“ไผ่ วันพ้อยท์” แข็งกร้าว ไม่ไกล่เกลี่ย “บ๊วย-เอ๋” ลั่น จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านคู่กรณีส่ง “นีโน่” มาเจรจาแต่ไม่เป็นผล เพราะขาดเงื่อนไขที่ยอมรับได้ ขณะที่ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องฝ่ายโจทก์ 31 ส.ค.นี้
หลังจากที่ "ไผ่ ลิกค์" หรือ "ไผ่ วันพอยท์" อดีตผู้สมัครสส.พรรคพลังประชาชน จ.กำแพงเพชร ลูกชาย "เรืองวิทย์ ลิกค์" อดีต รมช.มหาดไทย ยื่นฟ้องหมิ่นประมาท 2 พิธีกรรายการ “คันปาก” อย่าง “บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ”, “เอ๋ พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์” และ ช่อง7 กรณีพูดออกอากาศในทำนองที่ว่าดาราสาว "หยาดทิพย์ ราชปาล" ได้หนีมาอยู่ที่บ้านตนเพื่อเสพยาเสพติด จนสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงและวงศ์ตระกูลของตน พร้อมกับรุกฟ้องแพ่ง เรียกค่าเสียหายกับคู่กรณี 50 ล้านบาท ไปแล้วก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันนี้ (27 ก.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้นัดไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย แต่ปรากฎว่าทั้งโจทก์และจำเลย รวมทั้งทนายความของทั้งสองฝ่าย ไม่ได้เดินทางมาร่วมไกล่เกลี่ย ศาลจึงให้นำคดีเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามปกติ โดยนัดไต่สวนมูลฟ้องโจทก์วันที่ 31 ส.ค. ที่จะถึงนี้
อย่างไรก็ตามกับเรื่องนี้ “ASTVผู้จัดการออนไลน์” ได้สอบถามไปยังทนาย "สาคร ศิริชัย" ทนายของไผ่ วันพ้อยท์ ซึ่งก็ได้รับการเปิดเผยว่า ลูกความไม่ต้องการไกล่เกลี่ย ซึ่งหลังจากที่มีการฟ้องร้องไป ทางฝ่ายของคู่กรณีได้ส่ง “นีโน่ เมทนี บูรณศิริ” พิธีกรชื่อดัง ซึ่งตอนนี้ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาสมทบ ประจำศาล จ.ปทุมธานี แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว เข้ามาเจรจา แต่ไม่เป็นผลเนื่องจากไร้เงื่อนไขที่จะยอมรับได้
“คือวันนี้ที่มาก็เพราะมีหมาย หนังสือเชิญจากคณะไกล่เกลี่ย ไปถึงยังคุณไผ่ก่อนหน้านี้ประมาณ 3 อาทิตย์แล้ว ทางคุณไผ่ รู้สึกว่าทางเขาได้รับความเสียหายมาก ทั้งที่เราได้แจ้งไปกับทางสื่อแล้ว เสียหายต่อชื่อเสียงและการเมือง ทั้งทางด้านครอบครัวและด้านธุรกิจส่วนตัวของเขา คือเขาไปติดต่อธุรกิจต่างๆ ในเครือของเขาเอง เขาได้รับความขัดข้องว่ามีข่าวว่าเขาไปเกี่ยวข้องกับติดยาเสพติด เราก็ฟ้องโดยรวมก็ 50 ล้านให้จำเลยทั้ง 3 ร่วมกันรับผิดชอบประกอบกับหลังจากที่ฟ้องคดีอาญา ก็ไม่มีทางช่อง 7 ทำการติดต่อเขาโดยตรง ที่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ในการกระทำ ได้แต่เงียบ”
“ในความเห็นส่วนตัวของผม บอกตรงนี้ก่อนทางช่อง 7 เอง หรือทางผู้ใหญ่ของทางช่อง 7 ก็ยังไม่ได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบใดๆ เพราะว่าข่าวที่ออกไปก็ยังไม่มีการแสดงความรับผิดชอบของเขา ตั้งแต่ถูกฟ้องร้องมา เขามีแต่เงียบ แล้วก็เงียบไม่มีปรากฏทางสื่อว่ามีข้อความที่ปรากฏต่อหน้าสาธารณะชน ที่จะแสดงความรับผิดชอบใดๆ อันนี้เป็นสิ่งที่เราแคร์มาก”
“เพราะที่จริงคุณไผ่เอง เขาต้องการสร้างบรรทัดฐานให้กับสื่อมวลชน ที่พูดออกรายการโทรทัศน์ เป็นการเสียหายต่อบุคคลอื่นออกสื่อควรรับผิดชอบอย่างไร ในขณะที่บริษัทเองมีผลกำไรจากรายการเหล่านี้ โดยผลกำไรที่ได้มาเหล่านี้ได้ผลกำไรจากการประกอบกิจการ แต่ผลกำไรของเขามันไปสร้างความเสียหายให้กับบุคคลอื่น ในฐานะที่เป็นสื่อใหญ่ สื่อหลัก จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร”
