“ติ๊ก” แต่งไฮโซ “พีช” แล้ว เผย หมั้นตอนเช้าแล้วส่งตัวเลย โดยที่ไม่มีงานเลี้ยงฉลองมงคล แต่จูงมือกันไปจดทะเบียนเป็นสามี-ภรรยาโดยสมบูรณ์แล้ว ติ๊กเผย รักที่ฝ่ายหญิงน่ารัก คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ส่วนเรื่องมีลูกยังไม่คิด ด้านฝ่ายหญิงเขิน บอกประทับใจที่ติ๊กรักครอบครัว และรักษาคำพูด หวังจะเป็นคู่ชีวิตที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดไป
สละโสดไปแล้วเรียบร้อย สำหรับพระเอกชื่อดัง “ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี” กับแฟนสาวไฮโซ “พีช สิตมน แตงสุวรรณ” โดยได้ทำพิธีหมั้นและยกน้ำชาสู่ขอไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา(9 ก.ค.) ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ซึ่งภายในงานจัดแบบเรียบง่าย เชิญเฉพาะญาติพี่น้องที่สนิทเท่านั้น จากนั้นเวลา 11.30 น. ทั้งคู่ก็ได้ควงกันออกมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ถึงเส้นทางรักที่ซุ่มคบหากันมายาวนานถึง 5 ปี ก่อนจะมีวันนี้
โดยติ๊กบอกว่ารักที่ฝ่ายหญิงเป็นคนน่ารัก คิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ส่วนสาเหตุที่ขั้นตอนต่างๆ จัดแบบรวบรัด ไม่มีงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสเหมือนคู่อื่นๆ ก็เนื่องจากว่า เกรงใจที่ผู้ใหญ่เหนื่อยกับการเตรียมงานครั้งนี้แล้วนั่นเอง
ติ๊ก “เมื่อเช้าพิธีเริ่มตั้งแต่ตี 5 จัดพิธีแบบไทยๆ ก็มีญาติพี่น้องและเพื่อนๆ สนิทมา ไม่มีแห่ขันหมาก แต่มีกั้นประตู ของหมั้นมีทุกอย่างเหมือนที่ทุกงานเขามีกัน เถ้าแก่ฝ่ายชายก็คือพ่อแม่ของผมเอง เพื่อนเจ้าบ่าวก็คือพี่อุ๋ย นนย์ทรี และมีเพื่อนสนิทสมัยเรียน ฤกษ์สวมแหวนไม่แน่ใจเหมือนกัน ประมาณ 06.09 หรือ 06.29 น. แต่ก็เรียบร้อยตรงเวลา ก่อนสวมเราก็มีการซ้อมสวมแหวนเปล่าๆ กันก่อน แต่เวลาจริงก็สั่นมือเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าแหวนวันนี้จะหลวมไปหน่อย เพราะคุณพีชผอมลง”
พีช “เพื่อนเจ้าสาวมีชมพู่ อารยา และมีเพื่อนสมัยเรียนมาด้วย”
เผย หลังจากหมั้นได้ไปจดทะเบียนสมรสกันเรียบร้อยที่เขตบางรัก แต่ไม่มีรดน้ำสังข์ และไม่มีงานเลี้ยงฉลองมงคล เนื่องจากครอบครัว เพื่อนฝูงเหนื่อยกับการเตรียมงานครั้งนี้แล้ว
ติ๊ก “รดน้ำสังข์ไม่มี มีแค่พานธูปเทียนขอพรผู้ใหญ่เฉยๆ แต่ว่าหลังจากหมั้นเราก็ไปจดทะเบียนแล้วที่เขตบางรัก แต่ว่าไม่มีพิธีฉลองมงคลสมรส เพราะว่าทางผู้ใหญ่ทางพ่อแม่เพื่อนฝูงผู้ใหญ่ทุกคน ผมรู้ว่าแต่ละท่านก็เหนื่อยกับงานครั้งนี้มาก ก็คงจะไม่มีในเร็วๆ นี้หรืออาจจะไม่มีเลยก็ได้ คิดว่าเพียงพอแล้ว และทุกคนก็ดีใจกับเรา นี่คือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ และงานในวันนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี และเราก็ดำเนินชีวิตในวันข้างหน้ากันต่อไป”
