“โย” แท็กทีมเพื่อนนางแบบ เปิดโปงหลังถูกยกเลิกงาน “PHUKET INTERNATION FASHIONWEEK 2009” ฟ้าผ่า เผยทราบล่วงหน้าแค่ 2 วัน ทำสูญเสียรายได้กว่า 6 หลัก ยัน ไม่คิดฟ้องเพราะเป็นผู้น้อย แต่อยากจะขอความเห็นใจ เตรียมทำหนังสือร้องเรียนททท. ช่วยเหลือรายได้ส่วนที่ควรได้ครึ่งนึง ด้านเจ้าของห้องเสื้อดัง “คูลิต้า” ช็อคกับเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ไม่คิดติดใจเอาความ แม้ทางฝ่ายผู้จัดจะขู่ว่า รู้จักคนใหญ่คนโตเยอะ ทำให้ตนไม่อยากมีปัญหาด้วย
ทำป่วนไปทั่ววงการแคทวอร์คเมื่อจู่ๆ งาน “PHUKET INTERNATION FASHIONWEEK 2009” ที่จะมีขึ้นอย่างสวยหรูตั้งแต่วันที่ 24-30 มิ.ย. กลับมีการแคนเซิลการจ้างงานนางแบบชื่อดังของไทยอย่างกะทันหัน ไม่ว่าจะเป็น “โย ยศวดี, เข็ม รุจิรา, มาวิน ทวีผล, มาร์ค มาร์คุช, เดือน นิวัตรา ขำแก้ว” ซึ่งทำให้ทั้งหมดต้องสูญเสียรายได้มหาศาล ที่ต้องปฏิเสธงานที่อื่น เพื่อมารับงานนี้ รวมไปถึง “กุ้ง ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงษ์” เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังอย่าง “คูนิต้า” (KUNITA) เอง ก็ได้รับความเสียหายยับเยินเช่นกัน เนื่องจากทางเจ้าของงานไม่ว่าจ้างนางแบบเซ็ตที่จะต้องเดินในชุดของทางร้าน ซ้ำยังไม่ยืนยันการไปร่วมงานในครั้งนี้ให้ชัดเจน ทั้งๆ ที่ได้เตรียมชุดเพื่องานนี้ไว้แล้วกว่า 60 ชุด
ซึ่งกับเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้สาวโยต้องเป็นแกนนำในการแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องในความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยมี “เดือน นิวัตรา” และเจ้าของห้องเสื้อผู้เสียหายมาร่วมด้วย ทั้งนี้สาว “ออแกน ราศี” เพื่อนนางแบบที่ถึงไม้จะไม่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ถูกยกเลิกงาน แต่เป็นพยานได้ว่ามีการว่าจ้างจริงๆ มาร่วมเรียกร้องในครั้งนี้ด้วย
โย “ก็คือเราได้รับการติดต่อจากบริษัทนี้เมื่อประมาณเดือนที่แล้ว คือเรามาเดินแถลงข่าวให้เขาที่พารากอน หลังจากนั้นก็มีมาการบุ๊คต่อ คืองานมันจะมีตั้งแต่วันที่ 24-30 ก็คือพวกเรา 7-8 คนก็ได้โดนล็อคทุกวันตกลงกันว่าจะจ่ายวันละเท่านี้ ทำงานทั้งหมดจนถึงวันที่30เลย เราก็โอเคเคลียร์งานจนได้รับการคอนเฟิร์มแน่นอน ว่าคอนเฟิร์มไปแน่นอน เราทุกคนก็เคลียร์งานหมดจนมาถึงเมื่อวันเสาร์กับอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ได้รับการโทรมาบอกง่ายๆเลยว่าสรุปว่าไม่ได้ไปกันแล้ว แล้วเราก็บอกว่าไม่ได้ไปกันแล้วหมายความว่าเราไม่ได้ไปหรือว่าทีมงานล้ม เขาก็บอกว่านางแบบนางคนโดนแคนเซิลเราก็โอเคบางคนตรงนี้คือใครบ้าง ตอนก็กลับกลายเป็นว่าทุกคนเลยที่ล็อคไปคือนางแบบไทยทั้งหมด”
