“นุ้ย” น้ำตาซึม! “ดีเจเชาเชา” เลิกแล้วไม่ง้อ เผย ฝ่ายชายหึงที่มีข่าวพัวพัน “ผู้พันต๊อด” ไม่หยุดหย่อน รับเครียดจนต้องเข้าโรงพยาบาล ไม่ใช่ถูกซ้อม ก่อนออกตัว ไม่ใช่ต้นเหตุทำให้ผู้พันต๊อดเบรกสัมพันธ์ "แก้ว อภิรดี"
ถึงกับน้ำตาคลอเบ้าเลยทีเดียว สำหรับสาวลีโอ “นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล” หลังออกมาเปิดใจว่าได้เลิกรากับ “ดีเจเชาเชา เชาวลิต ศรีมั่นคงธรรม” เป็นที่เรียบร้อย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าเป็นเพราะ “ต๊อด พ.ท.วินธัย สุวารี” เข้ามาพัวพัน ทั้งที่มีข่าวคบหาอยู่กับนักแสดงรุ่นใหญ่ “แก้ว อภิรดี ภวภูตานนท์” อยู่แล้ว จนเป็นเหตุให้ดีเจหนุ่มเกิดความระแวง
อย่างไรก็ตามกับเรื่องนี้ สาวนุ้ยออกโรงชี้แจงถึงสาเหตุว่า เป็นเพราะทนความขี้หึงของฝ่ายชายไม่ไหว ก่อนปัด กรณีที่ผู้พันต๊อดประกาศเบรกสัมพันธ์กับนักแสดงรุ่นใหญ่ไม่เกี่ยวกับตน
“ตั้งแต่หลังสุพรรณหงส์ค่ะ (22 ก.พ.) ซึ่งไม่นานนี้เอง นุ้ยก็เลยยังพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะว่าหลังสุพรรณหงส์กลับบ้านไปก็ไม่สบาย เข้าโรงพยาบาลเขา(เชาเชา) ก็ไม่ได้มาเยี่ยม แต่นุ้ยก็ไม่ได้บอกใครด้วยว่าเข้าโรงพยาบาล ก็ไม่รู้ว่าเขาทราบหรือไม่เพราะไม่ได้คุยกัน บางครั้งเราเหนื่อยแล้ว เราก็พูดหลายครั้งแล้วว่าเราเหนื่อย เราท้อ พอเถอะ อยากให้เขาเข้มแข็ง แต่ในเรื่องนี้พอพูดว่าเราเหนื่อยแล้วเขาก็เข้าใจ”
“เรื่องโดนพี่เชาซ้อมนี่ยิ่งไม่ใช่ใหญ่เลยค่ะ พี่เชาเขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ทำร้ายผู้หญิงแน่นอน และที่นุ้ยเข้าโรงพยาบาลเพราะตัวเองเครียดเอง สุขภาพไม่ดีเอง ก็เครียดเรื่องพี่เชาด้วยส่วนหนึ่ง ที่ทำให้นุ้ยเข้าโรงพยาบาล”
“ก็อยากให้ไปถามพี่เชาดูเองค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้คุยกันแล้วจริงๆ แต่มันแค่แป็บเดียวก็เลยยังไม่อยากจะพูดอะไร เพราะตัวนุ้ยเองตอนนี้รู้สึกได้เลยว่าอยากอยู่คนเดียว นุ้ยก็บอกไปแล้วว่าเหนื่อย แต่ว่าพี่เขาก็เป็นคนดีนะคะ คอยเทคแคร์ทุกอย่าง แต่ว่าเรารู้สึกว่าเป็นพี่น้องกันดีกว่า เราทะเลาะกันมาโดยตลอด พอมาถึงงานสุพรรณหงส์หรือเจอเรื่องนเรศวรเมื่อไหร่ เป็นเรื่องทุกที ฉะนั้นเราก็รูสึกว่า เราต้องเป็นอย่างนี้ตลอด ถ้านเรศวรมีต่อภาค 2-3 ไม่รู้จะจบวันไหน แล้วถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่มันก็ต้องทะเลาะกันอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนหว่าหนังจะฉาย”
“ปกติเขาเป็นคนบอกก่อน แต่ครั้งนี้นุ้ยเป็นคนบอกว่านุ้ยพอแล้ว เพราะคำพูดของเขาบางคำเขาอาจจะไม่เข้าใจ (เสียงสั่นน้ำตาคลอ) แต่สำหับนุ้ยบางทีนุ้ยฟังแล้วมันเชือดเฉือน แต่ไม่ถึงกับว่าเขาไม่ดีนะคะ เขาดี แล้วเขาก็รู้ด้วยว่านุ้ยรัก แต่ ณ ตอนนี้เขาอยู่คนเดียวน่าจะดีกว่า แล้วนุ้ยอยู่คนเดียวก็น่าจะดีกว่าแค่นั้นเองค่ะ”
