“ชูศรี เชิญยิ้ม” ยืมเงินเพื่อนตลก 3 แสน ประกันตัว “นก” ออกจากคุก ด้านตลกหญิงรับ เสพมาเกือบปีแล้วเพราะเครียดงานน้อย เจ้าตัวร่ำไห้สำนึกผิด ไม่กล้าขอให้สังคมอภัย พร้อมโต้ ไม่เคยบอกว่าเพื่อนในวงการร่วมเสพยาด้วย สัญญาจะไม่กลับไปเสพอีก ด้าน “ชูศรี-ถั่วแระ” วอนผู้จัดอย่าแบนงาน ขณะที่ “เอ็กแซ็กท์” หารือเครียดจะปลดหรือให้โอกาส
ทำเอาช็อควงการทีเดียว สำหรับข่าวการจับกุมตลกชื่อดัง “นก เชิญยิ้ม” หรือ “วนิดา แสงสุข” ขณะซื้อยาไอซ์ ย่านรามคำแหง เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่เข้าค้นในรถ ยังได้พบของกลางเป็นกัญชาอีกจำนวนหนึ่งด้วย ล่าสุดช่วงบ่ายของวันนี้(21 ก.ค.) อดีตสามี “ชูศรี เชิญยิ้ม” ได้เดินทางมายังสน.หัวหมาก เพื่อยื่นประกันตัวด้วยเงินจำนวน 3 แสนบาท โดยชูศรีเผยว่า เงินก้อนนี้ไม่ใช่เงินของตนคนเดียว แต่เป็นเงินที่หยิบยืมมาจากเพื่อนตลกในวงการ เพราะสงสารที่ตลกหญิงไม่มีใคร
ชูศรี “พอดีผู้จัดการของคุณนกโทรมาบอกว่าเขามีเรื่องโดนจับ ตอนนั้นก็ช่วงเวลาประมาณตี4 ก็เลยเปิดข่าวดู เราก็เลยได้รู้ พอลูกรู้ข่าวเขาก็ร้องไห้(ลูกสาวอยู่กับยาย) โทรมาบอกให้พ่อช่วยหน่อย ยังไม่ได้คุยกันเลย แต่มีช่วงตี4 ได้คุยกับเขาคำนึง เขาบอกว่าพี่ช่วยหนูหน่อย”
“เงินทั้งหมดไม่ใช่เงินผมเลย เพราะผมก็ไม่ค่อยมีเงิน ผมโทร.ไปยืมตลกที่มีเงิน ก็มีพี่หม่ำ พี่ถั่วแระ คุณแต ราตรี วิทวัส และอีกหลายๆ คน รวมถึงผมด้วย ก็ช่วยรวบรวมกันไป จริงๆ วันนี้ตลกอยากจะมา แต่กลัวเสียภาพพจน์ แต่ก็ไม่เป็นไร มันคนละส่วนกัน ในฐานะที่ผมก็เป็นอดีตสามี ก็เลยต้องมาช่วย เพราะเขาไม่มีใคร ถึงเราแยกกันอยู่ตั้งแต่ปี 38 แต่เราก็ยังช่วยเหลือกันอยู่ตลอดเวลา ส่วนมากก็ไม่คอยได้ถามสารทุกข์สุกดิบกันเท่าไหร่ ต่างคนต่างทำมาหากิน ที่ผ่านมาก็มีติดต่อกันบ้าง”
“ตั้งใจจะมาช่วย ไม่ได้มีใครขอ เราเองก็ปรึกษาผู้ใหญ่มาก่อนแล้ว ว่าคดีแบบนี้เราจะเป็นอะไรมั้ย เราเองก็ไม่อยากวุ่นวาย เพราะเราก็เป็นศิลปิน เป็นคนของประชาชน แล้วเราเองก็รณรงค์เรื่องนี้มาโดยตลอด แต่มันจะทำยังไงได้ นกเขาไม่มีใครก็ต้องช่วย ยังไงก็ขอให้สังคมเข้าใจด้วย”
“ไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าเขาเสพ เพราะจริงๆ แล้วเขาเป็นคนที่เรียบร้อย พอรู้ข่าว ผมรู้สึกตกใจและตื่นเต้นมาก ว่าทำไมนกถึงทำอย่างนี้ไปได้ ก็รู้สึกเสียใจมาก ตอนอยู่ด้วยกันแม้แต่การพนันก็ไม่เคยเล่น เพราะเขาเล่นไม่เป็น เรื่องดื่มมีบ้าง แต่เรื่องยาเสพติดรับรองว่าไม่มีแน่นอน ลักษณะก็คงจะเครียดเรื่องงาน งานเขาน้อยก็เลยไม่ค่อยมีเงิน ไม่มีเงินให้ลูกให้แม่ก็เลยเครียด แต่คนเรามันก็ผิดพลาดไปแล้ว ก็ไม่รู้จะทำยังไง จะซ้ำเติมมันก็เท่านั้นแหละ”
