"จิ๊ก เนาวรัตน์" โวย โดนหาว่าสร้างกระแส งงทำไมทำทุกอย่างต้องคิดว่าสร้างกระแสไปหมด มั่นใจตัวเองไม่ได้ทำอะไรน่าเกลียด ซัด ใครไม่กล้าใส่ก็ช่างแต่ตนกล้า แล้วชุดราคาเหยียบแสนไม่เหมาะสมตรงไหน ปัดไม่ขอพูดถึง "ระเบียบรัตน์" ที่ออกมาบอกว่าต้องการโฆษณาตัวเอง
เป็นเรื่องให้ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อีกแล้ว สำหรับอดีตนางเอกรุ่นเก๋า "จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์" ที่ใจกล้า ใส่ชุดซีทรูแนบเนื้อเห็นเนินอกไปร่วมงาน "สตาร์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ อวอร์ด 2008" เมื่อค่ำคืนวันที่ 27 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งชุดนี้ดันไปคล้ายกับชุดของกรณี "น้องสาหร่าย" หรือ "เอมี่ โชติรส สุริยะวงศ์" ที่สร้างความฮือฮาเมื่อหลายปีก่อน นอกจากนั้นยังมีสาว "หญิง จุฬาลักษณ์" ที่โดนกระหน่ำด้วยเสียงวิจารณ์ในความไม่เหมาะสมด้วยชุดคล้ายๆ กันนี้ จนต้องออกมาขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ไปแล้ว
ซึ่งอดีตนางเอกอย่าง “จิ๊ก” ก็ยังมาซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง แต่คราวนี้เจ้าตัวเผยว่ามั่นใจสุดๆ และไม่ได้คิดว่าน่าเกลียดเลยสักนิด
“ก็ชุดสวยๆ นะคะ ตั้งหลายหมื่นไม่เหมาะสมเหรอ บางกลุ่มก็ชอบ บางกลุ่มก็ไม่ชอบ ก็ไม่รู้จะพูดว่ายังไงนะ แล้วแต่นานาจิตตัง เราไม่สามารถให้คนทั้งโลกรักเราได้หรอกนะ มันก็ยาก ก็ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว เพราะว่าแค่ชุดไม่ได้เอามาเป็นเครื่องวัดว่าจะนิสัยดีหรือไม่ดี ตัวพี่คิดนะ เพราะว่ากลุ่มนึงก็เป็นกำลังใจให้ ว่าสวยมาก เพราะชุดมันออกในทางเต้นรำ เพราะพี่เรียนเต้นรำอยู่ ฉะนั้นชุดพวกนี้กับพี่ดูแล้วก็เลยไม่ได้มีความโป๊ แต่เป็นความเซ็กซี่มากกว่า”
“ชุดนี้มันเป็นชุดที่กลุ่มสังคมเต้นรำเขาจะใช้กันทุกคน แต่ไม่ใช่ในลักษณะนี้ อาจจะโป๊กว่านี้ก็ได้ หรืออาจจะแล้วแต่สไตล์ของชุดกับจังหวะเพลงเต้น มันก็ออกไปตามสไตล์นั้นสไตล์นี้ คือไม่ได้ตั้งใจให้หวือหวา เพราะชุดพวกนี้ราคาต้องหลายหมื่นอยู่แล้ว ตัวเกือบแสน ฉะนั้นแล้วมันแพงที่เพชร เพราะเพชรพวกนี้ราคาแพงมาก หลายร้อยบาทนะแต่ละเม็ดที่อยู่ในตัว”
“ที่ต้องมีคริสตัลที่ชุด คือมันเป็นสไตล์ของเขาออกมาค่ะ ชุดนี้เป็นชุดสไตล์ของฝรั่ง ซึ่งมันเป็นชุดเต้นรำ ดีไซน์ออกมาเป็นชุดเต้นรำที่เขาเต้นรำในการประกวดแข่งขัน แล้วเราก็เอามาดัดแปลง ซึ่งดีไซน์เนอร์ของพี่ที่ร้าน IN STEP เป็นคนดูแลให้”
เผยว่าแม้จะมีกระแสด้านลบออกมายังไง ตนก็ไม่เคยเครียด