ออร์แกน “ส่วนของออร์แกนคือเขาเคยโทรมาเช็ค คือแกนเดินแถลงข่าวด้วย ตอนนั้นเขาโทรมาเช็คขอ 7 วัน เราก็มีปัญหาตรงที่ว่าไม่เคลียร์สักทีว่าจะยังไงเพราะของแกนเดินได้แค่ 4 วัน คือแกนต้องมีบินไปเมืองนอก แล้วพอดีกลับมาสรุปเขาก็ไม่คอนเฟิร์มแกนสักทีจนมารู้จากเพื่อนว่าคนที่ไป 7 วันไม่ได้เขาก็ไม่เอา แต่จริงๆ แล้วของแกนโดนแคนเซิลไปตั้งนานแล้ว”
เดือน “ของเดือนจะเหมือนโยก็คือจองไว้แล้ว 7 วันคอนเฟิร์มไว้เรียบร้อยว่าวันนี้ถึงวันที่ได้เงินเท่านี้ๆ แล้วอยู่ดีๆ ก็มาแคนเซิล”
โย “คือจริงๆ ผลกระทบตรงนี้ง่ายๆ เลยคือเราขาดรายได้ในช่วงเศรษฐกิจที่มันเป็นแบบนี้ แล้วการที่ล็อคงานระยะยาวมันเป็นไปไม่ได้ที่จะโทรมาบอกกันล่วงหน้าแค่ 2 วันว่างานไม่จัดแล้วหรือว่ามันแคนเซิลนางแบบ มันต้องมีการชดใช้ คือเราเชื่อใจเขาเพราะเราก็เพิ่งจะแถลงข่าวให้เขาเสร็จแล้วเราก็คิดว่ามันไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากว่าเราก็เจอตัวทั้งผู้จัดแล้วก็ตัวเจ้าของออกาไนซ์ในวันแถลงข่าวด้วย คนที่ติดต่อมาชื่อคุณต้นกับคุณอู๊ดซึ่งจะเหมือนกับว่าเป็นตัวกลางระหว่างออกาไนซ์ที่ติดต่อผ่านมาอีก”
“ตอนที่เขาโทรมาแคนเซิลเขาหัวเราะด้วยซ้ำ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เป็นเรื่องแบบว่าอยู่ดีๆ ก็ไม่ได้ไป เราก็เลยบอกไปว่าถ้าอย่างนั้นก็ชดใช้เรามานิดนึง พี่ 7 วันรายได้เรามันหายไปค่อนข้างเยอะ”
เดือน “เขามาพูดทำนองว่าเขาไม่ใช่นางแบบไทยแล้วเขาจะใช้นางแบบฝรั่ง เพราะจริงๆ แล้วงานในกรุงเทพฯเราก็ยังมีอยู่แต่ว่าเราไม่ได้รับ เราก็ไปรับทางโน่น”
โย “ทุกครั้งที่โทรไปหาเขาก็จะบอกว่าพี่ชัวร์นะ ตอนนี้มีงานที่กรุงเทพฯมาเขาก็บอกว่าน้องมันคอนเฟิร์มแล้วยังไงก็ต้องล๊อคไว้ 7 วันเราก็โอเคคำพูดนี้มันยืนยันได้ พอมาแบบนี้แล้วเขาพูดว่าเขาคงไม่ชดใช้ คำที่เขาว่าไม่ชดใช้เพราะฉะนั้นเราก็เอ๊ะ เราก็เลยมาจับกลุ่มกันว่าแล้วเราจะทำยังไงดี ไอ้ฟ้องร้องเราไม่คิดหรอกค่ะ จะเอาปัญญาที่ไหนไปฟ้องร้องเขา(หัวเราะ) แต่อยากจะขอความเห็นใจมากกว่า ว่าจะช่วยอะไรเราได้บ้าง นี่เขาทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เงียบหายไปไม่มีอะไรใดๆทั้งสิ้นก็อยากให้เขาคิดนิดนึงว่าเราอยู่ตรงนี้เดือดร้อนมากเหมือนกัน”
ด้านโยรับถึงขั้นโทรไปเคลียร์กับผู้จัดเองโดยตรง แต่ทางผู้จัดงานก็ปฏิเสธว่าไม่ทราบเรื่องการล็อคนางแบบแต่อย่างใด ช็อคออแกไนซ์เล่นแรง ย้อนศรกลับมาเชิญเพื่อนนางแบบในกลุ่มบางคนไปร่วมงานครั้งนี้ด้วย ในเรตอัตราจ้างที่ต่ำ บอกด้านนางแบบไม่ได้มีปัญหาแต่ในส่วนของทีมออแกไนซ์ที่มีปัญหา