“พอเราบอกแบบนั้น เขาก็ตามใจค่ะ เขาก็บอกว่าพูดเองนะ ประมาณนี้ค่ะ ก็รู้สึกว่าครั้งนี้เขาไม่ง้อเหมือนทุกครั้ง เพราะปกติเขาเป็นฝ่ายพูด พูดว่าเลิกกัน พอเถอะ แล้วนุ้ยต้องง้อ แต่ครั้งนี้คิดว่าเขาก็คงต้องง้อมั้ง แต่ว่ารอจนเข้าโรงพยาบาลก็ไม่ได้ง้อ ไม่ได้คุย ต่างฝ่ายต่างไม่โทรมันก็เลยห่างกันไปเองค่ะ”
“จะรีเทิร์นหรือเปล่า ถามเขาดีกว่าค่ะ เพราะว่าถ้ารีเทิร์นแล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิมมันก็ต้องกลับมาเป็นอย่างนี้อยู่ดี อยากจะบอกว่าก็อย่าโกรธนุ้ยแล้วกัน ถ้านุ้ยพูดอะไรออกไป เพราะอยากให้เข้าใจ ว่าตอนนี้นุ้ยอยู่คนเดียวจริงๆ แต่ไม่อยากให้พี่เชากลับมา เพียงแต่ว่านุ้ยก็เป็นผู้หญิงที่ดี และวางตัวดีแล้ว”
“อย่างวันสุพรรณหงส์ที่นุ้ยนั่งใกล้พี่ต๊อด แล้วเขาเก็บมาคิดด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มาคิดเรื่องคนที่ตกเป็นข่าวอยู่ ก็ต้องมีเรื่องเข้าหูอีก ดังนั้นจริงๆ แล้วมันไม่ใช่ว่าใครผิดใครถูก ใครไม่ดี แต่ถ้าเรารู้สึกว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันดีกว่าค่ะ แต่นุ้ยไม่อยากจะจับตรงนั้นมาเป็นประเด็นค่ะ แต่ตัวนุ้ยไม่ได้คิดอะไรอยู่แล้ว คือนุ้ยไม่ได้คิดอะไรกับพี่ต๊อด ถ้ามีข่าวกับพี่ต๊อดแล้วพี่เชาโดนหลอกมันไม่ใช่ เพราะว่าจริงๆ เขาก็รู้ว่านุ้ยกับพี่ต๊อดไม่มีอะไรอยู่แล้ว และอีกอย่างที่สำคัญคือนุ้ยอยากอยู่คนเดียวจริงๆ ตอนนี้มันอาจจะเป็นความผิดของนุ้ยที่ไม่ทนเอง”
“อึดอัดแค่ไหน เมื่อก่อนนี้ไม่เคยพูดเลยนะคะ แต่ช่วงหลังๆ มาทุกเรื่องเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้จัดการหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ มันหลายเรื่องค่ะ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ดีหรอก แต่เราอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน ณ วันนี้ทั้งคู่รู้สึกเสียใจ นุ้ยไม่อยากให้คนอื่นมามองว่าเขาไม่ดี เพราะมันเป็นเรื่องแค่ของเราที่ตกลงกัน เป็นเพื่อนกันเป็นพี่เป็นน้องกัน แต่ถ้าจะเจอกันมั้ยตอนนี้ขอยังก่อนค่ะ “
“จริงๆ อย่าเพิ่งโทรมาเลยค่ะ อย่าเพิ่งโทรมาเลยนะคะ เพราะว่านุ้ยใจอ่อน ไม่อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิม เรื่องที่เขาหึงนุ้ยไม่ได้คิดไปเองนะ คือนุ้ยไม่ใช่คนคิดมาก เขาก็ยังบอกเองว่านุ้ยน่ะแมน เวลาทะเลาะกันเขาก็จะบอกล้อเล่นๆ ล้อเล่นตลอด ล้อเล่นแล้วมันจะมาทะเลาะอะไรกันขนาดนี้”
