xs
xsm
sm
md
lg

“เพชร” เสียใจพ่อหาว่าบ้า เผย ยอมตรวจแต่พ่อต้องตรวจด้วย เปรยอยากเปลี่ยนนามสกุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เพชร” เสียใจ “ไกรสร” อ้างหมอหาว่าตนบ้า ถามกลับทำเพื่ออะไร เจ้าตัวสวน จิตปกติดี แต่ถ้าอยากให้ตรวจก็ได้ แต่พ่อต้องตรวจด้วย บอก ยังไม่อยากปักใจเชื่อว่าพ่อทำไปเพราะหวังฮุบมรดก ส่วนเรื่องที่พ่อให้สัมภาษณ์ว่า มีอะไรกันกับผู้หญิงให้เห็นตั้งแต่เด็กๆ นั้น เป็นความจริง เปรย อยากเปลี่ยนนามสกุลไปใช้ของแม่

หลังจาก “ไกรสร แสงอนันต์” ออกมาเดินหน้าฟ้อง “เพชร สรภพ ลีละเมฆินทร์” ลูกชายคนเดียวเต็มสูบ ในข้อหาหมิ่นประมาทฐานกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ กรณีไม่พอใจที่เพชรให้สัมภาษณ์ว่า สาเหตุที่ไม่สามารถอยู่กับพ่อได้ เป็นเพราะถูกพ่อกระทำมาตั้งแต่อายุ 12 แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องอะไร เนื่องจากบอกไปสังคมก็รับไม่ได้ เป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้คนรังเกียจ ซึ่งการให้สัมภาษณ์แบบนั้น รวมไปถึงการแสดงออกต่างๆ ที่ดูก้าวร้าวไม่เหมือนคนเดิม ส่งผลให้ไกรสรคิดว่าลูกชายจิตไม่ปกติ ถึงกับลุกขึ้นมาฟ้องเอาเรื่องลูกตัวเอง จนกลายเป็นประเด็นที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงเป็นอย่างมาก

โดยเมื่อช่วงเช้าของวันนี้(22 มิ.ย.) ทางฝ่ายของ “ไกรสร” ก็ได้เปิดแถลงข่าวขึ้นที่ โรงแรมเชียงใหม่รัตนโกสินทร์ จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อชี้แจงถึงการฟ้องลูกชายสุดที่รัก โดยเจ้าตัวอ้างว่า เป็นเพราะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ว่าพฤติกรรมของเพชร ที่แสดงออกมามีความเป็นไปได้สูง ว่ามีความผิดปกติทางจิต และควรจะได้รับการรักษาโดยเร็ว เป็นเหตุให้ต้องฟ้องดำเนินคดีกับลูกชายตัวเอง เพื่อหวังอาศัยกระบวนการยุติธรรม ในการนำตัวเพชรเข้าสู่ขั้นตอนการพิสูจน์ และรักษาทางการแพทย์ เพื่อให้ได้ลูกชายคนเดิมกลับคืนมาเท่านั้นเอง พร้อมยืนยันไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงอื่นใด

ช่วงบ่ายของวันเดียวกัน เป็นทางด้านของ “เพชร” เดินทางไปออกรายการ “ตีสิบ”  ที่ เซ็นทรัล พระราม2 บ้าง ซึ่งครั้งนี้เพชรเผยว่า อยากให้เป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ ไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอีกต่อไป เนื่องจากเหนื่อยมามากแล้ว ก่อนจะเปิดใจถึงความรู้สึกหลังตกเป็นจำเลย ถูกผู้เป็นพ่อฟ้องร้องดำเนินคดี

โดยขอเคลียร์ก่อนว่าไม่ได้เดินสายออกรายการ เพื่อตอบโต้เอาคืนพ่อ บอกตั้งแต่มีเรื่องเพิ่งให้สัมภาษณ์แค่ 3 รายการเท่านั้น และครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่จะออกมาพูด เนื่องจากรู้สึกเหนื่อยและเบื่อเต็มที ที่ต้องคอยตอบคำถาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า ผู้เป็นพ่อจะออกมาพูดอะไร หรือเปิดประเด็นอะไรใหม่อีกหรือเปล่า แต่ถ้าเอาความรู้สึกส่วนตัว เพชรบอกว่าอยากให้เรื่องนี้จบได้แล้ว ก่อนจะพูดติดตลกว่า เอาเวลาไปตั้งชื่อหมีแพนด้ายังจะดีซะกว่า เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมากกว่าเสียอีก

"ผมคิดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ออกมาพูด เพราะว่าผมก็เคยแถลงข่าวไปแล้ว ผมยอมรับเลยว่าผมเบื่อและเสียใจในการที่พ่อเขาออกมาทำแบบนี้ ก็แล้วแต่พ่อเขาสิ่งที่เกิดขึ้นอยากให้มันจบที่ผมแล้วแต่พ่อจะทำอะไรจะแจ้งความ พ่อสบายใจอะไรพ่อทำไปเลยครับ จริงๆผมก็ไม่อยากจะพูดแล้วนะในเรื่องนี้ เพราะผมก็พูดไปแล้วหลายครั้งมีนักข่าวมาถามผมหลายครั้งผมจะไม่ตอบก็ไม่ได้ มันจะดูน่าเกลียดก็เลยอยากจะตอบว่าคำไหนคำนั้นที่ผมแถลงข่าวไปแล้วคำเดิม ผมไม่อยากพูดอะไรแล้วปล่อยแล้วครับ และพี่ถามผมว่าจะเดินสายออกรายการอีกไหม ผมไม่เคยเดินสายออกรายการนะครับ ผมออกรายการแค่ 3 รายการเท่านั้น
 
"ครั้งนี้เป็นเหมือนกับการแถลงข่าวอีกทีหนึ่งแล้วกัน แต่จะครั้งสุดท้ายหรือไม่นั้นผมก็หวังว่าจะไม่มีประเด็นอะไรมาเพิ่มอีกนะ และผมก็ไม่อยากจะตอบแล้วครับ แค่คือถ้าทางญาติๆเขาออกมาพูดอีกผมก็เข้าใจนะครับว่าพวกพี่ๆนักข่าวก็โทรศัพท์หาผม ผมก็คงต้องตอบทุกคำถามแต่ว่าถ้าคำตอบไหนที่ผมขอไม่ตอบผมก็จะบอว่าผมขอไม่ตอบ ผมรับโทรศัพท์ทุกคนแน่นอนครับ ไม่มีการไม่รับแน่นอนอันนั้นไม่ใช่ผม ผมอยากให้ทุกอย่างจบด้วยดีครับต่างคนต่างไม่ต้องอะไรแล้วทำมาหากินดีกว่า มาหาชื่อให้หมีแพนด้าดีกว่า คือทั้งหมดที่ผมพูดไปไม่ขอใช้คำว่าแถลงขอให้คำว่าเปิดใจว่าเป็นครั้งที่สอง ผมเบื่อผมเซ็งและอยากให้ทุกคนจบ ไม่ว่าจะเป็นความลับในครอบครัวเรื่องอะไรก็ตามให้มันจบลงที่ผมก็ได้ ไม่ว่าใครจะว่าอะไรผมก็ขอให้มันจบที่ผม ผมขอไม่ตอบโต้ไม่พูดพาดพิงถึง ใครถามอะไรผมก็ตอบแบบนั้น บางอย่างที่ผมพูดไม่ได้ผมก็ขอไม่พูด"

"ก็อย่างที่เป็นคงไม่ต้องคุยอะไรกันแล้ว เอาเวลาไปสนใจเรื่องหมีแพนด้า เพราะเรื่องหมีแพนด้าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและทุกคนควรภูมิใจผมว่าเอาเรื่องทุกอย่างๆไปสนใจเรื่องหมีแพนด้าดีกว่า หมีแพนด้าน่ารักกว่าเยอะ"

หลังจากพ่อไกรสรออกมาสัมภาษณ์อยากให้ลูกชายได้ตรวจสุขภาพจิตนั้น ยินดีที่จะตรวจแต่พ่อต้องไปตรวจด้วยและขอหมอที่เป็นกลางหมอของพ่อไม่เอา

"ผมอยากจะบอกว่าถ้าผมผิดปกติทางจิตจริง เรื่องที่ผมบวช ผมบวชได้ผมท่องคาถาได้เรียนหนังสือได้ ร้องเพลงได้ ผมพูดตรงๆนะก็เหมือนพ่อว่าวัดที่เอาผมไปบวชนะสิเอาไปบวชได้อย่างไงอย่างนี้เหรอ ก็ให้ทุกคนคิดดูเอาเองแล้วกันว่าผมผิดปกติหรือไม่ผิดปกติถ้าพ่อเขาจะให้ผมตรวจก็ฝากบอกพ่อเขาว่าให้พ่อเขาตรวจด้วยแล้วกัน ผมยินดีที่จะตรวจครับแต่ต้องเป็นหมอที่ต้องเป็นกลางนะไม่ใช่หมอของพ่อ ไปตรวจพร้อมกันทั้งพ่อทั้งลูกก็ได้ครับได้ แต่ผมไม่เข้าใจที่พ่อมาหาว่าผมโรคจิตแต่ผมเข้าใจนะว่าผมโกนหัวแล้วเหมือนซีอุยแต่ผมไม่มีทางตอบไม่จริงแน่ ผมไม่เคยตอบนอกประเด็นผมตอบรู้เรื่องใช่ไหมครับ แต่ถ้าตรวจต้องตรวจที่เป็นกลางนะไม่ใช่ของพ่อที่เดียว ไม่ใช่ที่เชียงใหม่ที่เดียว"

