xs
xsm
sm
md
lg

“โอ วรุฒ” ปลื้มน้ำตาไหลเห็นหน้าลูก สัญญาจะเลิกเที่ยวเพื่อลูก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“โอ วรุฒ” น้ำตาไหลเห็นหน้าลูกชาย บอก ดีใจจนทำอะไรไม่ถูก เผย หน้าเหมือนปู่ “แรม วรธรรม” โล่งใจลูกสุขภาพแข็งแรงดี แต่ยังต้องอยู่ในตู้อบเพราะหวั่นติดไวรัส เจ้าตัวประกาศเลิกเที่ยวเพื่อลูก แพลนอีก 3 ปีเปิดอู่อีกรอบ หวังคนที่ 2 เป็นผู้หญิง

หลังจากที่อดีตพระเอกและพิธีกรชื่อดัง “โอ วรุฒ วรธรรม” ออกมาเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่ามีภรรยาแล้วชื่อ “เก๋ เจษฎาวรรลย์ จันทร์แตง” อายุ 23 ปี และกำลังตั้งท้องได้ 9 เดือน มีกำหนดคลอดในช่วง เดือนกรกฎาคม ปีนี้

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ภรรยาของพิธีกรชื่อดังได้ให้กำเนิดลูกชายแล้ว เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 00.29 น.ที่โรงพยาบาลสินแพทย์ ด้วยการผ่าตัด มีน้ำหนักแรกเกิด 2,500 กรัม เป็นเพศชาย ตั้งชื่อเล่นว่า ”น้องแอร์บัส” ชื่อจริง “ด.ช.อาณาจักร วรธรรม” โดยในวันนี้หนุ่มโอได้เปิดแถลงข่าวพร้อมหน้าภรรยาและลูกชาย ถึงวินาทีแรกที่เห็นหน้าลูก ว่าถึงกับน้ำตาไหลด้วยความปลื้มปิติ จนทำอะไรไม่ถูกเหมือนเป็นวันที่รอคอย

โอ “ก็ตามกำหนดก็คือที่บอกว่าเป็นวันที่ 9 ก.ค. นี่ก็คลอดเร็วกำหนด ปวดท้องคืนวันอาทิตย์ตอน 5 ทุ่ม พอมาถึงโรงพยาบาลคุณหมอบอกว่ามดลูกเปิดได้ 5 ซม.แล้วคุณหมอก็เลยตัดสินใจว่างั้นก็ผ่าคืนนี้เลย ซึ่งก็ข้ามไปเป็นวันจันทร์ที่ 29 เวลา 00.29 น. คลอดออกมาน้ำหนักตัวก็ 2,500 กรัม ชื่อเล่นชื่อน้องแอร์บัส ชื่อจริงชื่อ อาณาจัก วรธรรม”

“จริงแล้วที่ผมอยากให้เขาผ่าเพราะผมไม่อยากให้เขาปวดนาน เห็นเพื่อนๆ เขาคุยกันว่าบางคนปวดคืนวันอาทิตย์ไปคลอดตี1 ตี2 ของวันจันทร์มันก็ทรมานก็ฝ่าๆ ไปดีกว่ามันก็จบ”

“ตอนนั้นมันจำอะไรไม่ได้ ทำอะไรไม่ถูกคือออกจากบ้านมาเขาปวดท้องตอน 5 ทุ่มตอนนั้นผมหลับไปแล้วแล้วเขาปลุกก็ไม่รู้ทำอะไรไม่ถูก มาทั้งกางเกงขาสั้นเสื้อยืดก็ไม่ได้เอาอะไรมาเลย ไม่ได้เตรียมอะไรเลย กล้องที่เตรียมไว้ว่าจะเอามาถ่ายตอนคลอดก็ไม่ได้เตรียมเพราะไม่ได้ชาร์ตแบตไว้ วินาทีที่เห็นหน้าลูกตรมความรู้สึกขอคุณพ่อเรายืนอยู่ห่างจากคุณหมอซึ่งคุณหมอ ตอนที่คุณหมอเขาหยิบขาดึงขึ้นมาจากชองท้องเราก็แบบว่าน้ำตาร่วงตามแบบฉบับของคนเป็นพ่อ เห็นหน้าลูกครั้งแรกหลังจากที่เขาอยู่ในท้องมานานพอเราเห็นแล้วก็รู้เราเรานะ ก็ปลื้มปิติ ”