ภายหลังจากประกันตัวออกมาเรียบร้อย “นก เชิญยิ้ม” ซึ่งอยู่ในอาการอิดโรยก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับ “ชูศรี” ซึ่งเจ้าตัวก็ถึงกับปล่อยโฮด้วยความสำนึกผิด พร้อมทั้งยกมือไหว้ขอโทษที่ทำให้ทุกคนผิดหวัง
ชูศรี “ผมอยากจะพูดกับผู้จัดละคร(ร้องไห้) พวกเราไม่อยากให้เป็นแบบนี้หรอกครบ ผมไม่อยากให้เขาต้องโดนแบน ไม่อยากให้เขาต้องไม่มีงาน เพราะทุกวันนี้ที่เขาทำอย่างนี้ ผมว่าเพราะเขาไม่มีงานมากกว่า แต่จริงๆ แล้ว สังคมก็คงจะไม่ยอมรับอยู่แล้ว มันเป็นยาเสพติด ผมอยากให้สังคมยกโทษให้เขา ให้อภัยเขา คนเราผิด มันก็ต้องยอมรับผิด”
นก “หนูยอมรับผิดค่ะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับคนอื่น ไม่เกี่ยวกับพี่ชูศรี ไม่เกี่ยวกับครอบครัว ไม่เกี่ยวกับใครเลยแต่เป็นหนูคนเดียว หนูสร้างปัญหาให้พี่ศรีเยอะมาก ทั้งในเรื่องนี้และมีเรื่องก่อนหน้านี้อีก (เสพมานานแค่ไหนแล้ว?) ไม่ถึงปีค่ะ เป็นเพราะตอนนั้นเครียดมาก ทำงานคนเดียว ขับรถด้วยอะไรด้วยมันก็เครียด”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า เครียดถึงขยาดต้องซื้อไว้เยอะขนาดนั้นเลยหรือ และจริงหรือเปล่าที่มีข่าวว่าซื้อไปให้คนในกองถ่ายเสพด้วยกัน ทำเจ้าตัวถึงกับอึ้ง บอกเป็นการตีความหมายผิด
“ไม่มีค่ะ ไม่ได้ฝากใครเลย เขาอาจจะฟังผิด เพราะว่าหนูบอกว่าหนูกำลังจะไปกองถ่าย ไม่ใช่เอาไปฝากใครที่กองถ่าย ไม่ใช่นะคะ ขอให้เขียนให้หนูใหม่ด้วย หนูไม่ได้พูดแบบนั้น ตีความหมายผิดนิดนึงหรือเปล่า หนูไม่ต้องการให้คนที่เขาไม่รู้เรือง จะต้องมารับผิดตรงนี้ด้วย”
“ตรงนี้หนูก็อยากขอร้อง ว่าอย่าดึงเอาพวกตลกมาเกี่ยว อย่ามองภาพตลกหรือนักแสดงเสียนะคะ หนูขอร้อง ขอให้หนูผิดคนเดียว ร้องไห้ยกมือไหว้ มันเป็นที่หนูคนเดียวไม่ได้เกี่ยวกับใครเลย แล้วพวกเขาก็ไม่เกี่ยวด้วย ตรงที่หนูได้มามันก็ไม่เกี่ยวกับวงการตลก ไม่เกี่ยวกับวงการนักแสดงด้วยเลยดีกว่า หนูคนเดียว (ร้องไห้) ที่มากันเขาก็มาให้กำลังใจ”
คอตกยอมรับชะตากรรมที่ตามมา พรั่งพรูน้ำตาไม่ขอโอกาสจากสังคม เพราะรู้ตัวดีว่าทำผิดเอง สัญญาจะไม่กลับไปเล่นยาอีก
“ก็ต้องเผชิญค่ะ เพราะปกติก็ไม่ค่อยจะมีงานอยู่แล้ว ก็คงจะเหมือนที่ผ่านๆ มา ที่เขาโดนแบนกัน ก็ต้องยอมรับสภาพเองในเมื่อเราเป็นคนผิดเอง เสียใจทำให้ผู้ใหญ่เสีย เขาเอาหนูไปร่วมงานก็ไปทำให้เขาเสียงาน ยินดีรับค่ะ ขอแค่ว่าอย่าไปเกี่ยวกับใครก็พอค่ะ เพราะครั้งนี้เป็นที่หนูคนเดียวจริงๆ”
“ต่อไปก็คงไม่เล่น(ยา)แล้ว และคงจะไม่กล้าขอให้สังคมอภัย เพราะเราเองก็โตแล้ว มีสติแล้ว จะบอกว่าไม่รู้ก็คงไม่ได้ เพราะฉะนั้นหนูยอมรับในสิ่งที่หนูทำ ส่วนจะอภัยหรือจะรังเกียจหรือจะอะไรก็แล้วแต่ หนูไม่กล้าจะขอร้องใครทั้งสิ้น (ร้องหนัก)”
