ว่ากันว่าทุกอย่างมักจะส่งผลทั้งในด้านดีและลบเสมอ
ที่เห็นได้ชัดที่สุดในปัจจุบันก็คงจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางโลกไซเบอร์ ซึ่งในแง่ดีของมันก็คือความสะดวก รวดเร็ว ชนิดที่ว่า เราสามารถรับรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรในอีกฟากโลกหนึ่งไปพร้อมๆ กับคนที่อยู่ฟากโลกซีกนั้นๆ ได้อย่างสบายๆ
ด้วยความที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถกระจายได้ในวงกว้าง ขณะที่ผู้รับสารเองโดยส่วนใหญ่ต่างก็ถูกบ่มเพาะจากแง่มุมของความสะดวก ความเร็ว ความง่ายเป็นหลักจึงมักจะขาดแง่มุมของการตั้งข้อสงสัย การตรวจสอบสืบเสาะหารายละเอียดแวดล้อมอื่นๆ กระทั่งพร้อมที่จะเชื่อไปกับข้อมูลที่ถูกส่งผ่านมานี้เอง ที่ทำให้มีคนจำนวนหนึ่ง เฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงบันเทิงได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ให้กับตนเองอยู่ตลอดเวลา
ทั้งในรูปของการปั่นกระแสสร้างชื่อเสียง หาเงิน โดยไม่สนว่าวิธีดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดทั้งในด้านของตัวบทกฏหมาย หรือแม้กระทั่งในเรื่องของศีลธรรม
โดยที่ผู้กระทำเองก็อาจจะลืมคิด คิดไม่ถึง หรือคิดถึงแต่ไม่สนใจว่า ถ้ามองในมุมกลับ การย้อนกลับมาจากการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในด้านที่เป็นลบต่อตนเองนั้นมันก็ย่อมที่จะแรง และเร็วไม่แพ้ในด้านบวกเช่นกัน
ตัวอย่างที่เป็นกรณีศึกษาของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของน้อง "อุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์" ซึ่งตกเป็นข่าวโด่งดังว่าเธอนักเรียนหญิงไทยคนแรกที่ไปคว้าเอารางวัล Best Student Film ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2009 มาครอง ตอนนั้นสื่อทีวีๆ หลายต่อหลายช่องต่างก็ชื่นชมในความสามารถของเธอ ขณะที่บางคนนั้นถึงกับยกให้เธอเป็นสปีลเบิร์กเมืองไทยเลยทีเดียว
ก่อนที่ในภายหลังเรื่องจะโอละพ่อ กลายเป็นว่าเจ้าตัวนั้นไม่ได้รับรางวัลใดๆ ขณะที่น้องอุ้มเองก็ได้ออกมายอมรับในภายหลังว่าตนไม่ได้รับรางวัลจริงๆ แต่เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดมาจากความเข้าใจผิดของตัวเธอกับสื่อฯ ที่เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับภาษาที่ใช้
กรณีที่สองก็คือเรื่องราวของอดีตนักร้องหนุ่มค่ายอาร์เอสฯ "นาธาน โอมาน" ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาให้ข่าวว่าได้มีโอกาสไปแสดงหนังฟอร์มยักษ์ที่ฮอลลีวูด ภายใต้การกำกับของ กำกับชื่อดัง "วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) ประกบกับดาราชื่อดัง "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" ด้วยจำนวนเงินค่าตัวร่วม 100 ล้านบาท
หายไปพักหนึ่งหนุ่มนาธานก็ได้มาให้ข่าวอีกครั้งพร้อมด้วยหลักฐานภาพถ่ายส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดีในครั้งนี้นี่เองที่ได้มีการตั้งข้อสงสัยพร้อมด้วยข้อมูลที่มีแนวโน้มค่อนข้างจะสูงว่าสิ่งที่เจ้าตัวพูดมาทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นเรื่องโกหก!
