"โอเมอร์ บาห์ตตี"รับ"ไมเคิล"ไม่ใช่พ่อแต่เป็นเพื่อนสนิท

หลังจากตกเป็นเป้าสนใจอยู่ช่วงหนึ่งของสื่ออังกฤษที่ระบุว่า"โอเมอร์ บาห์ตตี" หนุ่มหล่อวัย 25 ปีน่าจะเป็นลูกแท้ของ"ไมเคิล แจ็กสัน"ราชาเพลงป็อปผู้ล่วงลับ หลังปรากฏตัวอย่างลึกลับในงานพิธีไว้อาลัยนักร้องดัง ล่าสุดเจ้าตัวได้เผยกับเพื่อนสนิทว่าแท้จริงแล้วเขาและไมเคิลไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอย่างที่เป็นข่าวแต่ไมเคิลคือเพื่อนสนิทที่สุดของเขาเท่านั้น

เป็นที่ทราบกันดีว่าก่อนหน้านี้ โอเมอร์ บาห์ตตี หนุ่มหล่อวัย 25 ปี ได้รับเกียรติอย่างมากจากทางครอบครัวของไมเคิลให้เข้าร่วมพิธีไว้อาลัยนักร้องดังผู้ล่วงลับ จนตกเป็นข่าวว่าเป็นลูกแท้ๆของไมเคิลจากสัมพันธ์รักข้ามคืนในปี 1983 ก่อนที่จะได้มาอาศัยอยู่ในเนเวอร์แลนด์กับไมเคิลนานถึง 8 ปีนั้นเจ้าตัวระบุว่าแท้จริงแล้วไมเคิลคือเพื่อนที่ดีที่สุดที่เขาเคยมีมา และไมเคิลแค่ชอบพูดกับเพื่อนฝูงอยู่บ่อยๆเท่านั้นว่าเขาเป็นเหมือนลูกชายแท้ๆ จนเป็นเหตุให้เกิดข่าวลือตามมามากมาย

"ไมเคิล เคยพูดอยู่เสมอๆว่าผมเป็นเหมือนลูกชายของเขา" ข้อความที่โอเมอร์ กล่าวกับเพื่อนสนิท "แต่พ่อแม่ที่แท้จริงของผมอยู่ในนอร์เวย์นี่แหละ เหตุผลที่ผมได้รับคำเชิญให้ไปนั่งอยู่ในพิธีร่วมกับครอบครัวของเขาในงานไว้อาลัยเป็นเพราะผมคือเพื่อนสนิทของเขา ไม่ใช่เพราะว่าผมเป็นลูกของเขา"

นอกจากนั้นเขายังได้บอกกับแฟนสาวของเขาด้วยว่า "ไมเคิลเป็นคนที่พิเศษที่สุดสำหรับชีวิตผม และผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจากไปแล้ว ผมช็อคมากจริงๆ ผมน้ำหนักหายไปเลยเพราะว่าผมกินอะไรไม่ลง ผมคิดแต่เรื่องของไมเคิลว่าเขาตายได้อย่างไร"

โอเมอร์ ย้ายเข้าไปอยู่ในเนเวอร์แลนด์เมื่อปี 1996 หลังจากที่ได้เจอกับไมเคิล ที่ตูนีเชียขณะที่เขาอายุ 12 ปี โดยไมเคิลให้เพีย ซึ่งเป็นแม่ของเขาทำงานในฐานะพี่เลี้ยงช่วยดูแล พรินซ์ ไมเคิล ขณะที่พ่อของเขารับหน้าที่เป็นคนขับรถ ขณะเดียวกัน ริคกี ฮาร์โลว์ เพื่อนของโอเมอร์ ก็ยืนยันว่าช่วงเวลานั้นสายสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นถึงขนาดที่โอเมอร์เองได้นอนเตียงเดียวกับไมเคิล ขณะที่สมาชิกในครอบครัวคนอื่นๆต้องไปอยู่ในบ้านหลังเล็กๆที่อยู่ในเนเวอร์แลนด์ ซึ่งการนอนเตียงเดียวกันของโอเมอร์กับไมเคิลเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ไมเคิล ตกเป็นข่าวล่วงละเมิดทางเพศ จอร์แดน แชนด์เลอร์ วัย 13 ปี

ริคกี ที่ตอนนี้มีอายุ 25 ปีแล้วได้เผยเพิ่มเติมด้วยว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา "ผมไม่เคยได้ยินเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลย โอเมอร์เคยนอนเตียงเดียวกับไมเคิล พวกเขาออกไปเที่ยว,ดูหนังแล้วก็เล่นของเล่นกัน พ่อแม่ของเขารวมถึงพี่สาวก็อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังที่อยู่ในเนเวอร์แลนด์เหมือนกัน โอเมอร์นอนเตียงเดียวกับไมเคิลไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยมันเป็นเรื่องที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสา"