“หลังจากนี้ก็ส่งตัวเลย ไม่มีฤกษ์อะไรแล้ว แต่ว่าหลังจกนี้คงไปทำเรื่องของพิธีซักนิดนึงครับ อย่างวันนี้พิธีค่อนข้างจัดเช้ามาก ก็มีผู้ใหญ่บางท่านที่มางานไม่ได้ เราก็ต้องไปขอพรผู้ใหญ่ต่อไป ผู้ใหญ่ให้พรเยอะมาก แต่หลักๆ ก็คือให้อยู่กันอย่างมีความสุข เจริญรุ่งเรืองและรักกันนานๆ สำหรับเรื่องอนาคตตอนนี้ก็ยังไม่ได้วางแผนอะไร ก็คงต้องทำงานและก็รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำเพราะค่อนข้างเยอะเหมือนกัน ตอนนี้เลยยังไม่ได้วางแผนครอบครัว”
ติ๊กปัดตอบเรื่องสินสอดและแหวนหมั้นว่ามีมูลค่าเท่าไหร่ เพราะให้แม่เป็นคนจัดการให้ แต่ให้ครบทั้งเงินและทอง
ติ๊ก “สินสอดก็ประมาณนึง มีทองมีเงิน แต่เรื่องปริมาณเท่าไหร่ผมไม่ทราบ เพราะแม่เป็นคนจัดการให้ทั้งหมด ส่วนแหวนหมั้นของคุณพีช คุณแม่ผมเป็นคนเลือกให้ แต่ว่ากี่กะรัตไม่รู้ เพราะว่าผมไม่มีความรู้เรื่องแหวนเลย แต่เป็นแหวนใหม่”
พีช “แหวนของพีชเป็นแหวนเกลี้ยงๆ เป็นทองคำขาว แต่จะมีกลไกเล็กน้อย คือสามารถถอดออกมาได้ และเข้าป่าก็คงไม่ถลอก ส่วนราคาแหวนพีชก็ไม่ทราบเหมือนกันเพราะคุณแม่เป็นคนดูให้ แต่สไตล์แหวนพีชเป็นคนดูเอง”
ติ๊ก “ผมเป็นคนขอเองว่าถ้าเข้าป่าขอให้ทนรอยขูดขีดได้”
พร้อมกันนี้พีชได้เล่าถึงวินาทีที่ติ๊กขอแต่งงานให้ฟังว่า ไม่ได้มาในแบบโรแมนติก แต่เป็นความรู้สึกที่หนักแน่นของฝ่ายชายมากกว่า
พีช “มีอยู่วันหนึ่งที่เขาก็พูดขึ้นมาว่า ติ๊กพร้อมแล้วนะ เดี๋ยวจะพาไปอยู่ด้วยแล้วนะ และก็จะพาไปหาพ่อกับแม่ เป็นการสนทนาแบบเรียบๆ เราก็ฮ้า...(ติ๊กพูดแทรกแมนๆ ครับแมนๆ) คือไม่ได้โรแมนติกแต่ก็หนักแน่น พีชก็ถามหลายทีเหมือนกันจริงเหรอ เขาก็บอกว่าจริง”
ติ๊ก “ผมขอช่วงต้นๆ ปี อยู่ๆ ผมก็บอกเลยโอเคติ๊กพร้อม...จบ(หัวเราะ) ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาพร้อมหรือเปล่านะ แต่ผมคิดว่าน่าจะนะดูจากการคาดเดาแล้ว”
เผยจากนี้ไปคงต้องปรับตัวเพื่อใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกัน
ติ๊ก “แต่ตอนนี้มันคงจะไม่เหมือนเมื่อก่อน คือเมื่อก่อนเราอยากจะทำอะไรก็ทำเพราะเราตัดสินใจคนเดียว แต่ตอนนี้การตัดสินใจอะไรซักอย่างก็คงจะต้องปรึกษากัน แต่ผมว่าก็ดีไปอีกแบบนะครับเหมือนกับมีคนให้คำปรึกษาได้ตลอดเวลา แต่อย่างน้อยก็ขออนุญาตเขาว่า ก็คงจะขอไปผจญภัยเหมือนเดิมนะ ซึ่งคุณพีชเขาก็อนุญาต”
ผู้สื่อข่าวถามมีกำหนดกฏเกณฑ์ว่าต้องไปกี่วัน อยู่กับครอบครัวกี่วัน “ติ๊ก” รีบหันหน้าไปถามเจ้าสาวมีไหมครับ ? ด้าน “พีช” ก็ตอบกลับมาอย่างหวานแหว๋ว “ไม่มีค่ะ....แต่ต้องรีบกลับมา”
