เรียกได้ว่าเป็นข่าวคราวใหญ่โตที่ทำเอาแฟนคลับ"ดงบังชินกิ"ถึงขั้นกินไม่ได้นอนไม่หลับกันเลยทีเดียวหลังมีข่าวว่า 3 สมาชิกในวงยื่นเรื่องฟ้องบริษัทต้นสังกัดหลังไม่พอใจสัญญาทาส ซึ่งล่าสุดทางศิลปินได้ออกมายืนยันแล้วว่าจะเดินหน้าฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
หลังมีข่าวลือออกมาได้สักพักถึงเรื่องราวการฟ้องร้อง ล่าสุด3 สมาชิกจากวงดงบังชินกิ มิคกี้ ยูชอน,ฮีโร่ แจจุง และ เซีย จุนซู ได้ออกมายืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าทั้งสามมีปัญหากับบริษัท SM Entertainment ต้นสังกัดจริง และจะเดินหน้าฟ้องร้องบริษัทต้นสังกัดต่อไป
จากกรณีที่สมาชิกทั้ง 3 ของวงดงบังชินกิ เข้าฟ้องร้องต่อศาลในกรุงโซลเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยยื่นเรื่องฟ้องบริษัท SM Entertainment ต้นสังกัดในกรณีขอให้ศาลยกเลิกสัญญาของวงที่มีต่อทางบริษัท SM Entertainment ที่ระบุว่าทางบริษัทเป็นผู้แบ่งผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว โดยสัญญาดังกล่าวเต็มไปด้วยข้อตกลงที่ไม่เป็นธรรมต่อตัวศิลปิน และพวกเขายังไม่สามารถทำตามความต้องการของตนเองได้ ซึ่งรวมไปถึงธุรกิจส่วนตัวที่พวกเขาลงทุนทำร่วมกันเกี่ยวกับเครื่องสำอางก็เกิดปัญหาเรื่องสิทธิ์ที่ทำให้ต้นสังกัดไม่พอใจเท่าใดนักด้วย
หลังจากนั้นทางต้นสังกัดเองก็ออกมายืนยันถึงข่าวการฟ้องร้องเช่นกันว่าเป็นความจริง แต่จะพยายามไม่ให้กฏหมายดังกล่าวมีผลต่อวงดงบังชินกิ พร้อมยืนกรานด้วยว่าวงดงบังชินกิต้องทำกิจกรรมตามตารางที่ได้จัดเตรียมไว้แล้วต่อไป เป็นเหตุให้วันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางอีซูมาน ประธานบริษัท SM Entertainment ก็ต้องบินด่วนจากสหรัฐอเมริกาเดินทางมายังเกาหลีใต้ เพื่อพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ทั้ง 3 คนไม่พอใจกับข้อผูกมัดในสัญญาที่ยาวนาน อันเป็นการสร้างความไม่เป็นธรรมให้กับพวกเขา เนื่องจากส่วนแบ่งรายได้ที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็ไม่เป็นธรรมกับสมาชิกวงที่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับทางบริษัทเท่านั้น
โดยล่าสุดทางประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของพวกเขาได้ออกมาแถลงข่าวเปิดเผยในวันนี้เป็นที่เรียบร้อยแล้วเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า "ตลอดระยะเวลา 5 ปีหลังจากที่พวกเขาเปิดตัวมา 3สมาชิกจากวงดงบังชินกิ รู้สึกว่าพวกเขาเหน็ดเหนื่อยทั้งทางร่างกาย และจิตใจจากตารางงานที่แน่นขนัดที่ทางบริษัทจัดวางเองฝ่ายเดียว"