ไม่กี่วันจากเทวา แต่กลายเป็นว่าเพียงชั่วระยะเวลาชั่วข้ามคืนเท่านั้นทั้ง น้องอุ้ม และหนุ่มนาธานเองดูเหมือนจะกลายเป็นซาตานไปเสียแล้ว
โดยทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้นนี้กลุ่มคนกลุ่มแรกสุดเลยที่ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยและต้องยกเครดิตให้ก็คือสมาชิกของโต๊ะเฉลิมไทย ในเว็บไซต์พันทิปนั่นเอง
เพราะไม่เพียงจะต้องข้อสงสัยเท่านั้น หากแต่สมาชิกบางส่วนของโต๊ะนี้ยังมีการสืบค้นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ชนิดที่ว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามหากจะมีใครลุกขึ้นมาถกเถียงกันด้วยตรรกะทางด้านเหตุผลข้อมูล-เหตุผลของความเป็นไปได้
และก็ไม่ใช่เพียง 2 กรณีนี้เท่านั้น เพราะหากลองมองย้อนกลับไปมีหลายกรณีทีเดียวที่สมาชิกของโต๊ะนี้ได้เป็นผู้จุดชนวน ตั้งคำถาม ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงบันเทิง กระทั่งต้องยอมรับว่าได้มีนักข่าวและสื่อหลายต่อหลายสื่อได้นำเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีการโพสต์ไว้เหล่านี้มากล่าวอ้างถึงเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการนำเสนอข่าวออกไป
แน่นอนว่าในกรณีของหนุ่มนาธาน โอมานนั้น เราคงจะต้องรอฟังจากปากของจ้าตัวว่าในส่วนที่เกี่ยวกับการโกอินเตอร์ไปเล่นหนังฮอลลลีวูดประกบดาราดังของโลกตามที่เขากล่าวอ้างนั้น สรุปแล้วเรื่องราวที่แท้จริงเป็นเช่นไรกันแน่?
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องรอ และสามารถบอกได้แล้ว ณ เวลานี้ก็คือ นับจากนี้ไปหากดารา-นักร้อง-นักแสดงคนไหนคิดจะมาปั่นเรื่อง สร้างกระแส กุข่าว โดยอาศัย "จุดอ่อน-ช่องว่าง" ของสื่อหลักแล้วละก็คงจะต้องคิดหนักหน่อย
เพราะทั้งกรณีของน้องอุ้มและหนุ่มนาธานนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ยังมีนักสืบอิสระอย่างสมาชิกหลายต่อหลายคนที่โต๊ะเฉลิมไทย ในเว็บไซต์พันทิป พร้อมที่จะตรวจสอบและซักฟอกคุณอยู่
ที่เห็นได้ชัดที่สุดในปัจจุบันก็คงจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านทางโลกไซเบอร์ ซึ่งในแง่ดีของมันก็คือความสะดวก รวดเร็ว ชนิดที่ว่า เราสามารถรับรู้ได้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรในอีกฟากโลกหนึ่งไปพร้อมๆ กับคนที่อยู่ฟากโลกซีกนั้นๆ ได้อย่างสบายๆ
ด้วยความที่ง่าย สะดวกรวดเร็ว และสามารถกระจายได้ในวงกว้าง ขณะที่ผู้รับสารเองโดยส่วนใหญ่ต่างก็ถูกบ่มเพาะจากแง่มุมของความสะดวก ความเร็ว ความง่ายเป็นหลักจึงมักจะขาดแง่มุมของการตั้งข้อสงสัย การตรวจสอบสืบเสาะหารายละเอียดแวดล้อมอื่นๆ กระทั่งพร้อมที่จะเชื่อไปกับข้อมูลที่ถูกส่งผ่านมานี้เอง ที่ทำให้มีคนจำนวนหนึ่ง เฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงบันเทิงได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์ให้กับตนเองอยู่ตลอดเวลา
ทั้งในรูปของการปั่นกระแสสร้างชื่อเสียง หาเงิน โดยไม่สนว่าวิธีดังกล่าวอาจจะเป็นเรื่องที่ผิดทั้งในด้านของตัวบทกฏหมาย หรือแม้กระทั่งในเรื่องของศีลธรรม
โดยที่ผู้กระทำเองก็อาจจะลืมคิด คิดไม่ถึง หรือคิดถึงแต่ไม่สนใจว่า ถ้ามองในมุมกลับ การย้อนกลับมาจากการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในด้านที่เป็นลบต่อตนเองนั้นมันก็ย่อมที่จะแรง และเร็วไม่แพ้ในด้านบวกเช่นกัน