แย้มถึงความประทับใจระหว่างกัน ที่ทำให้มีวันนี้
ติ๊ก “ตอนแรกก็เจอกันธรรมดาๆ ก็คบเป็นเพื่อนกันมาก่อนค่อยมาเป็นแฟนกัน เราคบกันมาได้ 5 ปีแล้ว แต่เราคุยกันแล้วเข้าใจ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีความเข้าใจกันดี พีชเป็นคนอัธยาศัยดี น่ารัก ค่อนข้างจะคิดถึงคนอื่นมากกว่าตัวเอง ก็เลยได้ใช้นามสกุลผลดี”
พีช “ติ๊กเป็นคนดี รับผิดชอบ รักครอบครัว และมีความสม่ำเสมอ จริงใจตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ก็เหมือนเดิม อะไรที่ทำให้ได้ก็ทำให้หมด พูดอะไรไว้ก็ทำให้ได้เสมอ จนมาถึงวันนี้ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง และประทับใจที่เขาตรงนี้(อยู่ในวงการ)ด้วยและดูแลครอบครัวได้อย่างดี ก็เลยคิดว่าถ้าอยู่กับเขาก็คงดูแลเราได้”
“ตอนแรกที่เรารู้จักกัน เวลาที่ทำความรู้จักกันเขาก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งจริงๆ ไลฟ์สไตล์เขาทุกอย่างตัวตนเป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง แต่เผอิญว่าเขามีอาชีพเป็นนักแสดง กับเราเขาก็คือติ๊ก เจษฎาภรณ์ แต่ไม่ใช่พระเอกติ๊ก เจษฎาภรณ์ เพียงแต่มีอาชีพเป็นนักแสดง เราก็จะคอยเป็นกำลังใจให้เขาในช่วงที่เขารับบทบาทเป็นพระเอกหรือตอนที่อยู่ต่อหน้าสื่อมวลชนทุกคน พีชก็มีเก็งนิดหน่อยที่ต้องมาพูดต่อหน้าสื่อมวลชนแบบนี้ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องให้ข่าวสารและข้อมูลกับพี่ๆ นักข่าว”
ผู้สื่อข่าวถาม “ติ๊ก” ถึงคำมั่นสัญญาที่จะให้กับ “พีช” เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับหัวเราะ
“โอ้โห.....นี่โดนล็อกเลยนะ(หัวเราะ) ผมเองก็เป็นเพียงแค่...เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ได้วิเศษเลิศเลออะไร จะบอกว่าอะไรดีล่ะ คือผมชอบบทความอินโทรของวงทีโบนเขาบอกไว้ว่า ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอปรารถนาคือสิ่งเลอค่าอันใด แต่สำหรับฉันแล้วความบริสุทธิ์ทางใจก็ยิ่งใหญ่ยิ่งนักแล้ว ก็อย่างที่บอกว่า ผมไม่ใช่วิเศษเลิศเลอเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง แต่ว่าสิ่งที่ผมมีคือ ความหวังดี ความรัก และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะทำได้ในความสามารถของตนเอง เท่านี้แหละครับ จากผู้ชายคนนี้ เพียงชายคนนี้ไม่ใช่ผู้วิเศษ(เฮกันลั่นห้องแถลงข่าว) เจษฎาภรณ์ ผลดี ภาษาติ๊กครับ(หัวเราะ)”
พูดจบติ๊กก็หันหน้าไปหาเจ้าสาวถามว่า “ผ่านไหมครับ” เล่นเอา “พีช” ถึงกับยิ้มหวานยกนิ้วให้ และได้ให้สัมภาษณ์ถึงการแต่งงานในครั้งนี้ว่า...