เก๋ “ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นบอกไม่ถูก มันมีความรู้สึกอะไรหลายอย่างสมกับที่เรารอคอย ก็รู้สึกตื่นเต้น รู้ว่าโห้ย แม่กว่าจะเลี้ยงเรามา ปู่ย่าก็เห่อ อุ้ยหลานหน้าเหมือนใครทำไมผมบางอย่างนี้ (หัวเราะ)”

โอ “หน้าเหมือนคุณปู่ เหมือนพ่อแรม ไม่รู้เป็นเพราะว่าผมยังไม่ขึ้นรึเปล่า ตอนที่เห็นหน้าเขาเต็มๆ รู้สึกว่าหน้าผากเขาสูงมากเลย (หัวเราะ) ก็จมูกโด่ง ขาว ทุกวันนี้ผมก็ยังไม่ได้อุ้มเขาเลยเพราะว่าผมเป็นหวัดนิดๆ เวลาไปเยี่ยมลูกก็ได้อยู่แค่ตรงหน้ากระจกข้างนอกเท่านั้นเอง สุขภาพเขาก็แข็งแรงดีตั้งแต่คลอดก็ไม่ได้อยู่ในตู้อบ แต่ตอนนี้ที่อยู่ในตู้อบเพราะว่าช่วงนี้อากาศไม่ค่อยดี ไวรัสเชื้อโรคมันเยอะคุณหมอกับพยาบาลเขาก็พยายามไม่ให้ออกจากห้องเนิร์สเซอร์รี่เลยหรือว่าใครที่มาเยี่ยมก็จะแค่เปิดม่านให้ด่านกระจกเท่านั้น”

วางแผนการเลี้ยงลูกให้กินนมแม่จนครบกำหนด บอกเชี่ยวชาญการเลี้ยงเด็กแล้วจากการเลี้ยงลูกของเพื่อน เรื่องอนาคตของลูกก็ไม่ได้วางแผนไว้คงปล่อยตามเขาใจเด็ก ส่วนทางคุณแม่หลังจากให้นทลูกครบกำหนดแล้วก็จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม
โอ “เท่าที่คุยกับคุณหมอก็คือจะให้กินนมแม่จนกว่าคุณแม่จะหมดนม หลังจากนั้นก็คงจะให้ทานนมชงก็ไม่ทราบว่าจะแพ้คมวัวรึเปล่าเพราะปัจจุบันเด็กอัตราในการแพ้นมวัวสูงมากสำหรับเด็กทารก ถ้าไม่แพ้นมวัวก็คงให้กินนามวัวต่อไป ก็คงจะเตรียมอาหารเสริมต่างๆ ตามไปด้วย พี่เลี้ยงต่างๆ เราก็เตรียมเอาไว้หมดแล้วล่วงหน้าเดือนนึง ข้าวของเครื่องใช้เองก็เตรียมไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนเหมือนกัน แต่ว่าส่วนมากบางอย่างก็แทบไม่ต้องซื้อหาเพราะว่าเราก็มีเพื่อนฝูงที่มีคอบครัวก็มีลูกกันเกือบทุกบ้านแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็จะได้มรดกตกทอดเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นเปล รถเข็น”

“ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากเพราะว่าผมเองก็เคยเลี้ยงลูกเพื่อนมา คือผมเลี้ยงมาตลอดตั้งแต่ลูกเขาคลอดจนตอนนี้ปัจจุบันเราก็ยังเลี้ยงเขาอยู่จนถึงทุกวันที่ขวบนึงแล้ว ซึ่งการเลี้ยงเด็กก็ถือว่าถนัดไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการอุ้ม การเล่นผมก็คิดว่าไม่น่าจะพลาด เพราะเรารู้จังหวะ”