โย “โยยอมรับว่าโยเป็นคนเดียวนะค่ะที่ได้โทรไปคุยกับเจ้าของออแกไนซ์คนนี้ แล้วก็ได้รับการตอบรับมาที่ค่อนข้างตกใจ เพราะเขาพูดเหมือนเขาไม่แคร์เลย แล้วเขาก็บอกว่าเขาไม่เคยรู้เรื่องว่ามีการล็อคนางแบบไทยคนไหนใดๆ ทั้งสิ้น เราก็บอกพี่ไม่ทราบจริงๆ เหรอ ถ้าพี่ไม่ทราบแล้วคนกลางเขาจะมาสามารถคอนเฟิร์มเราได้ยังไง แต่พอมีถึง ณ วินาทีนี้เขาก็ยืนกรานว่าเขาล็อคแต่ฝรั่ง กับนางแบบไทยแค่คนสองคน จนถึง ณ วินาทีนั้นเราก็เลยมารวมตัวกันว่าจะทำยังไง ท้ายที่สุดก็อยากจะขอความเห็นใจเขา ทำแบบนี้เราก็ไม่ได้อะไรเรามีแต่เสียกับเสีย”
“ส่วนคนที่เคยเป็นคนกลางยอมรับว่าหายไปหมดเลย นอกจากหายไปแล้วหลังจากที่โยคุยกับเจ้าของออแกไนซ์แล้วยังมีการย้อนศรโยแบบรุนแรงมาก คือโทรเรียกนางแบบที่อยู่ในกลุ่มเราที่เขาแคนเซิลไปแล้วตามกลับมาเดิน ในเรตค่าตัวที่ต่ำกว่าเยอะมาก ตอนนี้ลูกหมีก็ไปเดินให้เขาแล้วอันนี้ก็ถือว่าเป็นเหตุผลส่วนตัวเราไม่ก้าวก่าย แล้วก็ไม่ยอมโทรหา คนที่โทรหาเขาด้วยคือเรา ก็รู้สึกว่าเขาทำงานกันยังไงไม่เข้าใจ”
“ก่อนหน้านี้ก็ทราบนะค่ะว่าเขามีปัญหากันอยู่ แต่ในส่วนของนางแบบไม่มีปัญหานะ ในส่วนของออแกไนซ์เปลี่ยนกันหลายมือ แล้วก็สไตลิสต์ต่างๆ ค่อนข้างยุ่งยาก แต่พอมาท้ายที่สุดแล้วเราก็มาทราบว่าคนจัดงานนี้ยังเป็นคนเดิม ซึ่งจริงๆ แปลข่าวมาเยอะมากว่าคนนั้นจัดคนนี้จัดแต่สุดท้ายแล้วเขาก็คือคนที่จัด”
“คือเหมือนกับว่าเจ้าของออแกไนซ์เขาโยนความผิดให้กับคุณอู๊ดกับคุณต้นว่าทำงานโดนพละการ แล้วก็เรียกค่าหัวคิวค่อนข้างเยอะซึ่งตรงนี้โยก็ได้คุยกับสองคนนี้ว่าจริงรึเปล่า เขาถึงไม่ยอมจ้างพวกเรา เขาก็บอกว่าเรียกค่าหัวคิวไปเยอะมาก มันก็เลยตงิดๆ แล้วสรุปว่าคุณรู้หรือคุณไม่รู้ คุณต้องรู้สิว่าเรียกเรามาแล้ว”
และเมื่อถามว่าจะมีการดำเนินเรื่องฟ้องร้องกับทางผู้จัดหรือไหมนั้นทางด้านนางแบบเองก็แท็กทีมปฏิเสธ รับรายได้สูญเกือบ 6 หลัก ซึ่งตอนนี้ตนและเพื่อนนางแบบก็กำลังจะทำเรื่องร้องเรียนไปยังททท. เพื่อขอความเห็นใจช่วยเหลือด้านค่าเสียหายสัก 40 เปอร์เซ็นต์ในส่วนของเงินค่าจ้างทั้งหมด
โย “เราก็คงไม่ทำอะไรต่อ ถ้าเขายังสามารถจัดงานลุล้วงได้ด้วยดีเราก็ยินดีด้วย แต่พวกเราอีกหลายคนยืนอยู่ตรงนี้ไม่มีงานทำใน 7 วันนั้น”
