“เชาเชา” ลั่นมีคนโทรมาบอกว่าเห็น “เวียร์” เมาจริง แต่เจ้าตัวปัดไม่รู้ว่าที่โทรศัพท์เข้าหาคลื่นเป็นการโฟนอินสด และย้ำว่าไม่ได้เต้าข่าว เพราะมีคนโทรศัพท์มาบอกจริงๆ ไม่หวั่นจะมีปัญหา เพราะมีเจตนาบริสุทธิ์
ก่อนหน้านี้ “เชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม” ก็เคยตกเป็นข่าวเกาเหลากับ “ขวัญ อุษามณี ไวทยานนท์” กรณีที่ให้พี่สาวโฟนอินออกรายการทาง 94 EFM ซึ่งเจ้าตัวรับหน้าที่ดีเจอยู่ จนกลายเป็นเรื่องต้มคนฟัง ครั้งนั้นมีข่าวว่าดีเจเชาเชาถึงขั้นเอ่ยปากว่านางเอกคนดังว่าเป็น “สตรอเบอรี่ตัวแม่” เรื่องเก่าพึ่งจะซาเรื่องใหม่ก็มาอีกแล้ว เมื่อจู่ๆ เชาเชาก็โทรเข้ามาโฟนอินในรายการขณะที่ “ดีเจดาด้า วรินดา ดำรงผล” จัดรายการ โดยเล่าให้ฟังว่า มีคนโทรมาบอกว่า เจอ “เวียร์ ศุกลวัฒน์ คณารศ”อยู่ในสภาพเมามายไปยื่นปัสสวะข้างถนนย่านนนทบุรี แต่พอสอบถามเชาเชาเจ้าตัวกลับบอกว่า ตั้งใจแค่โทรไปเล่าให้ฟังไม่รู้ว่ากำลังโฟนอิน
“คือวันนั้นเนี่ย มีน้องที่ สวพ.(สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์) โทรมาหาผม บอกว่าพี่เชาหนูเจอพี่เวียร์ มีคนเจอพี่เวียร์ แล้วก็โทรมาบอกที่สวพ.นะครับ ผมก็เลยบอกว่าใช่เหรอ ผมก็ว่าไม่น่าจะใช่มั้ง อยู่แถวไหน เขาก็บอกอยู่แถวนนทบุรี ผมก็บอกว่าเวียร์คงไม่ไปแถวนนท์หรอกมั้ง เพราะว่าบ้านเขาน่าจะอยู่ในละแวกที่ค่อนข้างโอเค ไฮโซนะ น่าจะอยู่ในสุขุมวิท”
“ทีนี้ผมก็เลยโทรไปหาดีเจ ดาด้า(วรินดา ดำรงผล) เพราะว่าดาด้าจัดรายการอยู่ ก็เลยจะโทรไปเช็คกับนักข่าวว่ามีเบอร์เวียร์มั้ย หรือว่ามีเบอร์ผู้จัดการมั้ย เพราะผมจะได้ลองโทรไปเช็คดูว่าใช่หรือไม่ใช่ ผมก็เลยโทรไปหาดาด้า แล้วดาด้าก็รับ แต่ผมไม่รู้ว่าดาด้าเขาโฟนในรายการ พอโฟนอินเสร็จแล้วผมก็บอกว่า ดาด้ามีคนเจอน้องเวียร์ แต่ไม่รู้ใช่หรือเปล่านะ ยังไงตามเรื่องให้พี่ด้วย”
“แล้วดาด้าก็ให้ทีมข่าว EFM ลองตามดูครับ แต่ว่าตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ก็คือผมโทรบอกดาด้าเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้ตามเรื่องต่อ แต่ก็อยากรู้เหมือนกันว่าใช่หรือไม่ใช่ แต่ไม่น่าจะใช่ ผมว่าไม่น่าจะใช่ เพราะว่าเวียร์เขามีคนขับรถ เขาน่าจะใช้คนขับรถมากกว่า ถ้าสมมติว่าถ้าเป็นเวียร์จริงๆ แล้วยังไงก็ต้องมีคนขับรถคอยดูแลแหละ ไม่น่าจะเป็นขนาดนั้น”
ปัดไม่ได้มีใครสร้างกระแสเรื่องนี้แน่นอน แต่ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าคงไม่ใช่พระเอกหนุ่ม “เวียร์” แน่นอน
