“จิ๊ก เนาวรัตน์” ยันข่าวลือถูก “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” แซวเป็นกะ_รี่รุ่นพี่กลางผับเป็นเรื่องจริง เจ้าตัวไม่ต้องการคำขอโทษ และไม่คิดจะเอาเรื่อง แค่อยากสั่งสอนว่าพูดอะไรควรระวังปากให้มากกว่านี้ บอก คนด่าติ๊งต๊องไม่สมประกอบไม่เคยโกรธ เพราะตนเป็นจริง แต่อย่ามาใช้คำๆ นี้ดูถูกคนอื่น มันไม่เหมาะสม ระวังจะตายเพราะคำพูดตัวเอง ฉะนั้น อย่าจิกเรียกคนอื่นแบบนี้อีก
หลังมีข่าวเล็ดลอดออกมาว่า นักแสดงรุ่นใหญ่ “จิ๊ก เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์” เปิดศึกน้ำลายกับนักร้องชื่อดัง “เจนนิเฟอร์ คิ้ม” กลางผับ เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกนักร้องคิ้ม เหน็บว่า เป็นกะ_รี่รุ่นพี่ จนตนเองกลายเป็นตัวตลก กระทั่งมีข่าวตามมาว่า ทั้งคู่กลายเป็นคู่เกาเหลารุ่นใหญ่คู่ใหม่ของวงการไปแล้วในตอนนี้ ล่าสุดรายการ “แฉแต่เช้า” ได้โฟนอินเพื่อสอบถาม จิ๊ก เนาวรัตน์ ถึงข่าวลือดังกล่าว ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ยอมรับ ว่า ถูกนักร้องสาวพูดจาเหน็บแนมด้วยคำพูดรุนแรงอย่างนั้นจริง พร้อมปัดไม่คิดเอาเรื่อง แต่อยากเตือนว่าควรระวังคำพูดให้มากกว่านี้เท่านั้นเอง
“ตั้งแต่มีเรื่องพี่ก็ไม่ได้คุยกับคิ้มเลย พี่รักคิ้มร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มเลย เพราะเขาเป็นคนน่ารัก แต่ถึงวันนี้พี่ก็ไม่ได้เสื่อมศรัทธาที่จะไม่รักนะ แต่แค่เสียความรู้สึกนิดหน่อยเท่านั้นเอง แล้วเรื่องนี้พี่ก็ไม่เคยเล่าให้ใครฟัง จริงๆ เรื่องเกิดนานแล้วนะ ร้านจะอยู่ตรง อ.ต.ก. เป็นร้านเพื่อนสนิทพี่ วันนั้นเป็นวันเปิดร้าน จนกระทั่งไม่รู้ใครต่อใครมาถามพี่ จนต้องเล่าให้เพื่อนฟัง แล้วรายการหลายรายการที่จะเอาพี่ไปสัมภาษณ์ พี่ไม่ต้องการมีศัตรู แล้ววงการก็มีไม่กี่คนที่รักๆ กัน พี่ก็ไม่อยากให้คนอื่นเห็นภาพพจน์พวกเราไม่ดี”
“แต่แค่อยากจะบอกว่า คำพูดบางคนกับบางครั้งบนเวที มันก็ควรจะเจียระไนคำพูดหน่อยนึง ต้องดูคนในการพูด บางครั้งอาจจะคะนองปาก หรืออาจจะอยากให้คนอื่นขำๆ แต่คนอื่นเขาเสียหน้า และเขาถูกดูถูกไงเข้าใจมั้ยคะ คำพูดกะหรี่ไม่ควรจะเอามาใช้ เพราะคำนี้มันไม่สมควรจะพูดเลย”
“ไม่มีการพูดคุยอะไรกัน แต่ว่าคนในงานตกใจหมด พี่ว่าคนในงานเอามาเมาท์กันมากกว่าว่าพี่ถูกแซว คงพูดกันปากต่อปากๆ เพราะคนในงานก็เป็นกำลังใจให้พี่ เพราะเราถูกแซวอย่างแรง เขาก็พยายามบอกเราว่าพี่อย่าโกรธนะ พี่อย่าถือนะ แล้วคนในนั้นเยอะมาก เป็นพวกกะเทยตุ๊ดช่างแต่งหน้า เพื่อนในวงการทั้งนั้นเลย เราก็ตกใจไม่คิดว่าเขาจะแซวขนาดนี้”
“ความคิดพี่ คือ คิ้มคงอยู่ในอารมณ์เอนเตอร์เทนคนบนเวที แล้วการเอนเตอร์เทนของพี่คิ้มบางครั้งอาจจะสนุก บางครั้งอาจจะแรง บางครั้งอาจจะลืมตัวไปบ้างในบางครั้ง”
สองดีเจยิงคำถามต่อว่า ตามข่าวเหมือนกับว่าพี่คิ้มกัดตัวเองไปก่อนแล้วว่าเป็นกะหรี่ แล้วถ้าจะกัดคนอื่นบ้างคงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ที่พี่จิ๊กเคืองเพราะส่วนตัวไม่ได้สนิทกันขนาดที่จะแซวได้ใช่หรือไม่? นักแสดงรุ่นเก๋ารับตอบทันทีว่าใช่
