“อดีตแม่ยาย” บุกงานบวช “ริว อาทิตย์” ชี้หน้าด่ากราดว่า “ตอแหล” บอกจะจ่ายค่าเลี้ยงดูก็ไม่จ่าย ขอ 10 ล้านแต่จะให้แสนเดียว แฉก่อนจะบวชริวโทร.มาด่าเลยทนไม่ไหวนั่งมอเตอร์ไซค์ตามมาด่าถึงวัด สุดทนอดีตลูกเขยเล่นละคร ด้านริวกับแม่ร่ำไห้บอกเป็นเรื่องเข้าใจผิด
หลังจากที่ไปแฉในรายการไนน์เอนเตอร์เทน เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จนกลายเป็นข่าวใหญ่โต ล่าสุด “สุภาพร อัศวกิตติเมธิน” อดีตแม่ยายของ “ริว อาทิตย์ ตั้งสวัสดิ์รัตน์” ก็สร้างความฮือฮาอีกครั้งด้วยการบุกไปที่วัดเบญจมบพิตร ถล่มงานบวชริว จวกแหลกว่าเป็นคนตอแหล ชอบเล่นละคร เหตุเกิดตอนเวลา 08.00 น.ขณะที่กำลังทำพิธีปลงผม จู่ๆ ก็มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนมาว่า
“งานบวชดาราเหรอ อยากจะขอดูหน้าหน่อยซิ” และทันทีผู้สื่อข่าวหันไปดูก็พบว่าเป็นอดีตแม่ยายของริวนั่นเอง
จากนั้นอดีตแม่ยายก็เปิดฉากด่าทอว่า วันนี้จะขอเป็นมารผจญผ้าเหลือง เพราะทนไม่ไหวที่ริวโทร.มาด่าและท้าทาย สับแหลกว่าตอแหลเสแสร้งเป็นคนดี พร้อมกับบ่นว่าที่ผ่านมาทนทุกข์ทรมานแค่ไหนที่จะต้องเลี้ยงลูกให้ริว แต่สุดท้ายก็ยังมาหลอกกันอีก พอพูดจบอดีตแม่ยายก็ตรงเข้ามาลากแขนหลานซึ่งเป็นลูกชายคนโตของริวให้มายืนอยู่ฝั่งตน จนหลานร้องลั่นว่า “อาม่า อย่าๆ” ด้านญาติๆ ของริวก็เข้ามาห้ามปราม แต่สุดท้ายก็เจออดีตแม่ยายด่ากราดว่า อย่ามายุ่ง เป็นเรื่องระหว่างตนกับริว ทำเอาแม่ของริวร้องห่มร้องไห้ ญาติพี่น้องต้องคอยปลอบอยู่ตลอด
“ไม่ต้องมายุ่ง กับฉัน เป็นเรื่องของฉันกับมัน ใครไม่เกี่ยวอย่ามายุ่ง อย่ามาเสือกไม่ใช่เรื่องของคุณ ฉันนะอุตส่าห์ให้อภัยมันตั้งแต่มันออกทีวี ทุกอย่าง แต่มันก็ยังมากวนฉัน ยังมาท้าฉัน ฉันนะทนทุกข์ทรมานมานานกี่ปี มันยังมาหลอกฉันนาทีสุดท้ายอีก มันยังมาตอแหลกับฉันวันนี้ หลานฉันไม่ต้องมีพ่อก็ได้ มีคนเลี้ยงเขาไม่ต้องห่วง ฉันอุตส่าห์จะไม่มาแล้ว มันท้าฉันทุกอย่าง มันนึกว่าฉันไม่แน่จริง แกบวชไม่สำเร็จแน่วันนี้ ใครจะด่าอย่าไรก็ได้ฉันไม่มายด์ ฉันเลี้ยงลูกคนมันมาสองคน กูเหนื่อยไหม น้องเภาไปแอดมิดที่โรงพยาบาล กว่ามันจะโอนเงินให้ฉันเนี่ยเป็นเดือน ให้กูสำรองไปก่อน แกนะไม่มีความสุขหรอกกับการครองผ้าเหลือง เพราะแกตอแหล”
