้ง หลังจากที่พวกเขาเซ็นสัญญาครั้งแรกไปเป็นที่เรียบร้อย โดย 2 ครั้งนั้นเกี่ยวกับเรื่องชดเชยค่าเสียหาย ซึ่งก็ได้รับการตรวจตราพร้อมกับอนุมัติจากทางคณะกรรมการการค้ายุติธรรมเป็นที่เรียบร้อย และอีก 3 ครั้งนั้นเป็นเรื่องของส่วนแบ่งรายได้และการต่อสัญญาใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนม.ค. ปี 2004, ก.พ. ปี 2007 และล่าสุดในเดือน ก.พ. ปี 2009 ทางเราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้พร้อมกับสมาชิกทั้ง 3 คน เกี่ยวกับการขอยกเลิกสัญญาและการเผชิญหน้าต่อสู้ดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
"ดงบังชินกิ"เดินหน้าฟ้องต้นสังกัดขอยกเลิกสัญญาทาส