จากที่เพชรออกมาให้สัมภาษณ์และพูดยังไม่เคลียร์ในเรื่องว่าโดนพ่อกระทำการอย่างล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่นั้นเลยทำให้หลายคนมองว่าพ่อเป็นแบบนั้นไปแล้ว บอก ตอนนี้ไม่ขอพูด ถ้ามีหมายเรียกไปศาลถึงจะพูดที่ศาล

"ผมขอไม่พูดดีกว่าครับผมขอไม่พูด แต่ถ้าขึ้นศาลและศาลถามก็คงต้องพูดครับแต่ถ้าเป็นตอนนี้ผมขอไม่ตอบดีกว่า เพราะผมอยากให้จบนะจะได้ไม่ต้องถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลอะไร คือจริงหรือไม่นั้นผมอยากจะให้พวกพี่ๆเอาเทปที่พ่อเขาออกรายการทุกรายการมาดูกันอีกทีว่าแต่ละคำพูดมันตรงกันหรือเปล่า นั้นคือคำตอบที่เขาพูดถึงตัวเองหมดแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ผมก็มีแค่นี้ที่จะพูด และผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะฟ้องผมเรื่องนี้ทำไมเพราะว่าผมก็ไม่ได้พูดก็อยากให้พ่อเขาไปเช็คเทปดูเอาแล้วกันว่าผมพูดหรือเปล่า ไม่รู้ว่าใครยุเขาหรือเปล่า และผมไม่แก้ไขอะไรเพราะว่าผมก็โกหกไม่เป็นนะ จะเกิดอะไรก็เกิดแล้วแต่พ่อแล้วกัน ผมขอไม่พูดดีกว่า"

ทั้งนี้เรื่องมรดกแม่ที่เคยประกาศไว้ว่าจะขอตรวจสอบนั้น เพชรขอเบรกไว้ก่อน แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องตรวจสอบ เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แม้ว่าพ่อจะเคยแง้มไว้ว่าไม่มีเหลือแล้วก็ตาม เพราะตอนนี้ไม่รู้เลยว่าสมบัติที่เหลืออยู่มีอะไรบ้าง แต่เรื่องฟ้องให้เป็นเรื่องขออนาคต เจ้าตัวเผยตั้งแต่ออกจากบ้านไม่เคยเอาเงินพ่อมาใช้ เงินที่ใช้ก็เป็นเงินที่ได้จากการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ต แต่ก็มีที่บางเดือนที่ไม่มีงาน ก็ต้องขอจากบ้านแม่บุญธรรมแม่ของแฟนสาว ซึ่งตั้งแต่มาอยู่ด้วย แม่บุญธรรมก็ให้มาเยอะมาก ทั้งค่าเล่าเรียนทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมๆ แล้วก็เป็นล้านๆ

"ยังครับ ผมแค่พูดเอาไว้ก่อนว่าผมจะตรวจสอบจริงๆ ที่ผมคิดว่าจะตรวจสอบจริงๆผมพูดคำไหนคำนั้นเพราะว่าอยากจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจด้วยว่าผมไม่ได้เอาเงินพ่อมาสักบาทหนึ่งเลย ตั้งแต่ผมออกจากบ้านมาเงินหนึ่งพันกว่าบาทผมเก็บหอมรอมริบไว้เอง ถ้าเกิดมรดกมันไม่อยู่ก็ค่อยว่ากันอีกทีแต่ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรจะมีหรือไม่มีผมไม่ว่าแต่อยากให้ทุกคนรู้เฉยๆว่าผมไม่ได้เอาเงินมา เห็นทางทนายบอกว่าถ้าจะตรวจสอบก็ให้ตรวจสอบทั้งหมดแต่ผมก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรบ้าง ตรวจสอบหมดทุกอย่าง คือผมไม่รู้สักอย่างว่าเหลือไม่เหลือเพราะว่าผมไม่ได้ตรวจสอบ และเท่าที่ทราบก็คือไม่รู้ว่ามีอะไรบ้างที่แม่ให้เพราะไม่มีใครบอกอะไรผมสักอย่างเลยครับ ผมก็อยากจะรู้ด้วยว่าทำไมการที่ผมจะสร้างหุ่นหรืออะไรก็ตามทำไมถึงดูว่าเขาทำไมร้อนจัง ผมอยากรู้ว่าความจริงมันเป็นอย่างไง ก็คงต้องไล่เช็คตั้งแต่ทีแรก แต่ก็ไม่รู้ว่าทนายเขาจะยังไง"