“สวพ. ต้องสร้างกระแสเหรอ ไม่หรอก เพราะของเขากระแสดีมากจริงๆ เพราะว่า 24 ชั่วโมงมีคนขอให้ช่วยตลอด แต่ตอนนี้ทีมข่าวก็กำลังตามหาตัวและก็อยากรู้ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ตอนนี้ก็ยังไม่ทราบว่าตกลงใช่หรือไม่ใช่ แต่จากสันนิษฐานโดยส่วนตัว หนึ่งคือถ้าเวียร์ก็ต้องมีคนขับรถ สองคือถ้าเมาขนาดนั้นหรือสภาพขนาดนั้นแล้วผมว่าเขาน่าจะหาที่ที่ดีกว่านี้ ที่แบบจะลงไปฉี่หรืออาจจะแวะปั้มเข้าไปแล้วไปหาสถานที่ที่มันโอเคน่ะ ผมว่าไม่น่าจะใช่มากกว่า”
“แล้วก็อาจจะเป็นการกุเรื่องขึ้นมา อาจจะมีคนไม่หวังดี อาจจะทำให้น้องเสียชื่อเสียง แต่อันนี้ผมก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามันใช่หรือไม่ใช่ ยังไงเราก็ฝากไปด้วยสำหรับใครที่อยากจะสร้างกระแสแบบนี้หรือว่าทำชื่อเสียงแบบนี้บางทีเราต้องเห็นใจเขาด้วย ใจเขาใจเรา”
มั่นใจไม่น่าจะมีปัญหากับ “เวียร์” เพราะเจตนาจริงๆ คืออยากจะช่วยถ้าเป็นเรื่องจริงๆ
“ตัวผมคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าสมมติว่าเอาเรื่องความจริงแล้ว หนึ่งคือผมก็พยายามที่จะหาให้คนช่วยไง ก็พยายามติดต่อถ้าเป็นเวียร์จริงก็จะติดต่อให้ผู้จัดการเขาไปเจอเร็วที่สุด ผมคิดว่าน่าจะเป็นการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน แล้วก็เป็นสื่อชนิดหนึ่งที่ทีมงานเราน่าจะมีเบอร์ผู้จัดการหรือว่ามีเบอร์ของน้องเวียร์ ก็อาจจะช่วยเขาได้มากขึ้นถ้าเป็นน้องเวียร์จริงๆ นะครับ แต่ว่าถ้าไม่ใช่ป่านนี้คนที่ฉี่ตรงนั้นก็คงดังไปแล้วครับ”
“ทางคนที่โทรมาผมก็ไม่ได้ตามครับ เพราะว่าหลังจากนั้นเสร็จก็หายไปเลย แล้วผมก็ถามกับดาด้าแล้วก็ถามกับทีมนักข่าวของเรา เขาก็บอกว่าตามเจอผู้จัดการแล้ว ผู้จัดการบอกว่าไม่ใช่นะครับ รู้สึกว่าจะเป็นพี่เอ(ศุภชัย) มั้งครับ เขาบอกไม่ใช่น้องเวียร์ ผมก็รับทราบเรื่องมาแค่นี้ครับ”
“คนที่โทรมาก็ไม่ได้บอกรายละเอียดครับว่าอยู่ตรงไหน บอกแค่ว่าแถวเมืองนนท์ ไม่รู้ว่าที่ท่าน้ำนนท์หรือเปล่า ผมไม่กลัวคนจะมองว่าผมเป็นคนปล่อยข่าว เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมทำมันเกิดขึ้นจริงไง ถ้ามันไม่มีเรื่องอยู่ดีๆ ผมจะมากุข่าวว่าเวียร์เมาแล้วขับรถกลับบ้านไม่ได้ ผมได้อะไรล่ะ ก็ไม่ได้อะไรนะ ถ้ามันไม่ใช่เรื่องจริงผมก็เสียมากกว่า ที่มันเกิดขึ้นจริงๆ เพราะว่าผมอยากช่วย และเหตุการณ์ก็คือทำไปตามความเป็นจริงครับ”