xs
xsm
sm
md
lg

ฟังเพลงไม่เหยียดเพศของ ‘Venus Butterfly’

เผยแพร่:   โดย: MGR Online




ผับชื่อดังในย่านรอยัล ซิตี้ อเวนิว ถูกตรึงให้พ้นกาลเวลาด้วยเสียงเบสที่ผสานเสียงกระเดื่องกลองก้องกระหึ่ม เสียงแตกพร่าจากการกรีดสายกีตาร์ ทำนองเมโลดี้พริ้วลอยของคีย์บอร์ด และสำเนียงร้องอันทรงพลัง ระหว่างการแสดงผู้คนมากมายทั้งร้องทั้งเต้น โยกหัว ชูมือไปตามจังหวะเพลง หลังจากที่เพลงแล้วเพลงเล่าจบลงท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดอื้ออึง เสียงร้องบอกให้เอาอีกก็ดังขึ้นจนสาวๆ นักดนตรีทั้งห้าต้องบรรเลงต่อไป

หมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปเมื่อแปดปีก่อน ถ้ามีใครสักคนบอกว่าวงดนตรีหญิงล้วนวงนี้จะก้าวขึ้นไปจับเครื่องดนตรี แสดงสดด้วยเพลงที่แต่งด้วยตัวเอง จนทำให้คนฟังมากมายทั้งชายหญิงร้องตาม เต้นตาม อีกทั้งยังส่งเสียงร้องบอกให้พวกเธอเล่นซ้ำอีกครั้งเช่นนี้ ใครคนนั้นคงจะถูกตราหน้าว่าเป็นพวกที่เอาแต่ 'ฝันกลางวัน' อย่างแน่นอน

เพราะวงดนตรีของทั้งสาวทั้งห้าคนนี้เคยถูกคำพูดหมิ่นแคลนรุนแรง ตอกใส่หน้ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่วันแรกที่พวกเธอประกาศก้องว่า 'ต้องการจะทำวงร็อกหญิงล้วนที่เล่นดนตรีเอง และแต่งเพลงเอง'

"เราเจออุปสรรคเยอะมากค่ะ คุณมีเวลากี่ชั่วโมงล่ะค่ะ" ใครคนหนึ่งพูดทีเล่นทีจริงขึ้นมา ขณะที่กำลังง่วนเก็บเครื่องดนตรี

Venus Butterfly คือชื่อวงดนตรีหญิงล้วนที่เล่นเพลงร็อก มีจุดกำเนิดเมื่อแปดปีก่อน เมื่อ 'โหน่ง – พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร' ได้รับเชิญให้ขึ้นไปร้องเพลงในงานการกุศลที่มหาวิทยาลัยซึ่งเธอศึกษาอยู่จัดขึ้น ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากขึ้นไปครวญเพลงคลอดนตรีตามลำพัง เธอจึงเอ่ยปากชวน 'เคที่ – คทรีนา กลอส' เพื่อนสนิทให้ขึ้นไปแจมด้วยกัน และความรู้สึกสนุกก็ลากไกลไปถึงระดับที่ต้องการจะฟอร์มวงดนตรีหญิงล้วนขึ้นไปแสดงบนเวทีเลยทีเดียว

"เราคิดว่าเราทำเป็นวงผู้หญิงล้วนดีกว่า ซึ่งช่วงนั้นพี่สาวของโหน่ง (เหน่ง-นิจกานต์ กมลเพชร)กลับมาจากอเมริกาพอดี พี่เหน่งเขาก็ไปกับโหน่งทุกที่ โหน่งก็เลยบอกเขาว่า เฮ้ย เหน่ง ไหนๆ ยูก็ไปกับไอทุกที่แล้ว ยูก็หัดเล่นดนตรีสักชิ้นแล้วมาร่วมวงด้วยกันดีกว่า พี่เหน่งเขาก็เลยจับคีย์บอร์ดค่ะ"โหน่งพูดถึงจุดกำเนิดของวงด้วยรอยยิ้ม

