xs
xsm
sm
md
lg

“โกโก้” ยิ้มออก “มาริโอ้” ยอมจ่าย 6 แสน คดีผิดสัญญา ด้านมาริโอ้ซวยซ้อน ชวดงานพรีเซ็นเตอร์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โกโก้-มาริโอ้-เอ” ประจันหน้าในศาลครั้งแรก ต่างฝ่ายต่างยิ้มออกเพราะแนวโน้มการไกล่เกลี่ยใกล้มีทางออก “โกโก้” แย้ม “มาริโอ้” ยินดีจ่ายคดีผิดสัญญา 6 แสน แต่คดีฟ้อง “เอ” 6 ล้าน ข้อหาละเมิด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ยังต้องลุ้นต่อไป แต่คาดว่าไกล่เกลี่ยนัดหน้าคงหาข้อสรุปได้ ด้านมาริโอ้ซวยซ้อนโดนถอดออกจากพรีเซ็นเตอร์

นอกจากจะเป็นการประจันหน้ากันครั้งแรก ของโจทก์ทั้ง 3 คน อย่าง “โกโก้ นิรุณ ลิ้มสมวงศ์”, “มาริโอ้ เมาเร่อ” และ “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” แล้ว ผลการไกล่เกลี่ยในวันนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในคดีที่ “โกโก้” ฟ้อง “มาริโอ้” ในข้อหาผิดสัญญาให้ปฏิบัติตามสัญญา เรียกค่าเสียหาย 6.3 แสน ยังมีแนวโน้มจะจบลงด้วยดี
 
ซึ่งเบื้องต้นแม้จะยังไม่มีข้อสรุป แต่ทางฝ่ายของโกโก้ก็ออกมาแง้มว่า มาริโอ้มีท่าทีจะยอมชดใช้ในคดีผิดสัญญาให้ แต่ในส่วนของคดีที่โกโก้ฟ้อง “เอ ศุภชัย” ฐานความผิดละเมิด ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เรียกค่าเสียหายไป 6 ล้านบาทนั้นยังคงต้องลุ้นต่อไป ซึ่งเจ้าตัวก็แอบหวังว่าไกล่เกลี่ยครั้งหน้าวันที่ 28 ก.ค. ที่จะถึงนี้ คงหาข้อสรุปได้ซะที

มาริโอ้ “วันนี้ก็ไกล่เกลี่ยดีขึ้นเยอะเลยครับ ทุกอย่างก็ดีขึ้นและมีแนวโน้มว่าจะลงตัวกัน ศาลก็เลยเลื่อนไกล่เกลี่ยอีกครั้งนึง ไปเป็นวันที่ 28 ก.ค. นี้ คือของอย่างนี้มันต้องค่อยๆ นะครับ ส่วนเรื่องที่ติดขัดตอนนี้ยังอยู่ในส่วนของทนายอีกที เรื่องเงินอันนี้โอ้ไม่ขอพูดดีกว่าครับ จะเท่าไหร่หรือยังไง ขอเป็นเรื่องในอนาคตครับ มันเป็นเรื่องของส่วนไกล่เกลี่ย เพราะมันไม่ใช่เรื่องเงินอย่างเดียว แต่มันมีหลายๆ เรื่องครับ โอ้อยากให้จบกันได้ด้วยดี ให้ทุกอย่างเสร็จด้วยดี จะได้ไม่ต้องมีอะไรติดใจกัน”

ทนาย “ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องปรับความเข้าใจซึ่งกันและกันมากกว่า ว่าก่อนที่จะเกิดเหตุในคดีนี้ก็ได้มีการปรับความเข้าใจกัน พอปรับความเข้าใจกันแล้วทางคุณโกโก้ก็เข้าใจน้องดี ทางน้องก็เข้าใจทางคุณโกโก้ดี วันที่ 28 นี้สองฝ่ายน่าจะตกลงกันได้ ต่างฝ่ายน่าจะถอนฟ้องซึ่งกันและกัน เนื่องว่ามันมีทั้งทางโกโก้ฟ้องมาริโอ้ และทางมาริโอ้ฟ้องโกโก้ได้ฟ้องแย้งเข้าไปด้วย คิดว่าถ้าจบได้ทั้งสองฝ่ายน่าจะถอนฟ้องซึ่งกันและกัน”

ผู้สื่อข่าวหันไปถาม “เอ ศุภชัย” บ้าง หลังเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวเดินทางมาไกล่เกลี่ยด้วยตัวเอง อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่ต้องประจันหน้ากับโกโก้ ว่ารู้สึกอย่างไร ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแม้จะไม่ได้พูดคุยกัน แต่ก็เชื่อว่าน่าจะจบลงด้วยดี