“เมื่ออาทิตย์ก่อน มันนัดฉันให้ไปดูรถที่โชว์รูม จะซื้อรถให้ลูก ไอ้เราก็เออ ซื้อให้ลูกแกนะ ไม่ใช่ซื้อให้เราพอไปถึงโชว์รูมรถ ริวบอกว่า มาม๊าอย่าไปเอาเลยอัลติสมันคันละล้านกว่า เอาไอ้คันเล็กๆ 5-6 แสน ไอ้เราก็หยวนๆเพื่ออนาคตภายหน้าของหลาน พอถึงวันที่จะไปออกรถ มาอีกแล้วลูกเล่น ริวบอกไม่พร้อมอย่างนู้นอย่างนี้ เอาเป็นว่าให้ฉันไปดูรถยูสคาร์ เราก็เออไปก็ไปตระเวนดูรถพร้อมกับลูกชายทั้งสองคน สุดท้ายมาบอกกับเราว่า เรื่องรถริวยังไม่พร้อมเอาไว้ก่อนได้ไหม ฉันก็โมโหเลยบอกเขาไปว่า งั้นแกเอามาให้ฉัน 2 หมื่นแล้วก็จบ เพราะฉันก็ขี้เกียจไปยุ่งกับเขา ฉันเหนื่อยมาก”
“สุดท้ายเขาก็บอกว่า จะเอาตอนนี้เลยเหรอ ตอนนี้ริวไม่มี ฉันก็เลยบอกว่า ไม่มีไม่ได้ จากแสนหนึ่งจะเอาแค่ 2 หมื่น ต้องเอาให้ได้ ฉันก็ถามว่า แกอยู่ไหนเดี๋ยวฉันไปหา เขาบอกอยู่รพ.พระรามเก้า ไปถึงฉันก็ถามถึงเอกสารการศึกษาของหลาน ฉันขอไปตั้งแต่เดือนที่แล้วก็ยังไม่เอามาให้แต่ถือเงินสองหมื่น เขาก็โยนมาให้ แล้วบอกว่า ช่วยได้แค่นี้ เรื่องเงิน 10 ล้าน เขาบอกว่า ถ้าชาตินี้หาได้เมื่อไรเขาก็จะเอามาให้ แต่ก็ไม่รู้ว่าฉันตายหรือแกตายก่อน แต่ฉันว่าแกตายก่อน”
“เมื่อสามเดือนที่แล้ว น้องเภาป่วยนอนแอดมิทอยู่โรงพยาบาล 7 วัน เพราะทอนซิลอักเสบ ค่าใช้จ่ายประมาณ 2 หมื่นกว่า มาม๊าก็โทรไปหาริว แล้วริวก็บอกว่าจะจ่ายให้ แต่น้องเภาต้องออกจากรพ.แล้ว เราก็โทร.ไปหาริวอีก ถามว่าตกลงจะเอายังไง ริวก็บอกให้ มาม๊าสำรองเงินจ่ายไปก่อน แล้วริวจะโอนให้ทีหลัง กว่าจะโอนมาได้ก็เกือบเที่ยงคืน สุดท้ายเราก็ต้องสำรองค่าใช้จ่ายไปก่อน”
“เมื่อคืนนี้ เภาก็ไม่สบายอีกมาม๊าก็บอกกับริวว่า ไหนๆ ริวก็จะบวชแล้วก็จ่ายๆ มา ริวก็ครับๆ เดี๋ยวให้สุกฤษ ขับรถไปรับ แล้วจะให้เงินมาม๊าหมื่นห้า พร้อมเอกสารที่มาม๊าขอ ทะเบียนบ้าน เอกสารของหลานๆ จากนั้นตอน 6 โมงเช้าเขาโทรมาบอกว่า ริวไปรับเองนะ แล้วเขาก็ยืนซองเอกสาร ปิดผนึกในซองมีเงินอยู่แค่ 1 หมื่น แต่สัญญากับเราว่าจะให้หมื่น 5 แล้วก็มีแผ่นซีดีรูปลูกๆ เขาก็เลยรับน้องภีมไป เพื่อจะมางานบวช เราก็เออ ไหนๆ มันก็จะไปบวชแล้ว ก็อโหสิให้มันพอประมาณอีก10 นาที มันก็โทรมาด่าอีก มาม๊าตอแหล ริวถามน้องภีมแล้วน้องเภาไม่ได้แอดมิดซะหน่อย”
“ที่ฉันมาวันนี้ ก็อยากได้สิ่งที่เรียกร้องตั้งแต่แรกทั้งหมด เดือนละ 3 หมื่นที่เคยตกลงกันไว้ ฉันไม่แคร์ ใครจะ หาว่าฉันเป็นคนยังไง ฉันไม่เคยสร้างภาพเหมือนกับมัน มันนะสร้างภาพมาตลอด 7 ปี แต่ปกติแล้วฉันไม่ใช่คนแบบนี้ ฉันยืนยันว่าจะอยู่จนจบงาน ฉันไม่เลิกราง่ายๆ เพราะว่าใครทำให้ครอบครัวฉันเดือนร้อนมันจะต้องอยู่ไม่ได้”