"แล้วต่อมาเราก็หามือกลอง ตอนนั้นโหน่งเป็นนักร้องอยู่ที่เบเกอร์รี่ มิวสิค โหน่งก็ได้มาเจอน้องตาล(จิตประภา ไมตรีจิตต์) ตาลเป็นเด็กฝึกงานอยู่ที่เบเกอร์รี่ มิวสิค โหน่งก็เลยชวนเขามาอยู่ในวง ซึ่งตอนนั้นตาลเล่นกีตาร์ แต่โหน่งหามือกลอง ตาลเขาก็หลอกโหน่งว่า พี่ค่ะ หนูตีได้ค่ะ แล้วเขาก็ไปหัดกลองมา(หัวเราะ)"

ไม่ใช่แค่เหน่งที่ต้องหัดเล่นคีย์บอร์ด ตาลที่ต้องฝึกตีกลอง แม้แต่มือกีตาร์ของวงอย่าง 'อ๋อม – สริตา เสรีพุกกะณะ' ก็ต้องเริ่มจับเครื่องสายในมือด้วยลีลาที่ต่างไปจากเดิม เพราะถึงแม้อ๋อมจะศึกษาทางด้านดนตรีมาโดยตรง แต่การจับกีตาร์ของเธอในวัยเรียนก็เป็นเพียงการตีคอร์ดเล่นเพลงป็อบทั่วไป กับการเกาเกี่ยวบรรเลงเพลงคลาสสิกในชั่วโมงเรียนเท่านั้น

"อ๋อมเคยมีวงกับเพื่อนอยู่ที่มหาวิทยาลัย แต่ก็เล่นแค่ตีคอร์ดได้เฉยๆ โซโล่ไม่เป็น พอเข้าวงก็ต้องฝึกโซโล่ใหม่เลย" อ๋อมเล่าถึงวันแรกของการเดินเข้าร่วมกับวง Venus Butterfly

เมื่อสมาชิกในวงทุกคนมีสภาพไม่ต่างจากเด็กเพิ่งหัดเดิน การประกาศกร้าวว่าต้องการจะออกวิ่งไปให้รอบโลกจึงเป็นสิ่งซึ่งทำให้คนที่ได้ยินต้องหัวเราะออกมาเป็นท่วงทำนองเย้ยหยัน

ยังไม่นับรวมถึงการตั้งวงดนตรีหญิงล้วนในประเทศที่ความเท่าเทียมทางด้านสิทธิระหว่างสตรีกับบุรุษมีอยู่เพียงในแผ่นกระดาษ เพราะในสภาพความเป็นจริง ความเหลื่อมล้ำห่างไกลยังมีอยู่มากจนรู้สึกได้ ผู้คนในสังคมถูกปลูกฝังให้รู้สึกว่า ผู้หญิงไม่สามารถลุกขึ้นมาจับกีตาร์ลีด เหยียบกระเดื่องกลองในไลน์เดียวกันกับบุรุษเพศ หรือแม้แต่ประพันธ์ทำนองจากมันสมองของพวกเธอได้

"เราเจออุปสรรคเยอะแยะเลยค่ะ มีน้ำตากันเยอะเลย" โหน่งเล่า "ผู้หญิงที่จะมาทำเพลงเอง เล่นเพลงเอง อัดเพลงเองในเมืองไทยนั้นยากมาก ไม่ใช่เพราะไม่มีนะ แต่ไม่มีใครให้โอกาส วีนัส บัตเตอร์ฟลายถูกค่ายหลายค่ายเพลงเรียกเข้าไปคุย แต่พวกเขาล้วนแต่พูดว่า น้อง...ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่แต่งเพลงให้ แล้วพี่จะอัดให้ น้องแค่แกะแล้วก็ขึ้นเวที พวกเราก็บอกว่า ไม่ได้ค่ะพี่ เราต้องแต่งเอง อัดเองค่ะ ก็ โน มาตลอด