“สำหรับความเสียหายเยอะมาก ก็อยากขอความเห็นใจมากกว่า รายได้ที่หายไปก็เกือบๆ 6 หลัก เผอิญว่ามีพี่ท่านนึงที่ค่อนข้างรู้ในเรื่องนี้พอสมควรก็จะทำจดหมายขึ้นไปที่ททท.ว่าใครที่เดือดร้อนกับงานตรงนี้บ้าง และสามารถที่จะช่วยเหลืออะไรเราได้บ้าง ก็จะมีรายชื่อของโย พี่เดือดและหลายๆ คนอีกแน่นอน ตรงนี้เราก็ไม่ได้ไปเรียกร้องขออะไรมาก คุณไม่จำเป็นต้องมาให้เราเต็มจำนวนแต่มันควรจะมี40-50เปอร์เซ็นต์ของงานที่จ้างเรา แค่นั้นโยว่ามันก็เพียงพอแล้ว ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนเพราะเพิ่งจะคุยกันเดี่ยวยังไงก็ต้องรอลายลักษณ์อักษรจากเราด้วย ก็ยังไงขอให้พอส่งเรื่องไปแล้วทางททท.รับทราบแล้วช่วยเหลือเราบ้าง ถ้าใครคิดว่าให้ความรู้อะไรกับเราได้มากขึ้น ณ ตรงนี้ในสิทธิ์ที่เราควรจะได้ก็ช่วยบอกเราบ้างก็ได้”
ไม่เข็ดบอกหากทางออแกไนซ์รายนี้จ้างงานมาอีกก็ยินดีรับ แต่อาจจะต้องทำสัญญาขึ้นมาเป็นรายลักษณ์อักษร
โย “คงไม่หรอกค่ะโยว่าตรงนี้มันก็คงไม่ใช่แบล็คลิสต์คือโยเองก็ไม่เคยทำงานกับเขาเลย ถือว่านี่เป็นทางแรก อันนี้ก็ไปคิดกันเอาเอง (หัวเราะ) ก็ค่อนข้างกลัวเหมือนกันต่อไปถ้าจะรับงานกับเขาก็คงต้องคุยรายละเอียดดีๆอาจจะมีการทำเป็นหนังสือเซ็นต์รับรอง คือด้วยการทำงานโยบอกตรงๆว่าพวกเรารู้จักทุกคน รู้จักทุกออแกไนซ์ทุกสไตลิสต์ แล้วเราไม่เคยโดนแบบนี้เลย”
“แต่สำหรับงานแฟชั่นครั้งนี้ถ้าติดต่อมาอีกคงไม่ไปเดิน แต่ว่าคงเก็บไว้เป็นประสบการณ์ว่าจะทำงานคราวนี้ก็คงต้องเช็คให้ดีดูให้ละเอียด จริงๆ มันก็สามารถฟ้องร้องได้แต่ว่าเราไม่มีปัญญาไปฟ้องเขาก็คงต้องให้ผู้ใหญ่ช่วยเหลืออีกที”
เผยแม้จะโดนแคนเซิลงานไปแล้วแต่ทางทีมงานก็ยังประชาสัมพันธ์ว่าจะมีนางแบบ-นายแบบทั้ง 7 ไปร่วมงานซึ่งตรงส่วนนี้สาว “โย” และเพื่อนนางแบบก็วอนขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่หลายๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ช่วยจัดการ
โย “ที่ภูเก็ตเองก็มีคนโทรมาบอกว่าแม้กระทั้งทางสื่อวิทยุก็มีการโฆษณาออกไปด้วย ตรงนี้เราก็คงต้องขอความช่วยเหลือถ้ามีผู้ใหญ่ที่อยากช่วยเหลือเรา มาเป็นแบ็คอัพให้เราก็จะดีใจมากในส่วนนี้ เพราะตัวเราเองก็แบบกะจิดริดมากเลย จริงๆ แล้วมันก็มีรายชื่อของพวกเราทั้ง 7 คน บางส่วนก็มีติดต่อกันเองแล้วก็เดินทางไป แต่อย่างพวกโยพี่เดือน ออร์แกนไม่ได้ไปกันแน่นอน อันนี้คอนเฟิร์มว่าในการขายสื่อนั้นไม่ใช่เรื่องจริง”
ส่วนด้านเจ้าของห้องเสื้อดังอย่างคูนิต้า(KUNITA) และเอ้กอีเอ้กเอ้ก(8E88) อย่าง “กุ้ง ศรุดา นิ่มพิทักษ์พงษ์” และสามี “ป้อม ชินชาณ นิ่มพิทักษ์พงษ์” ก็ออกมายอมรับว่าช็อคกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งสร้างความเสียหายกับตนและห้องเสื้อไปไม่น้อย
