เวิร์คพอยท์ฯ หันทำละครเวที จับกระแสฟีเวอร์ “เอเอฟฯ” ทำ “เดอะ เลเจนท์ ออฟ เร่ขายฝัน เฉลียง เดอะ มิวสิคัล” เผยงานนี้ทุ่มงบไม่อั้น แสง สี เสียง ตระการตา "เสี่ยตา" คุยจะเป็นละครเวทีที่ยิ่งใหญ่แห่งปีได้แน่
จับมาแล้วสารพัดงาน ล่าสุดเวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด(มหาชน) ก็ก้าวขึ้นมาอีกระดับ ด้วยการจับมือกับบริษัท ทรู แฟนเทเชีย จำกัด ดึงศิลปินเอเอฟหลายๆ รุ่นมาร่วมกันแสดงละครเวทีเรื่อง “เดอะ เลเจนท์ ออฟ เร่ขายฝัน เฉลียง เดอะ มิวสิคัล” กำกับการแสดงโดยบิ๊กบอสของบริษัทโต๊ะกลมอย่าง “สังข์ 108 มงกุฎ” หรือ “ธีรวัฒน์ อนุวัตรอุดม”
โดยงานนี้บอสใหญ่ของเวิร์คพอยท์ฯ อย่าง “เสี่ยตา ปัญญา นิรันดร์กุล” ถึงกับคุยว่าละครเวทีเรื่องนี้จะเป็นละครเวทีที่ยิ่งใหญ่แห่งปีจริงๆ...“ก็ถือว่าเป็นความยิ่งใหญ่แห่งปีนะครับ เกี่ยวกับเรื่องราวหลายๆ ครั้งที่จะทำโปรเจ็คร่วมกัน ซึ่งก็ทำมาร่วมกันอยู่ตลอดอยู่แล้ว"
"แต่ว่าครั้งนี้จากสิ่งที่เรามีจุดเด่นของทั้งคู่เก็บเอาไว้อยู่แล้วมารวมพลังกัน มารวมตัวในเรื่องราวของเร่ขายฝัน เดอะมิวสิคัลครั้งนี้น่าจะเป็นปรากฏการณ์อันยิ่งใหญ่ที่น่ายินดีสำหรับแฟนๆ ของเอเอฟ แฟนๆ ของทรูแฟนเทเชีย แฟนๆ ของเวิร์คพอยท์ โต๊ะกลม ต่างๆ ที่เกิดขึ้น”
“ก็จะเป็นเรื่องราวของละครบวกกับเรื่องราวของเพลง โดยที่เราเอาเพลงของเฉลียงมาเป็นตัวแกนเรื่อง แล้วก็ผูกเรื่องเข้าไปให้เกิดเป็นเรื่องราวความคิด ซึ่งคนที่ชมแล้วก็จะเห็นบรรยากาศ อย่างภาพโปสเตอร์จะเห็นว่านี่คือดีไซน์ที่แท้จริงของโครงละคร คอสตูม งานอาร์ตและโครงเรื่องต่างๆ ก็จะเป็นแบบนี้เลย"
"ดูแล้วก็จะอินกับเรื่องราวและความสามารถของชาวเอเอฟเกี่ยวกับเรื่องการแสดง ตื่นเต้นกับเรื่องราวของเนื้อเรื่อง แล้วก็เพลิดเพลินกับเสียงเพลงในสไตล์เฉลียงผ่านเอเอฟ น่าจะเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ ดูจบแล้วมีข้อคิดอีกด้วย”
คุยฉากแสงสีเสียงอลังการงานสร้างแน่ๆ
"(หัวเราะ) เรื่องเทคนิคเอาง่ายๆ ขนาดโปสเตอร์ก็เชื่อว่า ดีไซน์ คาแรกเตอร์ก็ยิ่งใหญ่แล้ว เสื้อผ้าต่างๆ หรือว่างานอาร์ต หรือโครงของตัวเรื่อง แล้วใครที่เห็นโลโก้เร่ขายฝันข้างบนจะเป็นธรรมชาติ แต่ถ้าเกิดหมุนกลับข้างล่างจะเป็นเมืองที่เกิดขึ้น"
"เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่เราอยู่ร่วมกัน ตกลงเมืองไหนดีกว่าเมืองไหนกันแน่ แล้วมันก็จะซ่อนในเรื่องราวต่างๆ เยอะแยะมากมาย และระหว่างทางก็จะซ่อนในเรื่องราวที่จะให้คิดต่อ แต่ระหว่างทางถ้าจะไม่คิดดูแล้วก็จะเพลิดเพลินสบาย อิ่ม มีความสุข”