เอ “วันนี้ศาลท่านเรียกมาไกล่เกลี่ย ของเอด้วยเพราะเอก็มีส่วนเพราะมีชื่ออยู่ด้วย แต่ศาลท่านก็น่ารักครับ ท่านอยากให้ทุกอย่างราบรื่นมากที่สุด แต่อย่างที่บอกมันขึ้นอยู่กับคนหลายฝ่าย แต่มันก็อยู่ที่อนาคต แล้วก็การตัดสินใจของคนหลายๆ ฝ่าย วันนี้อาจจะยังไม่ได้ตกลงสรุปแน่นอน แต่ผมว่าน่าจะเป็นนิมิตรหมายทีดี แต่ผมว่าทุกคนก็คงทำดีที่สุดแล้ว ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มาและที่เจอกัน(กับโกโก้) แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน แต่ก็อยากให้ทุกอย่างลงเอยได้ด้วยดี”

ทนาย “วันที่ 28 คุณเอไม่ต้องมา แต่ยังไงโอ้ต้องมาเพราะศาลนัดไกล่เกลี่ย ครั้งนี้มีแนวโน้มว่าทุกอย่างดีขึ้นมาก ในแง่ของความรู้สึก ระยะเวลาต่างๆ มันก็เนิ่นนานมาพอสมควรแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มจะเห็นถึงแนวทางว่าควรจะออกมาเช่นไร เพื่อที่จะสบายใจกันทั้งสองฝ่าย”

“ทั้งสองฝ่ายต่างก็เรียกร้องซึ่งกันและกัน ในเมื่อทั้งสองฝ่ายเรียกร้องซึ่งกันและกัน ทางที่จะจบลงได้คือทั้งสองฝ่ายต้องปรับความเข้าใจซึ่งกันและกัน เมื่อเราจูนความเข้าใจกันได้ ทุกอย่างก็น่าจะจบ ประเด็นเรื่องของเงินค่าเสียหายในตอนนี้ยังไม่ได้พูดถึง อยากให้สองฝ่ายเขามองกันว่า ทั้งสองคนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง ถ้าเกิดได้ปรับความเข้าใจกันภาพที่ออกมาสู่สังคม ก็จะดีขึ้นทั้งสองคู่ ซึ่งเบื้องต้นถ้าตกลงกันได้ต่างฝ่ายก็จะถอนฟ้องกัน”

“ส่วนจะหาข้อสรุปได้ในนัดหน้าหรือเปล่านั้น ผมว่าระยะเวลาที่เราทิ้งไปในวันนี้สองฝ่ายต่างเสนอซึ่งกันและกัน ในข้อเสนอสองฝ่ายได้กลับไปทบทวน ว่าเหตุและผลในการนำเสนอที่มันจะหาทางจบกันได้ มันน่าจะเป็นในลักษณะแบบไหน ให้สองฝ่ายได้กลับไปทบทวนกัน”

การที่หลายคนมองว่า ต้องมาฟ้องร้องกันเพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ เอแจงว่า...
เอ “ไม่เลยครับ ผมไม่ได้คิดว่าจะแพ้หรือจะชนะ เพราะเราก็บริสุทธิ์ใจ”

ยืนยันอนาคตแม้ว่าจะถอนฟ้องกันไปแล้ว ก็จะไม่จับมาริโอ้เซ็นสัญญาแน่นอนเพราะเป็นญาติกัน
เอ “ไม่ครับ เรื่องนี้ไม่ต้องพูดถึงเลย ก็เหมือนยืนยันตั้งแต่ครั้งแรกอยู่แล้ว ว่าเราเป็นญาติกัน”

ด้านมาริโอ้ยอมรับ การมีเรื่องฟ้องร้องทำให้มีผลกระทบกับงาน แต่ข่าวที่ว่า "ฮานามิ" เลือกที่จะต่อสัญญา "สายป่าน" แต่ไม่ต่อสัญญามาริโอ้เพราะโก่งค่าตัว แถมยังเตรียมจะเอาศิลปินเกาหลีวง “2PM” มาเสียบแทนนั้น หนุ่มมาริโอ้โต้เรื่องโก่งค่าตัวไม่เป็นความจริง

มาริโอ้ “เรื่องเปลี่ยนตัวพรีเซ็นเตอร์ไม่ทราบครับ อันนี้ตัวโอ้ไม่เกี่ยวเลย มากันคนละสาย ตอนนี้โอ้มาทางสายแสดงแล้ว การแสดงเกี่ยวกับหนังนะ ทาง 2PM เขาเป็นวง เขาเป็นนักร้อง ซึ่งมันก็ดูแล้วไม่ได้เกี่ยวกับตัวโอ้เลย แต่เรื่องขึ้นค่าตัวไม่มีอยู่แล้วครับ ก็ยังเท่าเดิม ตัวฮานามิโอ้ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่แล้ว แต่ที่เขาจะเปลี่ยนโอ้คิดว่ามันอาจจะเป็นเรื่องของนโยบายหรือเปล่า และโอ้ก็คิดว่าตัวพรีเซ็นเตอร์บางทีเขาก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยเป็นเรื่องปกติ”