กุ้ง “คือต้องบอกก่อนว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เอาแรกสุดเลยคือไรวินทร์เป็นคนแนะนำให้รู้จักกับคุณไตรซึ่งเป็นคนจัดงานในครั้งนี้ ก็เลยได้คุยต่อกับทางทีมนี้เขาก็ได้ไปพบที่ร้านแล้วเราก็คุยกัน แต่ถามว่าคูนิต้า กับเอ้กอีเอ้กจำเป็นไหมที่ต้องไปโชว์ที่นู่น จริงๆแล้วไม่ได้สำคัญว่าจะไปไหมแต่ที่ตัดสินใจไปเพราะแฟน เป็นคนภูเก็ต แล้ววันนึงที่เราได้กลับไปทำโชว์ที่บ้านเกิด มันก็น่าจะไปช่วยในเรื่องของการท่องเที่ยวเราก็เลยอยากไป”
“แต่ไม่คิดว่ามันจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น มันเป็นเรื่องที่ช็อคเพราะว่าวันจันทร์ที่ผ่านมา เพิ่งมีแคสติ้งนางแบบที่ออฟฟิศเขาที่อายิโนโมโตะสตูดิโอ กุ้งก็ไปแคสติ้ง ซึ่งก็มีแบรนด์ภูเก็ตเมอร์เมตไปแคสติ้งด้วย แล้วก็มีแบรนด์อื่นๆ ก็เป็นเรื่องปกติที่มันเกิดขึ้น แล้วเราก็ได้ส่งรายชื่อนางแบบทุกอย่างหมด แล้วก็รีเช็คกับทุกคนที่เราเลือกเพราะว่าคูนิต้าแบบค่อนข้างที่จะพิเศษจริงๆ เวลาเราเลือกเราก็จะเลือกคนที่สำคัญๆ หรือเป็นไฮไลท์โดยเฉพาะพลอย เฌอมาลย์ หรือว่าน้องได๋ ไดอาน่า ก็ตาม ซึ่งเป็นไฮไลท์ที่จะทำในงานนี้ที่วางไว้ว่าจะให้เป็นฟิเนเล่ของโชว์ ทุกคน”
“คือได้รับการติดต่อแต่ไม่ได้รับการคอนเฟิร์ม แล้วกุ้งก็ไปต่างประเทศกลับมาวันอาทิตย์ ปรากฏว่าได้รับแมสเสจในบีบี (แบล็คเบอร์รี่) จากโยว่านางแบบไทยทุกคนที่เดินโชว์ของกุ้ง ถูกแคนเซิลหมด ก็เลยโทรไปหาลูกหมี โทรไปหาทุกคนว่าเกิดไรขึ้น ก็ติดต่อเข็มเขาก็บอกว่าไม่ได้รับการคอนเฟิร์ม แล้วอย่างนี้ใครจะไปใส่ชุดเราเดิน ตอนนี้เราคิดเลยว่าแล้วเราจะทำยังไง”
“เราทำชุดขึ้นมาใหม่ 60 ชุด เราจะเอาไปทำอะไรยังไง แล้วคนที่จะมาเดินโชว์เราก็ได้เชิญเซเล็บคนสำคัญคนพิเศษที่เชิญเขาไปเดินเป็นการเฉพาะอีก แล้วเราจะไปตอบเขาว่ายังไง ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แล้วตอนนี้ก็ยังไม่มีการส่งตั๋วหรืออะไรให้กุ้งเลย ซึ่งจริงๆ กุ้งกลับมาวันจันทร์เริ่มทำงานมันน่าจะมีทุกอย่างพร้อมแล้วที่ออฟฟิศกุ้ง ถ้าบอกว่าติดต่อกุ้งไม่ได้เขาก็จะติดต่อเลขากุ้งได้ แล้วร้านเองก็ยังเปิดหรือไม่ว่าทางอินเตอร์เน็ตคือมันติดต่อกันได้อยู่แล้ว ก็ไม่มีการติดต่ออะไรกลับมาเลย เราก็เลยตัดสินใจทางแฟนเป็นคนโทรไปถามว่ายังเรื่องนางแบบ คอนเฟิร์มรึเปล่า ยังมีโชว์อยู่รึเปล่า ก็ได้คำตอบจากคนชื่อปิ่นซึ่งเป็นคนที่ติดต่องานกับเรามาตลอด ซึ่งในตำแหน่งเขาเป็นไวท์เพรสซิเดนท์เขาตอบว่า”
ป้อม “คือวันนั้นโทรไปเราก็ลองถามเขาเกี่ยวกับเรื่องตั๋ว เกี่ยวกับเรื่องนางแบบที่คอนเฟิร์มทั้งหมดว่าเป็นยังไง เขาก็โทรมาบอกว่าตอนนี้ทางเขาไม่มีงบจ้างนางแบบแล้ว ตอนนี้ไม่มีนางแบบไทยเลย เราก็เลยรีเช็คนางแบบว่ามีใครบ้าง เราก็พยายามเอ่ยชื่อๆๆๆ”