“เรื่องอนาคตของเขาก็คงตามใจเขาว่าเขาอยากจะทำอยากจะเป็นอะไร ก็ต้องดูว่าพฤติกรรมของเด็กชอบอะไร เด็กชอบที่จะเล่นของที่เป็นหุ่นยนต์ การคิดวิวัฒนาการของเขาก็จะเป็นเรื่องของวิศวกร ถ้าชอบเล่นเกี่ยวกับรถไถรถตักโตขึ้นก็คงเป็นกรรมกร ชอบจับเล่นสัตว์ก็อาจจะเป็นหมอเป็นอะไรก็แล้วแต่เขา ไม่ได้คิดว่าลูกโตมาแล้วจะเป็นหมอ ให้เป็นตำรวจ ให้เป็นนักบิน ถ้าเขาอยากเป็นดาราก็ให้เป็นถ้าเขาโตมาแล้วหน้าตาดี เขาชอบก็ให้เขาเป็น ส่วนเก๋เขาบอกเองว่าหลังจากให้นมหมดแล้วเขาก็จะขอทำงาน เขาไม่อยากอยู่เฉยๆ”

เก๋ “อยู่เฉยๆ ก็เบื่อ ก็ว่าจะไปทำบัญชีเพราะว่าเก๋จบบัญชีมาก”

เจ้าตัวยังแย้มอีกว่าจะลดละเที่ยวไม่กลับไปใช้ชีวิตเหมือนเก่าแล้ว
โอ “ก็คงลด ละ แต่คงไม่เลิกคือมันก็จะต้องมีบ้าง ไอ้เลิกเที่ยวคงเลิกอยู่แล้วเพราะเราก็เลิกมาพักนึงแล้ว คือเราไม่ได้เที่ยวเหมือนสมัยก่อนแล้ว มาตอนหลังมันก็ไม่ได้เที่ยวเท่าไหร่เพราะเพื่อนๆ ชอบมาอยู่ที่บ้านกัน แต่ว่ามันก็คงจะต้องมีบ้างสำหรับการสังสรรค์ในบรรดากลุ่มเพื่อนฝูงแต่ให้ไปเที่ยวหัวลาน้ำเมากลับตี5คงไม่มีแล้ว จริงๆ ผมก็ไม่ได้ทำอย่างนั้นมานานแล้ว”

สำหรับทายาทคนต่อไปทั้งคู่บอกว่ายังไม่พร้อม แต่ถ้าจะมีจริงๆ ก็คงไม่เกิน 3 ปีนี้จะได้อายุไล่เลี่ยกัน ฝันอยากได้ลูกสาว
เก๋ “ยังก่อน ยังไม่พร้อมเลยค่ะ”

โอ “ยังก่อน คือว่าต้องดูเศรษฐกิจด้วย เพราะว่าอาชีพอย่างของเราเองมันก็ไม่แน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีถ้าเกิดเราเผลอไม่ได้วางแผนอนาคตแล้วไปมี 2-3 คน ถ้ามันมีอะไรล้มก็คงจะอดกินทั้งแม่ทั้งลูก”

“คือถ้าอยากจะมีจริงๆ ไม่อยากจะให้ลูกห่างกันเกิน 3 ปีเพราะเดี่ยวไม่งั้นเขาจะไปกันไม่ได้ คุยกันไม่รู้เรื่อง ไม่เล่นกัน ตอนนี้ก็มีลูกชายแล้วก็อยากจะได้ลูกสาว อยากมีน้องสาวให้เขาเพราะว่ามีพี่ชายในการดูแลน้องแล้ว ถ้ามีน้องก็อยากจะได้น้องผู้หญิงจะได้ดูแลน้องสาว แต่ถ้ามีผู้ชายคู่กันสงสัยโตขึ้นจะเอาไม่อยู่ ถ้าจะมีอีกก็คงเอาแค่ 2 คนพอครับ”





กำลังโหลดความคิดเห็น