ริคกี เพื่อนของโอเมอร์ยังเผยต่อไปด้วยว่า การนอนร่วมเตียงของโอเมอร์กับไมเคิลนั้นเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดการฟ้องร้องกรณีของอาร์ไวโซ "พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ไมเคิลดูแลปกป้องโอเมอร์อย่างมากและอยากเป็นพี่เลี้ยงเป็นที่ปรึกษาให้กับเขา"

หลังจากนั้นไม่นานไมเคิล ก็พาตนเองเข้าไปสู่ปัญหาอีกครั้งเมื่อเขายอมให้มาร์ติน แบชเชอร์ นักข่าวชาวอังกฤษเข้าสัมภาษณ์ชีวิตส่วนตัวของเขาในปี 2003 จนนำไปสู่คดีล่วงละเมิดทางเพศ เกวิน อาร์ไวโซ เพื่อนรุ่นเด็กวัย 13 ปีของเขา ซึ่งครั้งนี้นี่เองที่เป็นตัวทำลายชื่อเสียงและอาชีพนักร้องของเขาจนพาไปสู่ช่วงที่วิกฤติสุดๆของชีวิตนักร้องดังแม้ว่าเขาจะพ้นข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้วก็ตาม ซึ่งหลังจากนั้นในปี 2004 ครอบครัวของโอเมอร์ก็ต้องย้ายกลับนอร์เวย์หลังจากที่ไมเคิลประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก

หลังการเสียชีวิตของไมเคิล มีรายงานว่าโอเมอร์ยังคงเก็บตัวเงียบและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปของเพื่อนสนิทที่สุดของเขา โดยเพื่อนของเขายังเผยถึงสภาพของโอเมอร์หลังยังทำใจไม่ได้ด้วยว่า "เขาดูผอมและซีดเซียวมาก ฉันแทบไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสภาพหดหู่เศร้าใจขนาดนี้มาก่อน โอเมอร์มักชอบที่จะใช้ชีวิตปาร์ตี้สนุกสนานกับเพื่อนฝูง แต่ตอนนี้เขาได้แต่บอกว่าเขาไม่เคยเศร้าขนาดนี้มาก่อนเลย"

"เขาบอกฉันว่าแม้ว่าเขาไม่ได้เจอไมเคิลมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เขาก็ตั้งหน้าตั้งตาคอยที่จะไปดูคอนเสิร์ตของไมเคิลในอังกฤษเพราะว่าเขาจะไปที่นั่นเพื่อได้ไปเจอกับไมเคิล เขาบอกฉันว่าเขาวางแผนไว้แล้วว่าจะดูคอนเสิร์ตของไมเคิลทั้ง 50 รอบ"

ขณะนี้โอเมอร์มีแฟนสาวที่คบหาดูใจมาได้สองปีแล้ว โดยเพื่อนของเขาระบุว่าแฟนสาวคนนี้ช่วยเป็นกำลังใจและช่วยให้โอเมอร์ผ่านเรื่องเศร้านี้ไปได้ "โอเมอร์ บอกฉันว่าแฟนเขาช่วยให้กำลังใจเขาอย่างมากนับตั้งแต่วันที่ไมเคิลเสียชีวิต เธออยู่ที่นั่นเคียงข้างเขาและพยายามช่วยให้เขาผ่านเรื่องนี้ไปได้"

ทางด้านเพีย แม่ของโอเมอร์ก็ยืนยันเช่นกันว่าลูกชายของเธอเศร้ากับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก "เขาเศร้าสุดๆเลยกับการเสียชีวิตของไมเคิล"

โอเมอร์ คือเด็กหนุ่มที่ปรากฏตัวอย่างลึกลับในพิธีไว้อาลัยของไมเคิล จนกระทั่งถูกสงสัยว่าเขาอาจเป็นลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของไมเคิลจริงๆ จากสัมพันธ์รักข้ามคืนที่เกิดขึ้นในปี 1983 และข่าวลือก็ยังคงถูกกระพือโหมขึ้นไปอีกเมื่อเจอร์เมน พี่ชายของไมเคิล ออกมาระบุว่าเขายินดีต้อนรับโอเมอร์ และจะปฏิบัติกับโอเมอร์ให้เหมือนกับหลานแท้ๆถ้าหากเขาเป็นลูกชายของไมเคิลจริง ซึ่งระหว่างนั้นก็มีข่าวลือด้วยว่าโอเมอร์เข้าพิสูจน์ดีเอ็นเอแล้วว่าเขาเป็นลูกแท้ๆของนักร้องดังจริงหรือไม่

จนกระทั่งรายงานล่าสุดนี่เองที่ระบุว่าโอเมอร์ปฏิเสธเรื่องราวทั้งหมดผ่านทางเพื่อนของเขาเป็นที่เรียบร้อย

"เจอร์เมน" สัญญาอ้าแขนรับ "โอเมอร์"ระบุมีสิทธิ์เป็นลูก"ไมเคิล"จริง

"โอเมอร์"โผล่งานพิธีไว้อาลัยเชื่อเป็นลูกแท้ๆของ"ไมเคิล"