“ปอย ตรีชฎา” งง “อุ๊บ วิริยะ” ให้ดอกไม้เป็นกำลังใจ บอกถ้าไม่ผิดต้องสู้ “พจน์ อานนท์” หวั่นโดนมองแทคทีมถล่มผกก.ดัง ยันเป็นเรื่องเข้าใจผิด พร้อมยกมือไหว้ขอโทษถ้ามีโอกาสจะไปเคลียร์ด้วยตัวเอง น้อยใจถูกตราหน้าขี้โกหก บอกตนเป็นฝ่ายเสียหายที่ถูกเปลี่ยนบทจาก “ตัวเอก” เหลือแค่ “ตัวประกอบ”
งานเข้าตลอดไม่เคยว่างเว้นข่าวฉาว เพิ่งจะเคลียร์คดีรักสามเส้าแย่งนักร้องหนุ่ม “มิวสิค AF4” จากอกสาว “ลูกโป่ง ภคมน” จบไปหมาดๆ ล่าสุดสาวประเภทสองคนสวยอย่าง “ปอย ตรีชฎา มาลยาภรณ์” มีข่าวเกาเหลากับผู้กำกับชื่อดัง “พจน์ อานนท์” โดยถูกแฉว่า เธอนั้นเรื่องมาก และเรียกค่าตัวสูงจนเป็นเหตุทำให้ปลดออกจากหนังเรื่องใหม่ “หอแต๋วแตก 2” และผู้กำกับชื่อดังได้เลือก “สายป่าน อภิญญา สกุลเจริญสุข” มาเสียบแทน
ซึ่งข่าวกินเกาเหลาชามโตของทั้งคู่นี้เอง เป็นเหตุทำให้ประธานชมรมนักปั้นแห่งประเทศไทย “อุ๊บ วิริยะ” ที่เป็นคู่อริไม่กินเส้นกับพจน์มาโดยตลอด ได้เกิดความเห็นอกเห็นใจ เลยหอบดอกไม้มาให้กำลังใจ พร้อมโชว์ช็อตเด็ดหอมแก้มสาวปอยในงาน “Magic Miracle Hair 2009” ที่จัดขึ้นที่ห้างคาร์ฟูร์ พระราม 4 วันก่อน จนเป็นที่สงสัยว่าทั้งคู่คงจะแทคทีมกันถล่มพจน์เป็นแน่ แต่สาวปอยตอบปฏิเสธ พร้อมเผยอยากเข้าไปเคลียร์และขอโทษผู้กำกับดังด้วยตัวเอง
“เรื่องแทคทีมถล่มไม่น่าจะใช่ ถ้าแทคทีมถล่มคงจะออกมาพูดถึงพี่พจน์ในทางไม่ดีแล้วล่ะ ปอยไม่ได้จะรวมตัวกับใครนะคะ พี่อุ๊บแค่มาบอกว่าสู้ต่อไปนะ ถ้าเราไม่ผิดก็สู้ต่อไป เขาคงเข้าใจว่าเราโดนคนมองไม่ดี ปอยก็ไม่ทราบว่าเขาสองคนทะเลาะกันอยู่หรือเปล่า เราก็งงๆ เหมือนเขามีอะไรกันนิดหน่อย ปอยไม่อยากให้เขาทะเลาะกัน เพราะพี่อุ๊บเองก็ไม่ได้พูดถึงพี่พจน์ในทางไม่ดี ปอยเองก็ไม่ได้พูด ปอยก็กลัวว่าพอเขาให้ดอกไม้อย่างนี้ คนจะมองว่าเราจับคู่กันว่าพี่พจน์หรือเปล่า ก็อยากให้มองว่าปอยไม่ได้คิดเรื่องนี้ ปอยยังบอกพี่อุ๊บเลยว่าเรื่องมันไม่มีอะไรแล้ว”
“ปอยยังไม่ได้เคลียร์กับพี่พจน์เลย ปอยอยากคุยกับพี่พจน์เอง วันก่อนปอยพยายามขอเบอร์จากผู้จัดการจะโทรไปปรับความเข้าใจ และขอโทษพี่พจน์ แต่ผู้จัดการบอกว่าอย่าเพิ่งเลย พี่พจน์กำลังโกรธอยู่ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ปอยรู้สึกเสียหายมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่รู้สึกเสียใจ ปอยก็ต้องขอโทษพี่พจน์ด้วย (ยกมือไหว้) ถ้ามีโอกาสปอยอยากเข้าไปเคลียร์ อยากขอโทษพี่พจน์ และอยากขอโทษแทนผู้จัดการด้วย ที่ผู้จัดการไม่ได้รับโทรศัพท์พี่พจน์วันหนึ่ง หลังจากนี้ถ้าได้เจอกับพี่พจน์ ปอยไม่มีทางทำเริ่ดเชิ่ดใส่แน่นอน ปอยจะสวัสดีและไหว้ปกติเลย แม้เขาจะอะไรใส่ปอย ปอยก็จะไหว้เขา”