“ตอนนี้ไม่อยากพูดแล้วค่ะ มันเป็นเรื่องเดิมไปแล้ว เขาก็คงรู้ใจตัวเองแล้ว ถ้าเขาได้ฟังอะไรตรงนี้อยากบอกเลย ว่านุ้ยพูดอะไรไปเชื่อถือได้ ไม่เคยเข้าไปยุ่งกับใครทั้งนั้น หรือว่าใครที่เข้ามามันไม่ได้เข้ามาจีบอย่างที่เขาคิด หรือว่าถ้าเขามาจีบจริงนุ้ยก็คงต้องปิดประตูเท่านั้นเอง เพราะว่าเขาก็อยู่กับนุ้ยอยู่แล้วไง แทนที่จะให้เราคบกันแข็งแรงต่อไป แต่ตอนนี้เขาอยากเปิดประตูเอง แต่ ณ ตอนนี้ตัวนุ้ยก็ไม่ได้จะรับใครเข้ามาอยู่แล้ว”
ยันแก้ว อภิรดี ไม่ได้โทรมาเคลียร์ กรณีนั่งใกล้ผู้พันต๊อดในวันประกาศผลรางวัลสุพรรณหงส์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ก็ไม่ได้โทรมา ไม่เห็นโทรมาหาจริงๆ เรื่องทั้งหมดทั้งมวลทุกฝ่ายได้คุยกันหมดแล้ว มันไม่มีอะไรเลย ทางของเขาก็ควงจะต้องเข้มแข็ง ทางของนุ้ยก็คงจำเป็นต้องอยู่ของนุ้ยไป ก็ไม่เห็นมีอะไรนี่คะ ตัวพี่แก้วก็ได้รับข่าวสารเกี่ยวกับกับนุ้ยในทางที่ดี ก่อนหน้นี้ตอนที่พี่แก้วโทรมาให้คำปรึกษาและแนะนำมากกว่า นุ้ยก็รู้ว่าพี่เขาคบกันค่ะ เพราะเขา(แก้ว)ก็บอกว่าคบกันอยู่ เพราะว่าถ้าไม่คบเขาก็คงไม่โทรมา”
“ข่าวที่บอกว่า พี่ต๊อดบอกว่าไม่มีโอกาสจะพัฒนากับพี่แก้ว คืออันนั้นมันเป็นเรื่องของเขาค่ะ จริงๆ แล้วพี่ต๊อดกับพี่แก้วเขาอาจจะรู้สึกดีๆ ให้กัน อันนั้นมันเป็นเรื่องของเขาเลย แต่ว่าเขาจะคบหรือไม่คบมันเป็นสิทธิ์ของเขา เพราะว่าจริงๆ นุ้ยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย นุ้ยแค่มีความสนิทสนมในกองฐานะน้องสาวคนหนึ่ง ซึ่งนุ้ยสนิทสนมกับทุกคนในกองอยู่แล้ว แต่ ณ วันหนึ่งคนของเราเขาก็เกิดไม่เข้าใจเราขึ้นมา เราก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายยังไง”
“นุ้ยก็ไม่กลัวคนจะมองเรายังไรด้วย ณ ตอนนี้ระหว่างนุ้ยกับพี่เชาไม่รู้จะตอบยังไง นุ้ยยังไม่อยากพูดอะไรทั้งนั้น อยากให้มันชัดเจนมากกว่านี้ แต่กับพี่ต๊อดมันคงจะเป็นไปไม่ได้ เพราะว่านุ้ยยังไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตอนนี้เรารู้สึกดีๆ กันในฐานะพี่น้อง ซึ่งถึงเขาจะคบกับพี่แก้วหรือไม่คบมันไม่ใช่เรื่องของนุ้ยเลย และอีกอย่างเขาคบกันหรือเปล่าเป็นสิทธิของเขาว่าจะคบหรือไม่คบ ก็เหมือนที่พี่แก้วบอกว่าโทรหานุ้ยหรือไม่โทรก็ได้”
"เรื่องพี่เขา(ต๊อดกับแก้ว)ตัดสัมพันธ์กัน อันนี้นุ้ยก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ แต่ตัดความสัมพันธ์ เขาก็อาจจะคุยกันอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะว่ามันเป็นเรื่องของเขาจริงๆ เพราะว่าตัวพี่แก้วเองอาจจะมีคนของเขาอยู่แล้ว คือมีครอบครัวอยู่แล้ว พี่ต๊อดอาจจะมาคิดตรงนี้หรือเปล่า"
"ทุกวันนี้ก็ไม่ได้คุยกับพี่ต๊อดเลยค่ะ จะคุยเฉพาะที่เจอในงาน แม้แต่มีธุระนุ้ยก็ไม่เคยโทรหาพี่ต๊อดเลย เพราะว่าอย่างล่าสุดอย่างสุพรรณหงส์ก็บังเอิญนั่งติดกัน เพราะว่าเราอาจจะคิดน้อยเกินไปเท่านั้นเองว่า มันมีข่าวอย่างนี้อยู่ แต่จริงๆ แล้วนั่งติดกันมันก็ไม่แปลก เพราะว่าเราไม่ได้คิดอะไร"