"คิมจุนซู, คิมแจจุง และ ปาร์คยูชอน ทำตามข้อตกลงของบริษัท SM มาตั้งแต่ปี 2004 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน และเดินทางไป-มาระหว่าง เกาหลี,ญี่ปุ่น และ จีน รวมถึงประเทศอื่นๆตลอดทุกวันเป็นเวลา 1 ปี ยกเว้นเพียงสัปดาห์เดียวที่เป็นวันหยุดพัก และได้นอนเพียงแค่ 3-4 ชม.ต่อวันเพื่อทำตามตารางงานที่กำหนดไว้ ในส่วนของการดำเนินการครั้งนี้จึงเกิดจากปัญหาทางด้านสุขภาพของ 3 สมาชิกที่ทรุดโทรมและเสื่อมลงค่อนข้างมาก และพวกเขายังคงทรมานจากความเหน็ดเหนื่อยทางด้านจิตใจด้วย ขณะที่ทาง SM เองไม่สนใจและยังคงเดินหน้าที่จะให้พวกเขาทำตามความต้องการของบริษัทที่อยากให้ดงบังชินกิไปโปรโมทและเปิดตัวในประเทศอื่นๆต่อไป ในที่สุดแล้ว 3 สมาชิกของวงรู้สึกว่า หากเปรียบแล้วเพื่อที่จะเติมเต็มความฝันของพวกเขาที่จะได้เป็นนักร้อง พวกเขากลับถูกใช้เป็นยิ่งกว่าเครื่องมือหากินของทางบริษัทเมื่อเทียบกับผลประโยชน์ที่พวกเขาได้รับ และทางบริษัทยังให้สมาชิกแต่ละคนเดินหน้าทำกิจกรรมด้านอื่นๆในแวดวงบันเทิงอีกด้วย"
ทางตัวแทนของทั้ง 3 ยังกล่าวต่อไปด้วยว่า "มันเป็นสัญญายาวนานถึง 13 ปี แต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือสัญญาทั้งชีวิต ซึ่งสัญญา 13 ปีนี้ยังไม่นับรวมเวลาที่พวกเขาต้องเข้ารับการเป็นทหาร เพราะฉะนั้นสัญญานี้จะยาวนานมากกว่า 15 ปี และตอนนี้ยังไม่ถึง 10 ปีเลยนับตั้งแต่ที่พวกเขาเปิดตัวมา ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าสัญญาดังกล่าวจะผูกพันพวกเขาไปจนกว่าจะเกษียณจากแวดวงบันเทิง กรณียกเลิกสัญญาจะต้องจ่ายเงินเป็น 3 เท่าจากเงินที่ลงทุนทั้งหมด และ 2 เท่าจากรายรับที่ต้องสูญเสียไป แม้แต่กรณีที่สัญญาถูกยกเลิกจากความเห็นของทั้งสองฝ่ายทางสมาชิกวงก็ต้องจ่ายเช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าต้องเสียเงินเป็นจำนวนหลายล้านวอนจากการยกเลิกสัญญา จนทำให้ดูเหมือนว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขอยกเลิก แต่ทางสมาชิกวงไม่มีทางเลือกและยังคงที่จะดำเนินการฟ้องร้องทาง SM ต่อไป"
นอกจากเผชิญกับสัญญาทาสแล้วพวกเขายังต้องเผชิญกับสัญญาโหดที่ว่าจะไม่ได้รับเงินหากยอดขายอัลบั้มไม่เป็นไปตามเป้าด้วย "พวกเขาไม่ได้รับการปฏิบัติที่ถูกต้องจากทาง SM และจะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆจากสัญญาที่เกิดขึ้นด้วย โดยสัญญาได้ระบุว่าถ้าหากอัลบั้มที่กำลังจะวางแผงล่าสุดนี้ของพวกเขาขายได้มากกว่า 500,000 แผ่น สมาชิกแต่ละคนจะได้รับค่าตอบแทนเป็นจำนวน 10 ล้านวอน หรือประมาณ 400,000 บาท แต่ถ้าหากอัลบั้มมียอดขายต่ำกว่า 500,000 แผ่น พวกเขาก็จะไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น"
แม้ว่าการฟ้องร้องดำเนินคดีจะยังคงดำเนินการต่อไปตามขั้นตอนของศาล แต่ทางสมาชิกวงดงบังชินกิก็ได้ยืนยันด้วยเช่นกันว่าพวกเขาจะยังคงเป็นดงบังชินกิอยู่เช่นเดิมเพราะสมาชิกแต่ละคนไม่ได้มีปัญหาภายในวง พร้อมกันนั้นยังยืนยันว่างานคอนเสิร์ต A-Nation ที่กำลังจะจัดขึ้นและมีชื่อของพวกเขาขึ้นแสดงด้วยนั้นจะยังคงมีอยู่ต่อไปและจะเข้าร่วมคอนเสิร์ตครั้งนี้อย่างแน่นอน จากคำยืนยันดังกล่าวทำให้แฟนเพลงของดงบังชินกิส่วนหนึ่งถึงขั้นโล่งอกเลยทีเดียว