ตัวอย่างที่เป็นกรณีศึกษาของเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของน้อง "อุ้ม พรภัชญา สุพรรณรัตน์" ซึ่งตกเป็นข่าวโด่งดังว่าเธอนักเรียนหญิงไทยคนแรกที่ไปคว้าเอารางวัล Best Student Film ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ 2009 มาครอง ตอนนั้นสื่อทีวีๆ หลายต่อหลายช่องต่างก็ชื่นชมในความสามารถของเธอ ขณะที่บางคนนั้นถึงกับยกให้เธอเป็นสปีลเบิร์กเมืองไทยเลยทีเดียว
ก่อนที่ในภายหลังเรื่องจะโอละพ่อ กลายเป็นว่าเจ้าตัวนั้นไม่ได้รับรางวัลใดๆ ขณะที่น้องอุ้มเองก็ได้ออกมายอมรับในภายหลังว่าตนไม่ได้รับรางวัลจริงๆ แต่เรื่องทั้งหมดนั้นเกิดมาจากความเข้าใจผิดของตัวเธอกับสื่อฯ ที่เผยแพร่ข่าวเกี่ยวกับภาษาที่ใช้
กรณีที่สองก็คือเรื่องราวของอดีตนักร้องหนุ่มค่ายอาร์เอสฯ "นาธาน โอมาน" ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวได้ออกมาให้ข่าวว่าได้มีโอกาสไปแสดงหนังฟอร์มยักษ์ที่ฮอลลีวูด ภายใต้การกำกับของ กำกับชื่อดัง "วูล์ฟ กัง" (Wolfgang Petersen) ประกบกับดาราชื่อดัง "บรูซ วิลลิส" และ "คริสติน่า ริชชี่" ด้วยจำนวนเงินค่าตัวร่วม 100 ล้านบาท
หายไปพักหนึ่งหนุ่มนาธานก็ได้มาให้ข่าวอีกครั้งพร้อมด้วยหลักฐานภาพถ่ายส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดีในครั้งนี้นี่เองที่ได้มีการตั้งข้อสงสัยพร้อมด้วยข้อมูลที่มีแนวโน้มค่อนข้างจะสูงว่าสิ่งที่เจ้าตัวพูดมาทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นเรื่องโกหก!
ไม่กี่วันจากเทวา แต่กลายเป็นว่าเพียงชั่วระยะเวลาชั่วข้ามคืนเท่านั้นทั้ง น้องอุ้ม และหนุ่มนาธานเองดูเหมือนจะกลายเป็นซาตานไปเสียแล้ว
โดยทั้งสองกรณีที่เกิดขึ้นนี้กลุ่มคนกลุ่มแรกสุดเลยที่ได้ออกมาตั้งข้อสงสัยและต้องยกเครดิตให้ก็คือสมาชิกของโต๊ะเฉลิมไทย ในเว็บไซต์พันทิปนั่นเอง
เพราะไม่เพียงจะต้องข้อสงสัยเท่านั้น หากแต่สมาชิกบางส่วนของโต๊ะนี้ยังมีการสืบค้นข้อมูลรายละเอียดต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ชนิดที่ว่าสามารถตอบได้ทุกคำถามหากจะมีใครลุกขึ้นมาถกเถียงกันด้วยตรรกะทางด้านเหตุผลข้อมูล-เหตุผลของความเป็นไปได้
และก็ไม่ใช่เพียง 2 กรณีนี้เท่านั้น เพราะหากลองมองย้อนกลับไปมีหลายกรณีทีเดียวที่สมาชิกของโต๊ะนี้ได้เป็นผู้จุดชนวน ตั้งคำถาม ในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงบันเทิง กระทั่งต้องยอมรับว่าได้มีนักข่าวและสื่อหลายต่อหลายสื่อได้นำเอาข้อมูลต่างๆ ที่มีการโพสต์ไว้เหล่านี้มากล่าวอ้างถึงเพื่อเป็นข้อมูลและแนวทางในการนำเสนอข่าวออกไป
แน่นอนว่าในกรณีของหนุ่มนาธาน โอมานนั้น เราคงจะต้องรอฟังจากปากของจ้าตัวว่าในส่วนที่เกี่ยวกับการโกอินเตอร์ไปเล่นหนังฮอลลลีวูดประกบดาราดังของโลกตามที่เขากล่าวอ้างนั้น สรุปแล้วเรื่องราวที่แท้จริงเป็นเช่นไรกันแน่?
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ต้องรอ และสามารถบอกได้แล้ว ณ เวลานี้ก็คือ นับจากนี้ไปหากดารา-นักร้อง-นักแสดงคนไหนคิดจะมาปั่นเรื่อง สร้างกระแส กุข่าว โดยอาศัย "จุดอ่อน-ช่องว่าง" ของสื่อหลักแล้วละก็คงจะต้องคิดหนักหน่อย
เพราะทั้งกรณีของน้องอุ้มและหนุ่มนาธานนั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ยังมีนักสืบอิสระอย่างสมาชิกหลายต่อหลายคนที่โต๊ะเฉลิมไทย ในเว็บไซต์พันทิป พร้อมที่จะตรวจสอบและซักฟอกคุณอยู่