"แต่ผมก็พอที่จะมีงานบ้างแต่ก็ยอมรับว่าบางเดือนผมก็ไม่มีเลยนะ ก็เลี้ยงดูตัวเองบ้าง แต่คุณแม่คุณยายก็เสียทางแม่บุญธรรมนะก็เสียตังค์ให้ผมมาหลายล้านแล้วที่เลี้ยงดูผม แต่มีทนายหลายคนเขาบอกว่าพ่อเขาไม่มีทางจะทำอะไรแล้ว เลยทำให้เป็นเหมือนไร้ความสามารถเพื่อบีบให้ทางศาลให้พ่อเป็นผู้จัดการมรดกแต่ก็ไม่รู้ว่าพ่อคิดยังไง ผมก็มีคิดแต่ต้องพิสูจน์ครับเพราะว่าผมไม่เชื่ออะไรใครง่ายๆแน่นอนครับ เวลานี้ก็ต้องตรวจสอบดูว่าพ่อเขาเอาไปทำอะไรเยอะแยะเพราะว่าตอนนั้นแม่ผึ้งก็ป่วยอยู่ ผมยอมรับว่าผมโมโหแล้วทำไมแม่ผึ้งบอกว่าไม่มีตังค์รักษา แต่ทำไมหลังจากที่แม่ผึ้งตายทุกคนถึงมาแบ่งมรดกกัน แล้วพ่อบอกว่าผมเปลี่ยนที่เปลี่ยนไปเลิกอบายมุข เรียนดีขึ้น ความจำดีขึ้น นั้นคือสิ่งที่เปลี่ยนไป"

เจ้าตัวเปรยเองว่าเป็นเพราะพ่อพาผู้หญิงมานอนแล้วเห็นทุกอย่างเลยเป็นสาเหตุให้ต้องหนีออกจากบ้าน พร้อมทั้งพูดฝากโอ๊ตคนแบบนี้เหรอจะมาเป็นผู้นำอารยะธรรมของชียงใหม่

"เรื่องนี้พ่อก็ยอมรับออกรายการแล้ว มันก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ไม่ทั้งหมด และต่างคนต่างอยู่ที่พูดหมายถึงอยู่คนละบ้าน ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ด้วยกันก็ได้และเรื่องตัดพ่อตัดลูกผมไม่ได้ตัดขาดนะ แต่ผมยังรักพ่อผมไมได้เคยเกลียดพ่อสักอย่างเลย อีกอย่างผมก็อยู่ในวงการบันเทิงก็คงต้องเจอพ่อน้าๆซึ่งผมก็คงต้องทักทายเป็นปกติ ผมเคารพความเป็นพ่อเป็นน้าอยู่แล้วไม่มีทางตัดแน่นอน คือตอนนี้พ่อเขาจุดประเด็นเองนะ ผมเองผมไม่รู้ ผมไม่ได้โต้แล้วนะผมหยุดแล้ว พ่อเขาจะโจมตีหรือว่าร้ายอะไรมาผมเองก็เซ็งมากๆเบื่อ เวลาเปิดทีวีไปช่องไหนก็เจอ ผมก็พยายามไม่ดู และหนังสือพิมพ์ก็เห็นหน้าพ่อทุกวันหน้าผมด้วย ผมเองก็สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม"

"คุณโอ๊ตเขาอยู่กับคุณพ่อก็ตั้งแต่เหมือนอย่างที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าเลี้ยงดูผมมาตั้งแต่แม่ผึ้งเขายังไม่เสีย แต่ว่าพ่อเขาก็พูดว่าคุณโอ๊ตเข้ามาสองสามปีหลังจากนั้นก็เอาไปคิดเอาเองว่าตรงกันหรือเปล่าผมเลยบอกไงว่า อยากจะให้พี่ๆเอารายการของพ่อที่ออกข่าวมามานั่งดู เปิดไปแล้วก็พักไปว่า เฮ้ย ตรงหรือเปล่าแต่ส่วนมากก็เหมือนอย่างที่หลายๆคนเขาบอกว่ามันต่างกัน นั้นแหละคือคำตอบที่ดีที่สุดว่าอะไรเป็นอะไร"
 
"อีกเรื่องครับคือตอนนี้คุณพ่อและคุณโอ๊ตเป็นถึงเลขานุการเป็นถึงผู้นำอารยะของเชียงใหม่ก็อยากให้ถามว่าคือผมไม่ได้ว่าเขานะ ผมอยากให้ตรวจสอบคนของคุณดูว่าคำพูดที่หลุดออกมาหลายๆคำพูดไม่ว่าจะเป็นคำพูดใช้ศัพท์อะไรก็ตามอยากให้พิจารณากันดู และอีกอย่างคุณนทีผมไม่รู้ว่าคุณมายุ่งอะไร ผมว่าคุณไปยุ่งกับหมีแพนด้าดีกว่า ผมไม่อะไรแล้วครับแจ้งกลับอะไรไม่แล้วคือผมจบแล้วครับ ไม่ว่าจะถามผมกี่ร้อยกี่ล้านครั้งผมก็พูดความจริงแล้วผมเบื่อแล้วเซ็งพ่อก็ไม่หยุดไม่หย่อนสักที ก็อยากจะบอกพ่อว่าคบคนเช่นไรพ่อก็เป็นคนเช่นนั้นและคุณนทีผมงงมากเลยว่าเขามาจากไหนมายุ่งอะไรผมยอมรับว่าคุณนทีมาได้อย่างไง เกิดอะไรขึ้นแล้วมันเกิดอะไรกับคุณพ่อผมก็ไม่รู้จะเป็นผู้นำอารยะหรืออะไรก็ตามก็อยากให้ตรวจสอบคนที่เป็นผู้นำอารยะอีกทีหนึ่งแล้วกันว่าคนแบบนี้หรือเปล่าคือคนที่จะอยู่ในอารยะอะไรแบบนี้ ผมไม่ได้โกรธนะแต่ผมเซ็งปล่อยดีกว่า"