"แต่เราอยากพิสูจน์ว่า ถ้าเราตั้งใจ เราซ้อมกันเยอะๆ ผู้หญิงก็ทำได้อยู่แล้วค่ะ อันนี้เป็นสิ่งที่เราอยากพิสูจน์ให้วงการดนตรีในเมืองไทยยอมรับว่า เปิดโอกาสให้ผู้หญิงบ้าง อย่างตาลหรือหลายๆ คนในวงนี้จะโดนบอกว่า เอ่อ ไลน์นั้นอาจจะยากไป น้องลองไลน์นี้ก่อนแล้วกัน อย่าทำอย่างนั้น เห็นตาลตัวเล็ก เฮ้ย น้องอย่าตีไลน์นั้นเลน ไลน์นั้นต้องใช้กำลังเยอะ"

"เป็นผู้หญิงไม่เหมาะหรอก ไลน์นี้สำหรับผู้ชาย มันแรง ไม่ต้องเล่นหรอก น้องเล่นธรรมดาก็พอ"ตาลเสริม

"แต่พวกเราดื้อค่ะ ดื้อมาก ไม่เป็นไร เราจะเล่น" โหน่งพูดพร้อมรอยยิ้มมั่นอกมั่นใจ
 
เคที่เล่าประสบการณ์ที่นิ่งนอนอยู่ในความรู้สึกของเธอออกมาบ้างว่า "ที่มากกว่านั้นก็มีค่ะ อารมณ์ที่ดูถูกเลย เห็นเราเดินถือเครื่องดนตรีเข้ามา เขาจะมองเราเหมือนใช้ของพวกนี้ไม่เป็นน่ะ ทำเป็นมาถาม จะให้ช่วยเซทให้ไหม อารมณ์แบบนี้ เราก็จะบอก อ๋อไม่ ฉันเซทเองได้ แล้วเขาก็จะไม่ช่วยเหลือด้านอื่นเลย ปล่อยให้เราเซทกันเอง ทำเหมือนว่าเรามาถ่วงเวลาเขา ทำให้เขาเสียเวลา จนกว่าเราจะเล่นให้เขาเห็นน่ะ เขาถึงจะ โอเค วงนี้เล่นได้จริง โอ้ย นี่เราต้องรอเป็นชั่วโมงเลยเหรอคะเนี่ย แค่ให้คุณหันมามองสักนิด ทั้งๆ ที่ฉันเป็นผู้หญิงนะ

"แต่ถ้าใครอยากลองเล่น และอยากเจอบ้างนะคะ เคที่ว่ารับๆ มันไปเถอะ ของพวกนี้มันเป็นประสบการณ์ชีวิตน่ะค่ะ รับๆ มาแล้วก็เอามาแก้ไขตัวเองไปเรื่อยๆ จนกว่าวันนึงเราจะยืนด้วยแข้งของตัวเองได้ เขาก็จะรู้เองว่าของพวกนี้ ผู้หญิงก็ทำได้"

ไม่ใช่แค่เคที่ที่คิดว่าเสียงต่อต้านหยามหมิ่นของคนอื่นเหมือนแรงบวกที่กดลงมาบนสปริง เพราะสมาชิกในวงคนอื่นๆ ก็รู้สึกไม่ต่างกันว่า ด้วยแรงกดที่ถาโถมลงมาเหล่านี้จะช่วยส่งให้พวกเธอกระโจนทะยานขึ้นไปให้สูงกว่าจุดที่ยืนอยู่

"มันเหมือนเป็นแรงผลักมากกว่า ไม่ได้ท้อค่ะ เราจะคิดว่า อ๋อคิดว่าฉันทำไมได้เหรอ เดี๋ยวก็ลองดู ยิ่งต้องพิสูจน์ตัวเองเลย"โหน่งกล่าว