หลังจากนั้น “ริว” ก็ใส่ชุดนาค นำเทียนแพ มาขออโหสิกรรม ซึ่งอดีตแม่ยายก็เปิดฉากซัดต่ออีก
ริว “กรรมอันใดที่ริวได้ล่วงเกินอาม๊า ทั้งในชาตินี้และชาติที่แล้วทั้งวจีกรรม กายกรรม มโนกรรม โดยทุจริต ริวขอขมา และขออโหสิกรรมด้วย”
อดีตแม่ยาย “ฉันอโหสิกรรมให้แก แต่เมื่อเช้าแกด่าฉันทำไมอีก ทำไมแกยังไม่สำนึก จะบวชอยู่แล้ว แกมากวนฉันอีกทำไม ฉันอยากรู้ แกตอแหลตั้งแต่ออกทีวี ฉันก็ยังไม่โกรธ ฉันก็บอกว่าริวเราจบกันนะ แกก็ยังมาบอกว่า มาม๊าเราแสดงละครจบแล้ว ฉันบอกว่า ฉันไม่ได้แสดงละครกับแก ใช่ไหม ( ริวปฎิเสธด้วยสีหน้านิ่งเฉย) ไม่เคยพูดนะ โอ้โห เวรกรรม โอเคฉันตอแหล ริวไม่ได้ตอแหล ความแค้นที่เธอมี แต่ความแค้นฉันมีมากกว่าหลายเท่า มานี่ภีมมาหาอาม่า
หลังจากนั้นอาม่าก็คว้าตัวภีมมานั่งตัก ภีมบอกปะป๋าเขาสิว่า อย่ามาตอแหลกับอาม่า น้องภีมพูดออกไปด้วยความไร้เดียงสา “ปะป๋าอย่าตอแหลกับอาม่านะครับ” เมื่อได้ยินลูกชายพูดประโยคนี้ ริวถึงกับหน้าถอดสี ซึ่งก็ทำให้ผู้เป็นยายถึงกับขำก๊าก ก่อนจะพูดตบท้ายว่า “วันนี้นะถ้าฉันกลับไปบ้านแล้วความดันขึ้น แล้วตาย ฉันก็ไม่เสียดายชีวิต”
หลังจากปล่อยให้อดีตแม่ยายเล่นงานชุดใหญ่ “ริว” ก็ออกมาเผยทั้งน้ำตา ถึงเรื่องที่อดีตแม่ยายบุกด่า กลางงานบวช ว่าเป็นแค่การเข้าใจผิด แต่ไม่ท้อ จะอยู่ให้ครบ 15 วัน เผยได้ฉายา “อาภากโร” หมายถึง ผู้ให้แสงสว่าง”
“ริวอยากจะขออโหสิกรรมประชาชน กรรมอันใดที่ได้ก่อในชาตินี้และชาติที่แล้ว ทั้งกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม อันทุจริต ริวขออโหสิกรรมทุกท่าน(ร้องไห้) ริวขอให้ทุกท่านขออโหสิกรรมให้ริวด้วย ที่มาม๊า มาด่าผมในวันนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ผมไม่โกรธเขาครับที่มาด่าผม ผมรักเขา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ความตั้งใจบวชของผมลดลง ผมตั้งใจว่าจะบวชอย่างน้อย 15 วัน อาจจะไปจำวัดที่ต่างจังหวัดด้วย เพราะแม่ผมรอมาตั้ง 25 ปี ”
ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์เสร็จ ริวก็ได้เข้าพิธีบวช แต่อดีตแม่ยายยังไม่กลับ ตามเข้าไปในโบสถ์และในขณะที่ทำพิธีก็ยังได้พูดจาเสียดสีหนุ่มริวตลอดเวลา จนเสร็จสิ้นพิธีจึงเดินทางกลับไปในที่สุด