พอเพชรตอบแบบนี้เลยทำให้หลายคนคิดว่าอย่างนี้ก็ตอกย้ำว่าพ่อเป็นชาวสีม่วงหรือเปล่า เจ้าตัวโบ๊ยไม่ได้พูด พร้อมยกมือไหว้อยากจะจบ

"ผมไม่ได้พูดนะ ผมพูดในสิ่งที่ผมได้เจอแค่นั้นเอง อะไรนะ ถามผมเป็นอะไร ผมชายแท้ตรวจสอบได้ครับจริงๆ เดี๋ยวจะหาว่าพาดพิงอีก อยากให้จบดีกว่าคือทุกๆคนนะขอให้หยุดหยุดดีกว่าขอร้องขอร้อง(ไหว้)ขอให้หยุด ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อจะร้อนตัวหรืออะไรหรือมีใครยุให้เขาฟ้องหรือเปล่า ผมก็ไม่ทราบผมก็พูดได้นั้น อะไรที่พ่อมีความสุขทำไปตั้งแต่ผมเด็กจนโตผมยอมพ่อทุกอย่างไม่ว่าพ่อจะทำอะไรแล้วมีความสุขและผมจะเจ็บจะปวดอย่างไงก็แล้วแต่พ่อแล้วแต่ครับ"

ส่วนกรณีที่ฝ่ายพ่อออกมาพูดว่าเงินเหลือแค่สองล้านและแบ่งไปเรียบร้อยแล้ว และส่วนที่เหลือจากที่แบ่งกันแล้วก็จะเก็บไว้ให้ลูกชายนั้น บอก ไม่รู้ เพราะตั้งแต่โตมาไม่เคยมีใครพูดกับตนในเรื่องนี้เลย

"เรื่องเงินสองล้านผมไม่ทราบเลยครับ เพราะตั้งแต่โตมาไม่มีใครพูดเรื่องเงินกับผม ผมพูดได้แค่เพียงว่าเสียใจที่พ่อเขาทำอย่างนี้ อยากจะบอกว่าเมื่อก่อนผมไม่ค่อยสนใจเรื่องเงินนะแต่ว่าตอนนี้ผมก็คงต้องสนใจว่าพ่อมากล่าวหาว่าผมเอาเงินไปห้าสิบล้านผมก็ต้องตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ผมก็ไม่รู้ว่ามีหลักฐานหรืออะไรเรื่องนี้ก็ให้ทนายเขาเป็นคนตรวจสอบครับ ตรวจสอบและดูว่าอะไรเป็นอะไรแต่ผมไม่ได้เอามาเลยนะไม่ได้เอามาเลย"

"คือสิ่งที่ผมรู้คือแม่อยู่โรงพยาบาลแม่ซื้อแมนชั่นไว้ที่ประตูน้ำคุณโอ๊ตเขาก็เข้ามานอนกับพ่อ พ่อก็บอกว่าเป็นน้าเข้ามาดูแล ผมก็งงว่าทำเป็นน้าต้องมานอนที่ของแม่ด้วยอันนี้คือจุดเริ่มต้นที่ผมเห็นแต่หลังจากนั้นจะเป็นใครบ้างก็ไม่รู้ไม่พูดถึงแล้วกัน แล้วที่เขาบอกว่ารักเหรอ ใครๆก็บอกว่ารักได้นะผมก็บอกว่ารักได้แต่ดูการกระทำแล้วกัน ใครก็บอกว่ารักได้รักๆๆ ผมอยากให้ดูการกระทำของเขามากกว่าว่าเป็นอย่างไง คำว่ารักของเขา คือผมพูดจากใจเลยนะถ้าผมย้อนเวลากลับไปได้ผมอยากจะไปหาแม่ผึ้ง ตอนที่ไม่สบายเพราะว่าตอนที่แม่ผึ้งไม่สบายพ่อเขาพาผมไปอยู่เชียงใหม่ ซึ่งผมเจอกับแม่แค่สามครั้งเท่านั้น ซึ่งผมคิดว่าถ้าผมได้ไปดูแลใกล้ชิดแม่ผึ้ง แม่ผึ้งคงจะมีกำลังใจต่อสู้ครับ"