ขณะที่ “ถั่วแระ เชิญยิ้ม” เองก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจเพื่อนตลกด้วยเช่นกัน ซึ่งทันทีที่ตลกหญิงเห็นก็โผเข้ากอดและร้องไห้ด้วยความรู้สึกผิด
“วันนี้เรามาให้กำลังใจกันครับ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน พอเห็นในหน้าข่าวแล้ว ผลเสียมันกระทบไปหลายเรื่องมาก กลายเป็นว่านกเป็นผู้นำพาไปถึงคนอื่น เราก็เป็นห่วงเรื่องตรงนี้เหมือนกัน ว่าเดี๋ยวเพื่อนร่วมงานจะได้รับผลกระทบ”
“มันก็เป็นการผิดพลาดไป พวกเราก็ไม่นึกว่านกจะเป็นแบบนี้ นกเป็นแบบนี้ไปได้ แต่ที่มาวันนี้พวกเรามาให้กำลังใจนกกัน นกมันมีขนคนมันก็ต้องมีพวก ที่มันผิดพลาดไปก็ถือว่ามันเป็นเรื่องราวที่มันจะต้องแก้ไข และปรับปรุง นกเองก็รู้ว่าสุดท้ายมันจะต้องบานปลายออกไปอีก อีกหลายเรื่องเลย มีผู้ใหญ่โทรเข้ามาหา”
“กลัวอย่างเดียวก็คือเรื่องงาน ผลงานที่เขาทำไว้ ไม่รู้ว่าเจ้านายจะอภัยให้ได้มากน้อยแค่ไหน เพราะอย่างที่แล้วๆ มา ดาราทุกคนก็มักจะโดนแบน มักจะโดนลงโทษด้วยกฎของทางบริษัท เราห่วงกันตรงนี้มากกว่า ว่าชีวิตของนกบุบสลายมาเยอะ เขาต่อสู้ชีวิตด้วยลำแข้งของเขามาเยอะ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ มันจะเป็นเรื่องของการชี้ชัดอีกหลายชีวิต เกี่ยวกับสังคมของตลก ว่าการกระทำผิดครั้งนี้มันจะเป็นผลเสียอย่างมหันต์มาก ความจริงอยากจะบอกกับน้องๆ ผมอาจจะไม่มีโอกาสบอกกับเพื่อนๆ สมาชิกตลกได้หลายๆ คนว่า อย่าทำ ทำแล้วมันจะเกิดผลแบบไหน”
ด้าน พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก. สน.หัวหมาก ได้เปิดเผยถึงคดีนี้ว่า ...“เดี๋ยวจะนำสำนวนเอาไปให้ทางศาล แล้วเรื่องก็คงแล้วแต่ทางศาล ก็ต้องให้เป็นขั้นตอนของทางศาลไป ส่วนเรื่องบทลงโทษก็ต้องแล้วแต่การพิจารณาของศาลอีกที ก็คงต้องขึ้นอยู่กับปริมาณของยาเสพติด ส่วนโทษก็ดูจากจำนวนยา รออีกแปบเดียวรอผลตรวจ ว่ามีสารเสพติดอยู่ในตัวเขาเยอะมั้ย คิดว่าคงไม่มีปัญหาถ้าได้ผลพิสูจน์มาเร็วเราก็จะได้นัดตัวประกันโดยเร็ว ให้เขานำเอกสารมาเพื่อนำส่งอัยการ หลังจากนี้ก็ไปบำรุงสภาพจิตใจแล้วกัน”
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ทางค่ายเอ็กแซ็กท์ ซึ่งเป็นผู้จัดละครซิทคอมเรื่อง “บ้านนี้มีรัก” ที่ตลกหญิงร่วมแสดงอยู่ กำลังหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไรดีกับเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นละครแนวครอบครัวสร้างสรรค์สังคม แต่นักแสดงในเรื่องมีข่าวคราวด้านนี้ออกมา ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าผลของการหารือจะเป็นอย่างไร
ส่วนความคืบหน้าต่างๆ ทีมงาน “ASTVผู้จัดการออนไลน์” จะนำมารายงานต่อไป