กุ้ง “ซึ่งจริงๆ แล้วมันได้มีการคอนเฟิร์มกันตั้งแต่วันที่แคสติ้งเสร็จหมดแล้ว แต่คำพูดคำนึงที่เขาพูดกับคุณป้องว่าเขาไม่มีงบประมาณจ่ายค่านางแบบแล้วยังจะไปโชว์อยู่รึเปล่า แล้วคุณป้อมก็ช็อคก็เลยบอกว่าอย่างนั้นแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วเขาก็หันมาหากุ้งบอกว่าเราจะตอบเขาว่ายังไง เราจะยังไปทำโชว์อยู่รึเปล่า”
“คือกุ้งว่าเขาเก่งมากทีมนี้ คือวิธีการทำงานเขาแปลกดี เขาถามว่ายังจะไปไหมถ้าไม่มีแบบแล้วให้ตอบว่าไปก็คงตอบไม่ได้ เพราะไปแล้วใครจะเดิน คือมันเป็นการกระทำแบบพฤตินัยมากกว่า มันไม่ใช่นิตินัยที่มีการแคนเซิล แต่ ณ วันนี้ไปเปิดหน้าเว็บชื่อคูลนิต้ากับเอ้กอีเอ้กออกไปแล้ว ไม่มีอยู่ในโชว์แล้ว”
“ก็ยังดีที่ทางน้องๆ เราเคยร่วมงานกันหลายครั้งแล้วเขาก็ไม่ว่ากัน เขาก็รักกัน พลอยเขาก็ให้กำลังใจจริงๆ เขาเองก็น่าจะเสียหายเหมือนกัน ได๋เองซึ่งมีงานเยอะมากก็ยอมเสียสละที่จะไปเดินให้กุ้งถึงสองวัน ก็คงรักกันมากขึ้นครั้งหน้าทุกคนก็คงจะมาร่วมใจกันโชว์อยู่เหมือนเดิม”
รับเหตุการณ์ครั้งนี้ห้องเสื้อเสียหายมหาศาลยากที่จะประเมิน บอกชุดที่จัดตรียมไว้สำหรับงานดังกล่าวคงเจ้าตัววางแผนเตรียมไว้สำหรับงานการกุศลให้กับสมาคมนักข่าวต่อไป รับสุดช็อคอีกรอบเมื่อทราบภายหลังว่างานดังกล่าวมีการจำหน่ายบัตรเกิดขึ้นซึ่งตนไม่เคยทราบมาก่อน
กุ้ง “ไม่อยากจะบอกก็คงจะเยอะอย่างปกติถ้าใครได้เป็นลูกค้าคูลนิต้าก็จะทราบ ราคาก็จะตั้งแต่ 8000 บาทขึ้นไป ก็ลองประเมินเอาดูแล้วถ้าใครอยากดูตอนนี้ที่ร้านคูนิต้าชั้น 2 เราปิดเลยเพื่อที่จะเอาของสำหรับไปโชว์ทั้งหมด 2 โชว์ แล้วไม่รู้ว่าจะไปโชว์ที่ไหน บอกเลยว่าจะไปทำการกุศล วันนี้มีนักข่าวมาถามว่าจะแก้ปัญหายังไง เดี๋ยวทำการกุสลแล้วจะเอานักข่าวนี่ล่ะค่ะ ใส่ชุดของเราแล้วเอารายได้ไปช่วยสมาคมนักข่าวอะไรก็ว่ากันเดี๋ยวต้องหาทางออกแล้วก็ต้องสู้ต่อไป”
“ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กับตัวเอง บอกเลยว่าช็อค แล้วเมื่อคืนนี้น้องๆ ทุกคนที่อยู่ในลิสต์นางแบบนายแบบที่จะมาเดิน ต้องขอบคุณพลอยมากๆ เขาโทรศัพท์มาให้กำลังใจเมื่อวานนี้เราแย่มาก เสียใจเพราะเราทำโชว์ทุกครั้งเราตั้งใจมากที่จะทำให้มันเกิดสิ่งดีขึ้น เกิดสิ่งใหม่แล้วเขาบอกญาติหมดแล้วที่ภูเก็ตว่าจะได้ไปทำโชว์ คือทุกคนเตรียมมาดูโชว์”
“ตรงนั้นโดยส่วนตัวเราไม่มายด์เลยกับเรื่องตรงนั้น ที่มายด์คือแฟนๆ ที่อยากดูโชว์ของเราหรือแม้กระทั้งจริงๆ กุ้งได้มีการจองศิลปินเอเอฟไปร่วมเดินด้วย ซึ่งก็ได้คุยกับน้องนัท (นัท ทิวไผ่งาม) เป็นนึงคนที่จะเป็นฮุคในโชว์ เขาก็บอกว่าแล้วผมจะไปเดินให้ใคร แต่น้องเขาก็ยังไปแต่ไม่รู้ว่าจะต้องไปเดินให้กับใคร ซึ่งจริงๆ เขาจะเดินโชว์ให้กุ้ง คนที่เขายังได้ไปเราปล่อยเกาะเขารึเปล่า แม้เราเองก็เหมือนกับไม่รู้ว่าเป็นยังไง แล้วไปแล้วจะเป็นยังไงก็ไม่รู้ แล้วบอกว่าโชว์จะมีพรุ่งนี้แล้ววันนี้ทางออแกไนซ์มาบอกว่าให้ยังไป ไปทันไหมบอกว่าไม่ทันแล้วจริงๆ วันนี้ต้องซ้อมแล้ว วันนี้เราต้องดูโปรดักชั่นทั้งหมดว่าพร้อมไหม”