สอบถามตอนนี้ใช้นามสกุลของใครเจ้าตัว บอก ใช้นามสกุลพ่อ แต่จะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนเป็นเรื่องของอนาคต

"ตอนนี้ผมใช้นามสกุลพ่อครับ เรื่องเปลี่ยนไม่เปลี่ยนเป็นเรื่องของอนาคตครับ แต่ว่าตอนนี้ก็ใช้ของพ่ออยู่ครับ แต่เมื่อก่อนก็เคยคิดที่จะเปลี่ยนนะครับ แต่ว่ามันก็เป็นเรื่องของอนาคตที่จะเปลี่ยนชื่อนามสกุลหรืออะไรยังไงก็คงรู้กันอีกที แต่ไม่ได้มีคิดว่าจะเปลี่ยนอะไรตอนนี้แต่พี่ๆหลายคนก็มาบอกว่าจะเปลี่ยนไหม แต่บางครั้งก็ดูว่าชื่อผมอาจจะไม่ถูกโฉลกกับผม อาจจะเป็นเพราะว่าใช้ชื่อนี้เลยซวยเจออะไรก็ไม่รู้ผมเลยต้องยอมรับว่าผมเกิดมาซวยนะที่เป็นอย่างนี้แต่ว่าถ้าเปลี่ยนชื่อแล้วมันดีขึ้น ผมก็คงจะเปลี่ยนนะแต่ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่าเพราะเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนนามสกุลก็ต้องตรวจสอบอีกทีว่ามันจะซวยกับผมหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ครับ ความจริงผมคิดว่าการเปลี่ยนชื่อมันไม่ได้ทำให้คนเราจะเปลี่ยนไปแต่มันอาจจะช่วยได้จริงๆผมก็ไม่รู้ ผมว่ามันอยู่ที่ใจเราจะสุขจะทุกข์อยู่ที่ใจเรา"

โดยเจ้าตัวเปรยโกรธที่ฝ่ายแม่เลี้ยงมาพูดว่าแฟนสาวตน ลั่น ไม่มีการทิ้งแฟนสาวแน่นอน

"ผมโกรธนะที่คุณโอ๊ตเขาออกมาพูดแบบนี้ แล้วถ้าเขาจะออกมาพูดอะไรผมไม่มีทางทิ้งคุณอ้อยแน่นอนซึ่งก็เหมือนพ่อว่าพ่อสามารถทิ้งคุณโอ๊ตได้ไหมตอนนี้ พ่อก็บอกว่าจะทิ้งๆๆๆ แต่ก็ไม่เห็นจะทิ้งสักทีสิบเจ็ดปีแล้วพ่อก็ทำไม่ได้ อีกอย่างผมไปอยู่อเมริกากับพ่อเขาก็ไม่ได้ไปด้วยเพราะว่าคุณโอ๊ตบอกว่าอยู่ดูแลผมตั้งแต่ผมอายุสิบสองก็ดูเอาว่าคุณโอ๊ตพูดอย่างไง ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะดูแลพ่อดีนะพ่อจะได้ไม่เหงา ช่างมันเรื่องผ่านไปแล้วอาจจะดูแลก็ได้นะ แต่แล้วก็กลายเป็นอย่างนี้เลย"

พร้อมกันนี้ เพชรยังได้ฝากถึงพ่อด้วยว่า ขอให้หยุดซะที ถึงวันนี้เชื่อว่าทุกคนก็คงจะทราบดีแล้วว่าอะไรเป็นอะไร ฉะนั้นทุกอย่างควรจะจบได้แล้ว พร้อมฝากบอกกับภรรยาใหม่ของไกรสรว่า ตอนนี้ก็อยู่บ้านแม่พุ่มพวง ใช้เงินของแม่ ควรจะคิดได้ว่าตัวเองควรทำอะไร อย่ามาให้ร้ายคนอื่นอีก

"ไหนๆก็ไหนแล้วนะ หยุดเถอะพ่อการทำอย่างนี้ก็เป็นการสร้างบาป ความจริงเป็นอย่างไงอย่าได้เอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้ดีๆดีกว่า วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายที่จะพูด ขอให้ทุกอย่างจบแล้วกัน อยากให้หยุดทุกคนก็ทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร เรื่องราวเกิดขึ้นเพราะเราสองคน ส่วนเรื่องคุณโอ๊ตแฟนของคุณพ่อผมยอมรับนะว่าโกรธที่ทำร้ายคุณอ้อย คุณเองก็ใอยู่ในบ้านของแม่พุ่มพวงและก็ใช้เงินของแม่พุ่มพวง ก็คิดว่าน่าจะรู้น่าจะคิดอะไรได้บ้าง"