รับผู้จัดการส่วนตัวต่อสายตรงหาพจน์ ขอให้บอกสื่อเป็นเรื่องเข้าใจผิด และยันไม่เคยโก่งค่าตัวสูงถึงตอนละ 3 หมื่นบาท
“พี่ต้น ผู้จัดการส่วนตัวของปอยโทรไปแบบนั้นจริงๆ ครั้งสุดท้ายที่พูดเรื่องค่าตัวคือ แสนห้า กับ สองแสน หาร 18 คิว ก็ตกคิวละประมาณหนึ่งหมื่นบาท มันตามความเหมาะสม ถ้าเกิดแสนห้า หาร 18 คิว มันก็ไม่ถึงหมื่นแล้ว พี่ต้นเขาก็ต้องหักอะไรอีก คือให้น้อยกว่าคนอื่นไม่เป็นไร แต่ต้องให้ตามความเหมาะสมแค่นั้นเอง พี่ต้นเลยขอเพิ่มเป็นสองแสน เขาก็บอกว่าไม่ได้ พี่ต้นบอกงั้นขอสัญญาก่อนได้มั้ย ปรากฏพรุ่งนี้จะถ่ายแล้วสัญญายังไม่ได้เซ็นต์เลย”
“ปอยไม่ได้ว่าพี่พจน์ไม่แฟร์นะ ปอยก็ไม่แน่ใจว่าพี่ต้นเรียกร้องเองหรือเปล่า มันก็อาจจะเป็นไปได้ ปอยก็เชื่อนะที่พี่พจน์พูด ปอยก็ไม่ได้เข้าข้างผู้จัดการตัวเองเต็มร้อย ผู้จัดการปอยเองก็ผิดที่วันนั้นไม่ได้รับโทรศัพท์พี่พจน์ทั้งวัน เพราะทำงานอีเว้นท์อยู่ พอเขาโทรกลับไปตอนกลางคืน พี่พจน์ก็ไม่รับโทรศัพท์เหมือนกัน”
“ที่พี่พจน์บอกว่าทำไมปอยโกหก ทำไมถึงมีปัญหาเรื่องคิว คือปอยกับพี่ต้นไม่เคยบอกพี่พจน์ว่ามีปัญหาเรื่องคิว หรือปฏิเสธว่าไม่เล่น วันที่ปอยกลับจากเคนย่าแล้วมีนักข่าวมาสัมภาษณ์ ถ้าปอยตอบไปว่ามีปัญหาเรื่องคิว เรื่องมันคงไม่ใหญ่ขนาดนี้ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าไม่ได้โก่งค่าตัว เราเพิ่งรู้ตัวด้วยซ้ำว่าไม่ได้เล่น ตอนที่พี่พจน์ไปเขียนในไฮไฟว์ว่า ปอยไม่ได้เล่นแล้วเพราะราคาสูงเกินไป เราก็ตกใจเหมือนกันที่โดนปลด เพราะเราก็รอที่จะเล่นอยู่ แค่รอสัญญาอย่างเดียว”
แฉกลับถูกตลบหลังบอกให้เล่นเป็น “ตัวเอก” แต่ในบทเป็นแค่ตัวประกอบเป็นรอง “ตุ๊กกี้ ชะชะช่า” ลั่นไม่โกรธแต่น้อยใจที่ถูกตราหน้าว่าโกหก
“ปอยไม่ได้ซีเรียสว่าต้องเล่นเป็นนางเอก แต่มีคนๆ หนึ่งที่รู้จักกับพี่พจน์ เขาโทรมาบอกปอยว่า แอบไปอ่านบทมาแล้วนะ ปอยได้ออกมาแค่ฉากเดียวเอง ตอนที่พี่ตุ๊กกี้ (ตุ๊กกี้ ชะชะช่า) แปลงร่างปิ๊งเป็นปอย แล้วปอยก็หายไปเลย แต่ก่อนหน้านี้ปอยไปออกสื่อว่าจะได้เล่น “หอแต๋วแตก” เป็นตัวเอก ถ้ามันออกมาเป็นแบบนี้จริงๆ ใครจะรับผิดชอบ สื่ออาจจะบอกว่าปอยโกหกก็ได้ ปอยเลยบอกพี่พจน์ว่าขอดูบทก่อนว่าได้เล่นแค่ไหน มีคำพูดแค่ไหน”
“ปอยเชื่อและเห็นด้วยว่าพี่ตุ๊กกี้เล่นดีกว่าปอย เพราะเขามีความสามารถมากกว่า ปอยสู้เขาไม่ได้เลยจริงๆ แต่ปอยกลัวผิดคำพูดตัวเองมากกว่า ปอยก็ได้ยินข่าวลือมาว่าเขาถ่ายหนังไปแล้ว 3-4 วัน แต่ปอยยังไม่ได้ถ่ายเลย เอาเป็นว่าเรื่องนี้ปอยรู้สึกว่าเสียหายมาก และปอยก็ไม่ได้โกหก พี่นักข่าวทุกคนรู้อยู่แล้วว่าปอยไม่เคยโกหกเลย ขนาดเรื่องที่พูดจริงแล้วทำให้ปอยเสียหาย ปอยยังยอมรับเลย นับประสาอะไรกับเรื่องแค่นี้ ปอยไม่โกรธแต่น้อยใจมากค่ะ เพราะปอยไม่เคยโกหกเขาเลย”