“แต่เรื่องที่ช็อคอีกอย่างนึงก็คือเพิ่งทราบว่ามีการขายบัตร อันนี้ไม่ได้แจ้งให้เราทราบเลยจริงๆ เรารู้แต่ว่าเรามีแฟชั่นวีคเราก็จะแจกบัตรให้กับลูกค้า แฟชั่นนิสต้าหรือว่าสื่อมวลชน แต่ครั้งนี้มีการจำหน่ายบัตรซึ่งมันก็เป็นอีกเรื่องนึงที่กุ้งซีเรียสว่า แล้วคนที่เขาจองบัตรจะไปดูโชว์เรา แล้วเราไม่ได้ไปเขาจะโกรธเรารึเปล่า ตรงนี้เป็นเรื่องที่เครียด ไอ้ที่ไม่ได้ไปแล้วไม่เป็นไร แต่คนที่ซื้อบัตรกุ้งทราบที่ 5 พันบาท นอกจากจะได้ดูโชว์แล้วยังได้ดูคอนเสิร์ต แต่เขาซื้อบัตรแล้ว แล้วเราไม่ได้ไปทำโชว์ให้เขาดูมันเกิดอะไรขึ้นแล้วก็ไม่ได้มีการคุยว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีการจำหน่ายบัตรจนไปเช็คได้เองที่ไทยทิคเก็ตมาสเตอร์อันนี้ก็ตกใจ คือถ้าไม่ได้เป็นงานการกุศลเราไม่เคยแบบว่าที่จะเก็บเงินในการดูโชว์ของเรามีแต่มีการทำโชว์ขึ้นมาเพื่อที่จะตอบแทนลูกค้า”
ป้อม “คืออันนี้มันมีการขายบัตรมันก็อาจจะมีผลกับคนที่ซื้อบัตรด้วยเหมือนกัน ซึ่งเขาอาจจะได้สัมผัสตรงนี้โดยตรงที่เราไม่ต้องไปทำอะไรเพราะแต่ละคนก็คงจะคาดหวังว่าจะไปเจอคนโน่นคนนี้ เพราะอย่างที่เช็คล่าสุดวันก่อนรูปน้องพลอยยังมีติดอยู่เต็มภูเก็ตอยู่เลย หลายๆ คนยังโปรโมตอยู่เลยว่าต้องไป คือน้องเขาไม่ได้ไปแล้วแต่ยังไปโปรโมต”
กุ้ง “แล้วจะมีใครมาซัพพอร์ทค่าสายหายตรงนั้นไหม สำหรับคนดูที่เขาไม่ได้รู้ว่าเราเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ต้องขอบคุณที่สื่อยังจะช่วยประสานไปบอกว่าวันนี้มันเกิดอะไรขึ้น เราไม่ได้ไปเพราะอะไร”
เผยไม่คิดติดใจเอาความ แม้ทางฝ่ายผู้จัดจะมีการขู่ว่ารู้จักผู้ใหญ่หลายฝ่าย ด้านกุ้งบอกคงไม่กล้าไปมีเรื่องกับเขาหรอก
กุ้ง “ไม่ค่ะ ไม่คิดจะฟ้องไม่คิดจะทำอะไรเลย คิดว่าครั้งนี้มันเป็นบทเรียนชีวิตเพราะเราไม่ได้ไปทำอะไรที่รอบคอบแล้วเราไม่ได้โทษใครโทษตัวเอง ก็อยากจะขอโทษชาวภูเก็ตด้วยที่บอกว่ามีป้ายขึ้นโปรโมตไว้ว่าคูนิต้าจะไปแต่เราไม่ได้ไปเพราะว่ามันผิดเงื่อนไขข้อตกลง แล้วนี่ก็ยังไม่มีตั๋วเครื่องบินส่งมาให้เลยจะไปได้ยังไง ไม่มีอะไรทุกอย่าง แล้วก็ขอโทษทีมงานที่เราติดต่อ ทีมที่จะไปทำโชว์ที่เราติดต่อจ้างที่เป็นฟรีแลนด์แล้วเราต้องยกเลิกเขา อันนี้กุ้งไม่รู้จะขอโทษทุกๆ คนยังไง”