ด้านอ้อยแฟนสาวของเพชร ที่โดนทางด้านภรรยาของไกรสรออกมาพูดตามที่ให้สัมภาษณ์ว่า อ้อยเคยโดนกระทำชำเลามานั้น ซึ่งอ้อย เตรียมฟ้องแน่นอน แต่ยังไม่เปิดเผยว่าจะฟ้องที่ไหน อ้างอยากดำเนินคดีเงียบๆ

"ก่อนที่จะฟ้องขอพูดอะไร ถ้าเกิดว่าคุณมีลูกสาวและมีคนมาพูดกับลูกสาวคุณแบบนี้คุณจะรู้สึกยังไง อยากให้เขาเอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ไม่ใช่ตอนแรกจะออกมาพูดว่ามีแฟนคนเดียวข่มขืนเดี๋ยวออกมาพูดว่าสี่คนอีกและไม่รู้อะไรเดี๋ยวโดนรุมโทรมอีกคือเขาทำไมไม่คิดว่าครอบครัวเราได้รับผลกระทบตรงนี้ ถึงมันจะไม่ใช่เรื่องจริงแต่คนที่ไม่รู้จักเราก็นานาจิตตังว่าเขาจะคิดยังไง แต่จริงๆแล้วไม่เคยติดตามข่าวเขาเลยว่าเขาพูดอะไรมามีแต่พี่ๆสื่อมวลชนที่เป็นห่วงก็โทรมาบอกว่าตอนนี้มีข่าวออกมาแบบนี้ก็เหมือนกับว่า เอ๊ะ ทำไมเขาถึงทำได้ถ้าพูดถึงความเป็นมนุษยชน ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตามทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน ไม่ใช่พอทำเพชรไม่ได้จะโยนมาถึงคนรอบข้างเขาหาข้อหาทำงานอาชีพไม่ดี ก็ยังคิดอยู่ว่าถ้าเกิดทำอาชีพไม่ดีได้จริงๆ อยากเป็นมาเฟียมากเลย"

"ยังไงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ไม่มีการมาแจ้งว่าตอนนี้จะทำอะไรเพราะว่าเราไม่ได้อยากดังก็อยากดำเนินคดีแบบคนทั่วไปค่ะที่เงียบๆไป ไม่ขอบอกนะค่ะว่าที่ไหน อยากดำเนินแบบเงียบๆค่ะ เงียบได้ค่ะ และถ้าฝั่งนู้นจะฟ้องหนูก็ปล่อยแล้วค่ะ ปล่อยเขาคนเราถ้าพูดความจริงหลักฐานมันต้องมีแล้วหนูคิดว่าศาลคงไม่รับฟังอะไรที่มันไม่มีหลักฐาน วันนี้ไปแจ้งความค่ะ รอดูว่าเขาจะทำอะไรต่อเพราะว่าคนเราก็มีความอดทนที่มีขีดจำกัดเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ดูข่าวหมีแพนด้าอย่างเดียว อยากให้เขาหยุดดีกว่ายิ่งเขาพูดคนก็ยิ่งรู้"

"คือตอนนี้มีหลักฐานทุกอย่างค่ะ จริงๆคนที่ว่าน่าจะเอาหลักฐานมามากกว่า อยากย้อนถามว่าเขาหาว่าหนูโดนนู้นโดนนี้ โดนกระทำชำเลาล่วงละเมิดทางเพศแล้วเขามีหลักฐานนี่ถ้าเกิดว่าย้อนคิดตามหลัก เขาเป็นคนบงการเหรอถึงได้เก็บหลักฐานไว้หรือว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องอะไร คือก่อนที่เขาจะพูดอะไรควรคิดก่อน แล้วมันนี้เพิ่งเห็นหลักฐานที่เขาหาว่าหนูเอาเพชรออกมานั้นก็คืออีเมล์ที่เขาเคยเอามาให้ดูแล้วแต่เขาบอกว่าถ้าเป็นอีเมล์ของเราจริงๆคุณช่วยส่งต่อมาให้เราดูหน่อยได้ไหม เขาบอกว่าไม่ได้เขาปริ้นออกมาเป็นกระดาษซึ่งถามว่าเทคโนโลยีสมัยนี้จะพิมพ์อะไรแล้วปริ้นออกมามันทำไม่ได้เหรอค่ะ อยากให้เอาหลักฐานที่เขาใช้ได้ทางกฎหมาย แล้วเรื่องกระทำชำเลาล่วงละเมิดพูดตรงนี้เลยนะค่ะว่าขอให้คุณโอ๊ตเลิกสะที อย่างน้อยคุณน่าจะมีความเป็นผู้ใหญ่การออกมาพูดแบบนี้ไม่ใช่เป็นการพาดพิงถึงหนูคนเดียว มันเหมือนกับว่าดูถูกคนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ที่พบเจอเรื่องแบบนี้มาแล้วเขาเป็นคนไม่ดีเหรอ ทั้งๆที่น่าจะไปด่าคนที่มาทำพวกเขามากกว่า ตอนนี้ก็มีมูลนิธิช่วยเหลือด้านนี้ แต่คุณโอ๊ตกลับกลายเป็นว่าคนที่เจอเรื่องราวแบบนี้เป็นคนไม่ดี คุณคิดดูว่าคุณจะพูดอะไรเห็นใจคนที่เขาผ่านเรื่องนี้มาบ้างว่า คุณออกมาประณามแบบนี้แล้วถ้าตัวหนูเป็นคนที่เคยผ่านตรงนั้นมาจริงๆหนูไม่สามารถมายืนตรงนี้ได้หรอกค่ะ ถามหน่อยโดนสี่ห้าคนจิตใจใครจะปกติแล้วถ้าโดนขนาดนั้นมันต้องมีการตรวจร่างกายค่ะ คุณจะกลับไปอยู่บ้านสุขสบายไม่มีอาการอะไรมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แล้วตัวหนูเป็นคนอย่างไงสื่อรู้ดี ถ้าเกิดเรื่องแบนี้หนูไปแจ้งความอยู่แล้วค่ะ คุณเป็นถึงผู้นำอารยะอยากให้คุณคิดอะไรเยอะๆ วันนี้อาจจะพูดเยอะหน่อยนะค่ะเพราะว่าสี่ห้าปีที่ผ่านมาไม่เคยพูดอะไรเลยเหนื่อยกับเรื่องนี้มามาก แล้วอยากให้จบค่ะ"