เคที่บอกว่าพวกเธอโชคดีที่คนคอมเมนท์ Venus Butterfly รายแรกชื่อ 'สุกี้ - สุกี้-กมล สุโกศล แคลปป์' "โอ้โห เขาคอมเมนท์แรง เราโดนแรงมาตั้งแต่แรก ซึ่งเป็นเรื่องที่โชคดี ทำให้เราพัฒนาขึ้น เขาไม่เคยบอกให้เราหยุด เขาเพียงแต่บอกว่า ยูต้องซ้อมเยอะๆ ยูต้องเขียนเพลงให้ดีกว่านี้"

"พี่สุกี้เป็นคนแรกที่ให้กำลังใจพวกเรา ที่จะร่วมกันทำวงต่อไป"ตาลพูด

"ถ้าไม่ได้พี่สุกี้ เวลาเราคงโดนคอมเม้นท์แรงๆ ก็คงจะหงายไปเหมือนกัน"เคที่ยอมรับ

หลังจากที่ซุ่มซ้อมสัปดาห์ละหกวัน วันละสี่ชั่วโมง ฝีมือของห้าสาวก็พัฒนาขึ้นจนเข้าตา 'David Kenneth' โปรดิวเซอร์ชื่อดังที่อยู่เบื้องหลังศิลปินระดับโลกอาทิ Kiss, Anthrax, Chaka Khan, Jame Brown และ Snow ทำให้ Venus Butterfly ได้ไปทำงานอัลบั้มเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเดวิดที่อเมริกา

นอกจากนั้นในงานเฉลิมฉลองครบรอบหนึ่งร้อยปีของการมีระบอบกษัตริย์ของประเทศภูฏาน ที่จัดพร้อมกับงานเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก วง Venus Butterfly ก็ยังได้รับการคัดเลือกให้เป็นวงดนตรีตัวแทนจากประเทศไทยขึ้นไปแสดงในงานนี้อีกด้วย

ปัจจุบันอัลบั้มเวอร์ชันภาษาไทยชุดแรกของพวกเธอถูกปล่อยออกมาวางบนแผงภายใต้ชื่อ Venus Butterfly The First ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลายคนคงจะเคยได้ยินเพลง Crazy , เมื่อไหร่เราจะรักกัน และ Summertime รวมถึงเคยเห็นลีลาการแสดงสดบนเวทีที่ทั้งเปรี้ยว ทั้งซ่ามาแล้ว

ณ ตำแหน่งที่ยืนอยู่ ถ้าให้สาวทั้งห้ามองย้อนกลับไปถึงวันวานที่เกลื่อนไปด้วยคำพูดดูถูกถากถาง พวกเธอไม่ได้มองว่าความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ที่เกิดขึ้นเป็นเครื่องหมายแห่งชัยชนะเหนือเพศชายแต่อย่างใด หากทว่าเหล่าผีเสื้อจากดาวศุกร์กลุ่มนี้มีเป้าประสงค์เพียงต้องการจะผ่องถ่ายความสุขที่เกิดจากการเล่นดนตรีไปให้กับคนอื่นๆ เท่านั้น

"เคที่ว่ามันเป็นการเอาชนะตัวเองมากกว่า อุปสรรคมันอยู่ที่ใจน่ะ ความอดทนเป็นข้อแรกที่เราจะต้องกัดฟันมาเรื่อยๆ เลย การซ้อม การฝึกฝน การพัฒนาฝีมือ ถ้าเราผิดหรือเราทำไม่ดีจริง ถ้าเราไม่ยอมรับมัน เราก็จะไม่มีวันพัฒนาไป ทุกครั้งที่เราลงมาแล้วมีคนติเรา เราจะมานั่งคุยกันเสมอว่า เราทำอะไรผิดเหรอ บางทีเราไม่รู้ เพราะว่าเราไม่มีประสบการณ์ตรงนี้