“จริงๆ แล้วเรารู้สึกว่าเราก็ยังอยากจะไป เมื่อวานนี้เราคุยกับเขาว่าเขาเคลียร์ให้เราที่เราจะไปได้ไหม เรายังอยากจะไปอยู่เอานางแบบเรากลับมาสัก 80 เปอร์เซ็นต์ก็ยังดี โดยที่ให้เราติดต่อเองก็ได้แล้วไป แล้วซัพพอร์ทในเรื่องของตั๋วหรือที่พักอะไรให้เราได้ไหม เขาก็บอกว่าโอเคกุ้งก็เลยบอกว่าให้เวลาถึง 4 โมงแล้วกันที่จะคอนเฟิร์มเรา ก็รอจน 5 โมงก็ไม่มีการติดต่อกลับมา กุ้งก็เลยบอกให้คุณป้อมเป็นคนโทรกลับไป เขาบอกว่าเขากำลังประชุมอยู่ที่จังซีลอน เราก็บอกว่าแล้วเรื่องตั๋วยังไงจะได้ไหม คือเขาไม่เคยพูดปฏิเสธ แต่เขาไมได้ทำในสิ่งที่ควรจะทำ เขาบอกว่าอีกไม่เกิน 5 นาทีจะส่งเบอร์แฟกซ์ แล้วให้แฟกซ์รายชื่อคนที่จะไปทั้งหมด กุ้งก็เลยบอกว่ารายชื่อทั้งหมดมันมีอยู่แล้วที่คุณ ซึ่งเราได้ส่งเป็นอีเมล์ให้กันตลอดแล้วจะส่งอีกทำไม แล้วก็ไม่มีการคุยกันอีกเลย ก็จบการคุยกันที่ตรงนั้นเขาก็บอกว่าเขายุ่งๆ จน ณ ตอนนี้เมื่อคืนก็ไม่ได้ปิดโทรศัพท์ เปิดไว้ตลอด 24 ชั่วโมงเพราะว่ารอ คือถ้ามันจบกันได้เมื่อคืนมันก็ยังจะมีโชว์เกิดขึ้น แต่ว่าตอนนี้มันเลทแล้ว”
“ในส่วนตัวมันก็มีคำนึงที่เขาพูดขึ้นมาว่า พี่ครับงานนี้มันเกี่ยวกับรัฐบาลนะ คุณจะไปทำอะไรมาก คุณก็อาจจะเดือดร้อนได้ (เขาขู่รึเปล่า?) ไม่รู้ ไม่อยากจะพูดคำนั้น เขาก็บอกว่าเขารู้จักผู้ใหญ่เยอะ เราก็เลยไม่อยากจะมีปัญหา กุ้งไม่ได้อยากจะมีเรื่องหรือว่าให้มันมีการฟ้องร้องอะไรกัน คือเราไม่เคยคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดกับตัวเอง ถือว่าเป็นบทเรียนสำหรับตัวเอง คิดว่างานนี้เราไม่ได้เสียหายแค่คนเดียว”
“คงไม่กล้าทำอะไรกับเขาแล้วล่ะค่ะ กลัวเขาด้วย (เหมือนโดนขู่?) ไม่เชิงแต่ก็กลัว ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยรู้จักกับเขา คือเรารู้จักผ่านไรวินทร์ คือเราเองก็เคยมีการนัดคุยกันเขาเองก็บอกว่าเขาไม่รู้เพราะเขาก็เป็นคนที่ถูกจ้างมาอีกทีเหมือกัน คือหนึ่งในวันแถลงข่าวมันมีการท่องเที่ยว มียูนิเซฟเราก็รู้สึกว่ามีรัฐบาล เราก็รู้สึกว่ามันคงมั่นคงที่สำคัญตอนนี้ภาคใต้ในฐานะที่แฟนก็เป็นคนภูเก็ตตอนนี้เราต้องช่วยกันมากๆ ตอนนี้เศรษฐกิจมันแย่อยู่แล้ว ถ้าเราเป็นคนที่ไปช่วยอะไรได้ตรงนี้เราก็อยากจะไปทำ กุ้งยังคิดเลยว่าไปครั้งนี้ก็คงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียว แต่ไม่คิดว่ามันจะไม่ได้มีการไปเกิดขึ้น”
ส่วนทางด้านไรวินทร์คนสนิทที่เป็นคนชักชวนให้มาร่วมงานดังกล่าว ทางด้านเจ้าของห้องเสื้อเผยไม่ติดใจเอาความโทษเป็นความผิดของตัวเองที่ไม่รอบคอบ
“ก็ได้คุยค่ะ คุยกันบ้าง เขาก็ถามว่าพี่จะเอายังไง เราก็ตอบไปว่าเราก็ไม่รู้จะเอายังไง พี่ก็ไม่โทษใคร พี่ไม่โทษใครเลย โทษที่ว่าเราไม่รอบคอบ”