“ไม่เครียดเลยค่ะ พี่เป็นคนที่ทำอะไรลงไปแล้ว พี่ก็ถือว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว มีความสุขเสมอในชีวิตพี่ เพราะว่าพี่อยากจะให้คนเข้าใจแค่นั้นนะคะ ว่านโยบายแล้วแต่ในการแต่งตัว พี่ก็ไม่ได้แต่งตัวแบบนี้ทุกครั้งไป พี่ก็ดูรูปแบบงาน บางงานพี่ก็เรียบร้อย ก็แล้วแต่บางงานก็ในมุมของพี่ ในบางมุมของสังคมพี่ก็ทำงานช่วยเหลือคนอื่น บางมุมพี่ก็อาจจะต้องลุกขึ้นมาแต่งตัวเปรี้ยวบ้าง บางมุมพี่ก็อาจจะต้องอยู่แบบเงียบๆ สงบๆ ของพี่มันมีหลายมุม แต่พี่จะแต่งชุดอย่างนี้ทุกวันเป็นไปไม่ได้”
ไม่ขอพูดถึงกรณีที่ “นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช” นายกสมาคมเสริมสร้างครอบครัวให้อบอุ่นเเละเป็นสุข อดีตส.ว.ขอนแก่น ออกมากล่าวถึงความไม่เหมาะสมกับชุดนี้ว่า ถ้าเป็นตนคงไม่ใส่ และที่นักแสดงรุ่นเก๋าใส่นั้นคงเพราะต้องการโฆษณาตัวเองมากกว่า..."อ๋อ ไม่เกี่ยวค่ะ ไม่เกี่ยว พี่ขอไม่พูดถึงค่ะ"
ไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างกระแส แค่อยากแต่งให้ดูดี ใครไม่กล้าแต่งก็ช่างแต่ตนกล้า
"อ๋อหรอ ก็ดีซิเนอะ อายุปูนนี้แล้วยังทำขนาดนี้ได้ก็ถือว่าเก่ง ถูกมั้ย แล้วแต่คือพี่ไม่ได้ตั้งใจแต่งตัวเพื่อจะสร้างกระแส พี่ตั้งใจแต่งตัวให้ดูดี ก็ไม่รู้ทุกคนก็สามารถที่จะแต่งได้ แต่ใครจะกล้าแต่งรึเปล่าก็เท่านั้น แต่พี่กล้า พี่จะแต่ง จบ"
"แต่ทุกคนก็มีสิทธิที่จะแต่งอะไรได้ทั้งนั้นนะ จะสวยแค่ไหน จะดูแลตัวเองได้แค่ไหน จะสนใจตัวเองได้แค่ไหน พี่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเวลาเราแต่งตัวทำให้ดูดีในงาน กลับกลายเป็นสร้างกระแสเพื่ออะไร ทุกอย่างเป็นกระแสไปหมดเลยเหรอตอนนี้ พี่ก็ยังงงๆ คำว่ากระแสอยู่นะ พี่งงนะ งงคำนี้มากเลย"
ในส่วนของงานในครั้งหน้า เจ้าตัวเผยว่าต้องดูที่คอนเซ็ปต์ของหลายๆ อย่าง แต่รับรองว่าต้องทำทุกอย่างให้ตัวเองดูดีที่สุดแน่นอน
“งานหน้าพี่ยังให้คำตอบไม่ได้ค่ะ งานหน้าพี่ยังไม่รู้สไตล์หรือรูปแบบของงาน ถ้าพี่จะไปงานพี่จะต้องโอเคกับตัวพี่ เพราะพี่ต้องทำให้ตัวพี่ดูดีในงาน พี่ไม่ต้องการให้ตัวพี่ดูถดถอยลงกับกาลเวลา กาลเวลามันต้องเดินหน้าขึ้น ชีวิตต้องเดินคู่กับเวลา ฉะนั้นเรื่องอะไรที่พี่จะต้องทำตัวพี่ให้แย่ลงล่ะ สิ่งไหนที่ทำให้ตัวพี่ดูดีขึ้นพี่ก็ต้องทำ มันเรื่องอะไรที่จะต้องทำให้ตัวเองถดถอยล่ะ พี่ไม่ควรจะต้องหดหู่ ชีวิตพี่จะต้องเดินออกไป”
“เซ็กซี่ทุกครั้งมั้ย ไม่ค่ะ แล้วแต่คอนเซ็ปต์ของงาน แล้วแต่คอนเซ็ปต์รูปแบบ แล้วแต่คอนเซ็ปต์ของชุดที่พี่จะชอบ ซึ่งก็แล้วแต่เพราะพี่มีดีไซน์เนอร์ประจำตัวของพี่ก็จะเป็นคนช่วยกันเลือกให้ค่ะ”