***
ทนายชี้ "หมอ" ไม่มีสิทธิ์แถลงว่าใครบ้า ส่วน "ไกรสร" ถ้าใช้มรดกหมดเตรียมหามาคืน "เพชร" ได้เลย

“ไกรสร” โต้ข่าวเข้าแก๊ง “เกย์นที” ยันไม่ได้เป็นตุ๊ด รับไม่ได้สังคมรังเกียจ ต้องฟ้องลูกเอาไปรักษา

“ไกรสร” ร้อง OH MY GOD ยันไม่เคยทำอะไรลูก บอกที่ "เพชร" พูดแบบนั้นเพราะอยากให้คนสงสาร

“เพชร” รับ โดนพ่อกระทำตั้งแต่อายุ 12 แต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร เหลืออด ขอตรวจสอบมรดกแม่

17 ปีแห่งความหลัง - พุ่มพวง ดวงจันทร์ (จบ):ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน

แฟน “เพชร” ฉุน เมียใหม่ “ไกรสร” กล่าวหาเป็นหญิงใจแตก ขู่ฟ้องหากไม่ขอโทษ ท้าสาบานถ้าโกหกให้ตายภายในสามวันเจ็ดวัน

17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"(3):เขย่าติ้ว เสี่ยงเซียมซี

“เพชร” สึกแล้ว กราบขอโทษครอบครัว วิงวอนขอให้ปล่อยตนไป เผย อยู่กับพ่อไม่ได้จนเคยคิดฆ่าตัวตาย ส่วนสาเหตุเป็นเพราะเรื่องผิดปกติทางเพศของพ่อหรือไม่? ขอไม่ตอบ

17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"(2):พิสูจน์รักไกรสร

ฟังกันจะๆ "แฟนพระเพชร" แอบอัดเสียง "น้องพุ่มพวง" กรณีไม่ยอมพูดความจริงว่า หลานหนีไปอยู่ด้วย

17 ปีแห่งความหลัง "พุ่มพวง ดวงจันทร์"(1):ย้อนรอยริ้วแห่งอดีต

ญาติ“พุ่มพวง” ร้องไห้ยกบ้าน กราบขอโทษ “พระเพชร” ยันไม่ได้ฆ่าแม่ ด้าน “ไกรสร” ไม่รับไม่ปฏิเสธกรณีลูกชายเตรียมแฉเรื่องความผิดปกติทางเพศ

ศึกวันพุ่มพวง ดูกันแบบเต็มเหนี่ยว “พระเพชร” ก้าวร้าว หรือฆราวาสอาละวาดกันแน่!!

แฟนโต้ เหตุที่เอา “พระเพชร” มาอยู่ด้วย ไม่ใช่เรื่องเงิน แต่เพราะเจ้าตัวรับเรื่องทางเพศของพ่อไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกว่าเรื่องอะไร

ครอบครัวยันไม่ได้ฆ่า “พุ่มพวง” โต้ไม่เคยคิดเกาะ “เพชร” กิน

“ไกรสร” หวั่น “เพชร” โดนของ! สุดช้ำโดนลูกด่า บ่น “ผึ้ง” ก็กตัญญูทำไมลูกเป็นแบบนี้

เปิดเทปลับ ใครกันแน่ที่ฆ่า "พุ่มพวง ดวงจันทร์"?

รำลึก 17 ปี "พุ่มพวง" ลูก-ญาติหวิดฟาดปาก

กำลังโหลดความคิดเห็น