เอ “ผมว่าเรื่องเงินไม่เกี่ยวครับ ผมว่าสินค้าแต่ละสินค้าก็อาจจะมีการเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งขนาดตัวเราบางทีก็อยากลองผิดลองถูกในบางเรื่อง การติดต่อเรื่องสัญญา อันนี้น้องเป็นคนดูงานและรับงานเองตลอด ผมไม่เคยได้เข้าไปก้าวก่ายในสิ่งนี้เลย แล้วที่ผ่านมาทางฮานามิเองเขาก็น่ารักกับโอ้มาตลอดนะที่ผมเห็น”

“อย่างที่ถามถึงเรื่องฮานามิที่เปลี่ยนเป็น 2PM ผมเองก็รู้จักกับคนที่พา 2PM เข้ามาดี มันไม่เกี่ยวกับเรื่องที่ว่าคนจะไม่ชอบน้อง คนชอบน้องมันก็ยังมีอยู่เยอะมาก แต่เวลาจะเป็นตัวอธิบายสำหรับทุกอย่างว่า ความจริงมันคืออะไร”

ด้าน “โกโก้” ยอมรับที่วันนี้ไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ เพราะตกลงเรื่องเงินไม่ลงตัว

“วันนี้ที่ติดขัด สุดท้ายก็คือเรื่องของตัวเลข (ทางคู่กรณีต่อเท่าไหร่?) รายละเอียดคงยังลงไปไม่ได้ ส่วนตัวของโก้แล้วก็ถอยลงไปสองก้าว แนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี อย่างที่บอกว่าคดี 6 แสน(คดีผิดสัญญา) น่าจะลงตัวแล้ว ซึ่งทางเขาเองก็ยินดีที่จะจ่ายมา มีการตัดๆ ลงมา เพราะมันก็ไม่ได้เยอะมาก แต่คดี 6 ล้าน(คดีละเมิดสัญญา) ยังไม่ลงตัว ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่ายังไง(ยิ้ม)”

ส่วนที่ฟ้องเอในคดีละเมิดสัญญา เรียกเงิน 6 ล้านบาทนั้น เจ้าตัวไม่บอกว่าลดให้เท่าไหร่ แต่บอกว่าตอนนี้ถอยให้แล้วถึงสองก้าว

“สำหรับผม ผมบอกแล้วว่าถอยมาแล้วสองก้าว ตัวเลขอะไรคงพูดไม่ได้ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้มีอะไร โก้ว่าถ้าคนเราไม่ได้สบายใจที่จะอยู่ด้วยกัน ก็คงต้องปล่อยให้เขาไป โก้ก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมากไปกว่านั้น”

เผยถึงความรู้สึกที่วันนี้ได้มาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาว่า...
“ก็แอบเครียดนิดนึง(หัวเราะ) เพราะว่าเขามาพร้อมกัน ตัวเรารู้สึกกดดันและเสียใจนิดหน่อย เหมือนแต่ก่อนเราอยู่กับเขา แต่ตอนนี้กลายเป็นคนอื่น”

ก่อนเดินทางกลับ รุ่นพี่ “อุ๊บ วิริยะ” ที่เดินทางมาให้กำลังใจ ได้เรียกให้เอมาถ่ายรูปร่วมกับโกโก้ แต่ปรากฏว่าเอปฏิเสธ ซึ่งงานนี้ก็ทำเอาโกโก้ถึงกับเหวอเลยทีเดียว

“ตัวผมยังไงก็ได้ ผมเองก็ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว แอ๊บแบ๊วได้ เราไม่ซีเรียสเลย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงไม่ถ่าย เพราะเมื่อกี้พี่อุ๊บก็ลากเขามาแล้ว พอผมเข้าเขาก็ออก เขาก็พูดว่าไม่เอาดีกว่าๆ ถามว่าใจโก้ให้ร่วมงานกันก็คงจะลำบากอยู่เหมือนกัน เพราะโก้เองก็คงไม่สบายใจทีจะร่วมงานกับเขา แต่แค่ถ่ายรูปมันก็คือแค่การถ่ายรูปไง ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย คดีจบไม่จบก็ไม่เห็นเกี่ยวเลย การถ่ายรูปมันไม่ได้ไปกระทบกับคดีซะหน่อย ถ้าร่วมงานกันสิลำบาก”




กำลังโหลดความคิดเห็น