“ใช่ เราไม่ได้สนิทกันมาก รู้จักกันเฉยๆ เจอกันก็ทักกันธรรมดา คิ้มสบายดีหรอ ร้องเพลงเพราะนะ ซื้อเทปมาแล้วนะอะไรประมาณนี้ แต่ปัญหาในใจหรือคุยกันสนิทยังไม่เคย”
ยืนยันไม่ได้ต้องการคำขอโทษใดๆ จากนักร้องสาว เพียงแต่อยากเตือนสติว่า ระวังจะตายเพราะคำพูดตัวเอง
“พี่ไม่ต้องการให้ใครมาขอโทษพี่นะ แต่แค่อยากจะเตือนสติ ว่า วาจาคนมันสำคัญมากที่สุดในชีวิตของมนุษย์นะ คำพูดคำเดียวอาจทำให้คนๆ นั้นหมดไปเลยนะ บางทีคนเราก็ตายเพราะคำพูดได้นะ เหมือนหมองูตายเพราะงู เราเลี้ยงอะไรไว้บางทีเราอาจจะตายเพราะสิ่งนั้นได้ อย่างเราเลี้ยงปากก็อาจจะตายเพราะปากได้ พี่ไม่ได้ต้องการคำขอโทษ เพราะคำขอโทษก็ไม่ได้ทำให้ดูดีขึ้นมา พี่ก็ไม่ใช่คนดีดับอะไรนัก แต่พี่อยู่วงการมานานนม”
“ความรู้สึกของพี่คำพูดคำนี้ใช้ไม่ได้แน่นอน การขึ้นเวทีควรกลั่นกรองคำพูดนิดนึง อยู่ข้างล่างโอเค.ไม่เป็นไร เพราะไม่มีใครได้ยิน แต่พอขึ้นเวทีเสียงไมค์มันกังวานได้ยินทั่วกันไปหมด จากสิบคนก็ร้อยคน จากร้อยคนก็พันคน ว่า กะหรี่อีกตัวนึงก็นั่งอยู่ตรงนี้ แล้วกะหรี่ตัวนั้นก็ตัวพี่น่ะ เพราะพี่อุตส่าห์หลบแล้ว เอาเพื่อนอ้วนๆ บังพี่แล้ว พยายามไม่ให้เขาจิกไม่ให้เขาทัก เพราะเขาทักคนแรงไง”
“อยากจะเตือนอย่างนึงนะว่า คนเราบางทีถ้าไม่มีใครมาเตือนสติก็จะไม่รู้ แต่ถ้าเตือนไว้ก็ดีเหมือนกัน แล้วพี่เป็นคนไม่โกรธนะ เพราะจะได้รู้ไว้ว่าอ๋อ..ต่อไปจะได้ไม่ทำ และจะได้รู้ว่าต่อไปจะได้จิกคนบางคนที่เล่นกับเราได้ พี่จะเป็นคนบ้าๆ บอๆ ไม่สมประกอบบ้างในตัวพี่ แต่เราจะเจียระไนคำพูดที่สุด ในชีวิตคน แม้กระทั่งใครที่เขาทำอาชีพนี้จริงๆ เรายังไม่เคยเรียกเขาอย่างนี้เลย พี่รู้สึกว่าคำๆ นี้ ไม่น่าจะมีในคนบางคน แม้กระทั่งตัวเองก็ไม่ควรเรียกตัวเองเป็นกะหรี่ จำไว้นะคำพูดของเราศักดิ์สิทธิ์มาก ขนาดเรายังมองตัวเองอย่างนี้แล้ว คนอื่นเขาจะไม่มองเรายิ่งกว่านี้หรือ ถ้าเรามองตัวเองตกต่ำแล้วคนอื่นจะมองเราขนาดไหน ต้องคิดอย่างนี้สิ”
“แต่พี่ไม่โกรธหรอก เข้าใจความรู้สึกตรงนั้น เขาอาจจะเพลินไปนิดนึง เพลินพี่ไม่เอาเรื่อง แต่ถ้าไปเพลินกับคนอื่นแล้วลุกขึ้นมาตบ หรืออาจจะลุกขึ้นมาฟ้องขึ้นศาล เสียเงินเสียทองเสียเวลากันเข้าไปอีก ใช่มั้ยคะ จริงๆ แล้วพี่ไม่ได้เอาเรื่องเขาหรอกนะ แต่เพื่อนๆ ที่อยู่ในงานมาเล่าต่อเล่ากันไป แล้วเวลามีคนมาถามพี่ พี่ก็จะเล่าความจริง เพราะพี่ไม่โกหก โกหกคนไม่เป็น แล้วสักขีพยานก็มี มีกล้องวิดีโอจับไว้ทุกทาง แล้วเขาก็แซว คนอื่นอาจจะไม่โกรธ”
“แต่สำหรับพี่ ชีวิตพี่ขอโทษ บางครั้งคนอาจจะเห็นพี่บ้าๆ บอๆ ติ๊งต๊อง แต่พี่ไม่เคยโกรธใครถ้าพี่เป็นจริง พี่ไม่สมประกอบบางทีพูดอะไรหลุดๆ ร่วงๆ ไป แต่มันก็เป็นความสุขของพี่ เราไม่เคยโกรธที่ใครมาว่าเราแบบนี้ แต่ว่าพี่มีครอบครัว มีตระกูล มีพี่น้อง บางครั้งถ้าเขาได้ยินไปเขาจะโกรธแทนพี่ แล้วมันไม่ได้สำหรับคำพูดที่รุนแรงแบบนี้ อันนี้ต้องใช้กับพี่เป็นคนสุดท้าย อย่าใช้กับคนอื่นอีกต่อไป”