“ในสมัยนี้จะมีข่าวลักษณะนี้เยอะ แต่ที่ไม่มีการดำเนินคดีในสื่อหลักๆ เพราะว่าคนที่เป็นข่าวกับสื่อนั้นส่วนใหญ่จะเป็นดารา เพราะว่าสื่อหลักๆ เหล่านี้ เป็นพวกช่องหลักฟรีทีวี มันมีเครือข่ายเชื่อมโยงในในระดับผู้บริหาร เมื่อเขามีปัญหาเขาก็ไม่กล้าฟ้อง แต่เนื่องจากเราได้รับความเสียหาย เราจึงไม่ต้องไปแคร์ว่าเป็นสื่อใหญ่หรือสื่อเล็ก เมื่อได้รับความเสียหายเราต้องการสร้างให้เป็นบรรทัดฐาน เพราะเขาไม่ได้รับความเดือดร้อน”
“คุณไผ่เองก็อยากจะสร้างให้เป็นบรรทัดฐาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเองการตัดสินใจอยู่ที่ตัวคุณไผ่เอง เขาก็อาจจะมีในสิ่งที่เขาพอใจแต่ผมก็ยังไม่ทราบครับตอนนี้ อันนี้หลักๆ ก็คือต้องการดำเนินคดีความให้ถึงที่สุด เพื่อต้องการให้เป็นบรรทัดฐาน ให้กับสื่อมวลชน”
“คุณไผ่ก็เลยแจ้งผมว่าให้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ว่า ด้วยว่ายังไม่มีความประสงค์จะไกล่เกลี่ย ทั้งในส่วนคดีแพ่งและคดีอาญา ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ไป มันก็เป็นสิทธิของเราที่จะไปหรือไม่ไปศาล เราก็มีหนังสือแจ้งไปเป็นเอกสารว่าเรื่องนี้เราไม่มีความประสงค์จะไกล่เกลี่ย โดยการส่งหนังสือไปให้ทางศาลและก็ขบวนการขั้นตอนต่อไปเราก็จะนำเอาพยานไปไต่สวนมูลฟ้องกันในวันที่ 31 สิงหาคมเดือนหน้า ตามกระบวนการ”
“ส่วนข้อหาในคดีอาญาที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้ คือ หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาในการพูด คือคุณเอ๋กับคุณบ๋วย เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา คดีที่สองฟ้องไปเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม คือฟ้องช่อง7 เป็นจำเลยที่ 1 บริษัทกรุงเทพวิทยุโทรทัศน์ฯ แล้วก็คุณบ๋วยจำเลยที่ 2 คุณเอ๋จำเลยที่ 3 อันนี้ในความผิดในทางแพ่ง ในข้อหาขายข่าวที่ฝ่าฝืนต่อความจริง ซึ่งข้อมูลเกินกว่าความเป็นจริงเป็นเหตุ ทำให้ทางคุณไผ่ได้รับความเสียหาย”
“ซึ่งคุณเอ๋และคุณบ๋วย ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นตัวกลางที่ทำและเป็นตัวแทน คือเป็นลูกจ้างของทางช่อง 7 และก็การกระทำของคุณเอ๋และคุณบ๋วยช่อง 7 ต้องรับผิดชอบ ในฐานะเป็นผู้ใช้ ผู้จ้างวานและเป็นตัวการในเรื่องนี้ เพราะว่าเขาเป็นเจ้าของรายการคันปากต้องร่วมรับผิดชอบกับโจทก์”
ทนายเผย “ไผ่ วันพ้อยท์” แจ้งว่าคู่กรณีส่ง “นีโน่ เมทนี” มาเจรจา แต่ไม่เป็นผล ย้ำขอดำเนินคดีความให้ถึงที่สุด เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน
“ในส่วนตัวผมไม่มีนะครับ ส่วนของคุณไผ่เอง ทราบว่า รู้สึกที่เขาแจ้งให้ผมทราบว่าทางคุณนีโน่ เคยมาติดต่อกับเขาครั้งหนึ่ง แต่มันไม่มีเงื่อนไข แต่ไม่มีอะไรไงครับ เท่าที่คุณไผ่ได้แจ้งให้ผมทราบว่าเคยมีมาติดต่อทราบว่าให้คุณนีโน่เป็นผู้ไกล่เกลี่ย แต่ทางรายละเอียดของศาลผมไม่ทราบ แต่คุณไผ่เคยแจ้งว่าคุณนีโน่เคยโทร.หาเขา สักเดือนหนึ่งที่ผ่านมา หลังจากถูกฟ้องได้ประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์”
“ตอนนี้การตัดสินใจ ความพอใจทั้งหมดอยู่ที่เขา แต่เมื่อความแจ้งความประสงค์มาทางทนายความ ว่าขณะนี้ไม่มีประสงค์จะไกล่เกลี่ย บางคนบอกว่าถ้าคุณไม่พูดถึงเรื่องมันก็เงียบไปแล้ว มันไม่ใช่ คนที่เขาฟังเขาเชื่ออย่างนั้นมันก็มีอยู่ อันนี้คือจุดยืนของเรา ”