"แต่ว่าจนถึงปัจจุบันนี้ วีนัสฯ ก็ไม่ใช่ว่าจะรู้นะถึงได้ออกอัลบั้มได้ มันก็ยังต้องมีอะไรที่เราต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ว่าอย่างน้อยเราก็พร้อมที่จะพัฒนาให้ดีกว่านี้ แต่ก่อนเราอาจจะอยู่ในขั้นที่ว่าเราไม่มีพื้นฐานมากพอ หรือไม่มีความรู้มากพอ แต่ว่าในปัจจุบันนี้เคที่ว่าเรามีความรู้มากพอที่จะ โอเค คุณคิดอย่างนี้เหรอ เออ เราลองอย่างนี้ไหม เราสามารถที่จะแก้ไขปัญหาได้ค่ะ"

ถึงวันนี้ วงดนตรีหญิงล้วนวงนี้ได้พิสูจน์ให้คนที่เคยคิดว่า 'ผู้หญิงตัวเล็กๆ ห้าคนคงไม่สามารถตีกลอง ลีดกีตาร์ หรือเล่นดนตรีร็อกได้หนักแน่นทรงพลังเทียบเท่าผู้ชาย' ได้เห็นแล้วว่า พวกเขาคิดผิด

"มิวสิคไม่ควรมีลิมิตอยู่แล้วค่ะ ร็อกแอนด์โรลก็ไม่มีลิมิต โหน่งว่าผู้หญิงผู้ชายมันต้องเท่ากันอยู่แล้ว"

"ตาลว่าขึ้นอยู่กับตัวเองค่ะ ว่าเราเล่นได้แค่ไหน เราคิดว่าเราทำได้เท่านี้ แล้วเราทำแล้วเราแฮปปี้ เรามีความสุขก็ทำ"

"จริงๆ เพลงที่เราทำ เราทำเพราะเราแฮปปี้ เราไม่ได้ทำเพราะว่าวันนึงเราจะรวยน่ะ (หัวเราะ) จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังแฮปปี้กับที่เราเป็นอยู่ เรามีแฟนเพลงสิบ ยี่สิบคน อย่างน้อยเราก็มีความสุขที่คนพวกนี้เขาฟังเพลงของเราแล้วเขามีความสุข ก็อยากจะส่งผ่านความสุขน่ะ มันเป็นอะไรที่ Beauty นะ" เคที่พูดด้วยตาเป็นประกาย

"เป็นคำพูดที่คนพูดบ่อย แล้วมันก็น้ำเน่านะ แต่อัลบั้มนี้เคที่พูดจากใจจริงว่าเวลาทีเราทำเรามีความสุข แปดปีเป็นช่วงเวลาที่คนบอกว่านาน แต่เราคิดว่าคุ้ม เราเรียนรู้อะไรจากอัลบั้มนี้เยอะมาก เพลงสิบเพลงที่เราเลือกมาเราเลือกเพราะเรารัก แล้วเวลาที่เราให้คนอื่นฟัง เราก็อยากจะให้เขามีความสุขไปกับเราด้วย มันก็มีอยู่แค่นี้แหล่ะ แล้วเราก็จะทำไปเรื่อยๆ ถึงแม้อัลบั้มนี้จะมีแฟนเพลงแค่ร้อยคน(หัวเราะ) อัลบั้มหน้าอาจจะร้อยห้าสิบคน ถ้าเรายังรักที่จะทำอยู่ เราก็จะทำไปเรื่อยๆ แล้วเราก็จะเป็นกำลังใจให้คนที่อยากจะลุกขึ้นมายืน ทำอย่างนี้กับเราบ้าง"

"อาจจะไม่เกี่ยวกับดนตรี ก็ได้นะคะ เรื่องงาน เรื่องการเรียนก็ได้ ใครที่มีความฝันก็ทำไปเลยค่ะ อย่าท้อ" Venus Butterfly พูดสรุปชนิดที่เสียงทั้งห้าแทบจะประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน

โหน่ง – พิมพ์ลักษณ์ กมลเพชร
เคที่ – คทรีนา กลอส
เหน่ง-นิจกานต์ กมลเพชร
ตาล - จิตประภา ไมตรีจิตต์
อ๋อม – สริตา เสรีพุกกะณะ



กำลังโหลดความคิดเห็น