“เชื่อว่าตอนนี้สิ่งที่เราเสนอไปก็คือในเรื่องของความบันเทิง แต่ระหว่างที่ดูๆ ไปมันจะซ่อนเรื่องราวระหว่างสองเมืองนี้ เอาง่ายๆ ว่าสองเมืองนี้คือเมืองที่เกิดขึ้นและก็เกิดเรื่องขึ้น คือเมืองตรรกะกับเมืองเอกเขนก"
"เมืองที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของกฎกติกา ระเบียบ กับเมืองเอกเขนกเป็นเรื่องของจิตใจ ธรรมชาติ และมันต่อสู้ในด้านความคิดของสองเมืองนี้ผ่านบทเพลงของเฉลียง...รับรองว่าดูกันแล้วจะมีแง่คิด"
"ฉะนั้นใครที่ดูแบบเอาสนุกก็ได้ ดูกลับบ้านปุ๊บ โอ้โห มันจะต่อจินตนาการต่อความฝันให้สมกับการที่เรามาเร่ขายฝันทางด้านนี้ เพราะฉะนั้นก็จะต่อยอดความประทับใจต่างๆ ไปเยอะแยะมากมาย ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ”
เผยว่าที่เลือกใช้เพลงของศิลปินกลุ่ม “เฉลียง” ก็เพราะมีเรื่องราวที่ให้ข้อคิด นอกจากจะเรื่องความรักแล้วยังมีเรื่องอื่นๆ สอดแทรกได้อีก รวมไปถึงเผยว่า งานนี้ทุ่มงบไม่อั้นเลยทีเดียว
“ที่เลือกเพลงของเฉลียงก็เพราะอย่างน้อยๆ เพลงของเฉลียงก็เป็นบทเพลงที่อยู่ในใจของหลายๆ คน"
"และบทเพลงเฉลียงจะไม่ใช่บทเพลงที่เป็นเพลงด้านของความรักหนุ่มสาวเป็นหลัก แต่ว่าจะเป็นข้อคิด ปรัชญา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องราวของสังคมหรือว่าความรักก็แล้วแต่ หรือมุมมองโลกหรือการเปรียบเทียบต่างๆ"
"เพราะฉะนั้นเมื่อมาร้อยเป็นบทเพลง ผ่านจากการที่เขียนพล็อตขึ้นมา แล้วได้พลังคนที่มีพลังมากมหาศาลที่สุดในยุคปัจจุบันก็ต้องใช้เอเอฟ เพราะฉะนั้นเขาก็มีพลัง เขาก็อยากจะถ่ายทอดพลังนั้นออกมาให้เต็มที่ และเราก็จะซ่อนในเรื่องราวของปรัชญาและการดำเนินชีวิต หรือว่าระบบ ระเบียบของสังคมเมืองลงไปด้วยว่าตอบจบจะเป็นอย่างไร”
เผยเป็นการท้าทายความสามารถของเหล่าเอเอฟด้วย
“เพราะเขาต้องแสดงด้วย ต้องร้องเพลงด้วย แล้วเขาต้องแอ็คติ้งให้เข้ากับโครงเรื่อง ระหว่างทางก็ต้องถ่ายทอดบทเพลง คือนักแสดงก็ตื่นเต้นในความอยากที่จะแสดง เพราะฉะนั้นเขาสนุกกับการที่จะไปแคสและก็ซ้อมกันอย่างเต็มที่ครับ”
“ทุนสร้างเหรอ โอ้โห มหาศาลนะบอกตรงๆ มหาศาลจริงๆ คือถ้าเกิดพูดถึงละครที่ทุ่มทุนขนาดนี้ต้องถือว่าเยอะมาก แต่ไม่อย่างนั้นงานใหญ่ก็ไม่เกิด เราต้องยอม ถ้าอยากจะมีงานใหญ่ๆ อย่างนี้ให้เกิดขึ้นอีกต้องอุดหนุนเราหน่อย(หัวเราะ) คือพูดง่ายๆ ว่างานนี้ไม่ใช่งานทำกำไรนะ เป็นงานที่ทุ่มเพื่อผลงานจริงๆ”
“เดอะ เลเจนท์ ออฟ เร่ขายฝัน เฉลียง เดอะ มิวสิคัล” จะทำการแสดงระหว่างวันที่ 2-18 ตุลาคมนี้ ณ โรงละครเอ็มเธียเตอร์ ถนนเพชรบุรี