“จริงๆ แล้วพีชคิดว่าการแต่งงานคงเป็นเริ่มต้นอะไรใหม่ๆ นอกจากที่เราจะได้คู่ชีวิตมาก็จะได้เพื่อนที่ดีที่สุดมาคนหนึ่งด้วย ก็คงจะอยากจะได้เพื่อนมาร่วมแชร์ทุกอย่างไปด้วยกัน มันถึงเวลาแล้วนะ”
ใช้บ้านฝ่ายชายเป็นเรือนหอ
ติ๊ก “เรือนหอไม่มีครับ คงเป็นที่บ้านผมเอง เพราะว่าเราถนัดอยู่ที่บ้านมากกว่า ณ วันนี้ก็จะมีคุณพีชเข้ามาอยู่ที่บ้านของเรา คิดว่าคงจะสร้างสีสันครับเพราะปกติบ้านผมมีแต่ผู้ชายล้วน แต่วันนี้จะมีหญิงสาวเข้ามาอยู่ที่บ้านเรา ก็รู้สึกว่าจะเป็นอีกบรรยากาศหนึ่งที่ทำให้โลกนี้สวยงาม เพราะผู้หญิงทำให้โลกนี้สวยงามเสมอ โอ๊ย...ไม่ใช่ครับเฉพาะคนนี้คนเดียว”(หัวเราะ)
เจ้าตัวลั่นเรื่องฮันนีมูนไม่สำคัญ เพราะยังไงก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว
ติ๊ก “เรื่องฮันนีมูนคงไม่สำคัญสำหรับเรา ปกติแล้วเวลาเจอกันก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ไปไหนมาไหนก็ไปด้วยกันอยู่แล้ว กิจกรรมต่างก็ต้องอยู่ด้วยกันมากขึ้น ความรักมันเหมือนการเดินทางเหมือนเนวิเกเตอร์ครับ(เฮลั่นห้องแถลงข่าว) เอ...มันยังไงถือโอกาสโปรโมทรายการเลยดีกว่า คือการเดินทางมันต้องมีจุดหมายปลายทาง แต่ถึงจะไปถึงจุดหมายปลายทางเราก็ต้องออกจากสถานที่แห่งนั้นและก็เดินทางกลับ และไปยังจุดหมายปลายทางอื่นต่อไป แต่ผมว่าสิ่งที่สำคัญคือช่วงระหว่างทางเราเจออะไรกันบ้าง เช่นเดียวกันครับตอนนี้คือบางทีเราอาจจะเจอกับอุปสรรค์ หรือว่าราบรื่น แต่เราก็ต้องต่อสู้ให้มันผ่านพ้นไปได้ด้วยดี”
เผยถึงความรู้สึกที่ต่อจากนี้ไปจะมีอีกหนึ่งชีวิตมาอยู่ข้างกายตลอด 24 ชั่วโมงว่า....
ติ๊ก “สำหรับก็รู้สึกแปลกๆ ครับ มันแน่นอนอยู่แล้วว่า ตลอดชีวิตของเรามันไม่เคยชินว่าวันหนึ่งเราจะมีใครมาอยู่ด้วยกับเรา เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ก็คิดอยู่เสมอว่า ในอนาคตภรรยาของเราจะเป็นใคร เราก็จินตนาการไป แต่ ณ วันนี้การจินตนการทุกอย่างก็สิ้นสุดลง(ยิ้ม)ครับผม”
พีช “รู้สึกแปลกๆ เหมือนกันค่ะ เมื่อคืนยังคุยกับแม่ว่าจะไม่ได้นอนที่บ้านแล้ว ก็ยังแปลกๆ อยู่ก็ต้องปรับตัวกันอีก”
ผู้สื่อข่าวถาม “พีช” เตรียมรับมือกับการที่ต้องถูกจับตามองในฐานะภรรยาของพระเอกติ๊กอย่างไรบ้าง ซึ่งคำถามนี้หนุ่มติ๊กเป็นคนขอตอบเองว่า...
ติ๊ก “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ งานก็คือวานส่วนตัวก็คือส่วนตัว ผมปฏิบัติแบบนั้นมาตลอดอยู่แล้ว ผมก็เป็นคนธรรมดาคนนึง ที่ได้ทำงานและมีอาชีพนักแสดงท่านั้นเอง (จะเข้าแก๊งกลัวเมียหรือเปล่า?) คงเกรงใจมากกว่า ผมว่าเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่าไปเรียกว่ากลัวหรือไม่กลัวเลย ”
สุดท้าย “ติ๊ก” ก็ปิดท้ายวันชื่นคืนสุขด้วยมุขฮาๆ ตามสไตล์
“ครับสำหรับวันนี้ก็ขอบคุณมากที่ให้เกียรติมาในวันนี้นะครับ ขอบคุณนะครับผม และพบกับการเดินทางในครั้งต่อไป เดินตามรอยทางของเนวิเกเตอร์(ทำท่าตะเบ๊ะ) และแน่นอนครับกับสาวสวยเนวิเกตี้คนนี้”(หัวเราะ)