xs
xsm
sm
md
lg

ชีวิตสุดช้ำ "ต้อม" อุ้มลูกหนีตายกลับบ้านเกิด หวังขายข้าวแกงเลี้ยงชีพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เป็นนักแสดงชื่อดังที่ มีหน้ามีตาในวงการบันเทิงบ้านเรา แต่จะมีใครรู้บ้างว่า ชีวิตรัก การมีครอบครัวของนางเอกดัง "ต้อม รัชนีกร พันธุ์มณี" ในต่างแดนนั้นจะลำบากมากกระทั่งทำให้เจ้าตัวต้องใช้คำว่า "ยอมหนีตาย" มาจากสามีคนที่สองพร้อมกับลูกสาว "น้องวีวี่" กลับมายังบ้านเกิด

โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในรายการ "จันทร์พันดาว" วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน ตั้งแต่เวลา 23.00 น. เป็นต้นไปทางช่อง 7 ว่า..."จุดเริ่มต้นความรักเกิดขึ้นจากต้อมได้รู้จักกับแม่ของอดีตสามีที่เมืองไทย เลยได้พูดคุยกันมาเรื่อยๆ ประมาณสามปี"

"จนวันหนึ่งคุณแม่เขาเสีย เขาพูดกับเราว่าเขาเสียผู้หญิงที่เป็นที่รักไปคนหนึ่งแล้ว เขาไม่อยากเสียผู้หญิงที่รักไปอีกคนก็เลยขอแต่งงาน ตอนนั้นที่ยอมแต่งงานเพราะอยากมีลูกไว้เลี้ยงดูเราในบั้นปลายชีวิต และอยากมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์"

"จากนั้นจึงย้ายไปอยู่ที่อเมริกา และคลอดลูกที่นั่น ช่วงแรกชีวิตคู่ก็มีความสุขดี แต่ช่วงหลังอดีตสามีเริ่มเครียดจากงาน พอกลับมาก็มาลงที่เรา เป็นอย่างนี้บ่อยๆ สภาพจิตใจก็เริ่มแย่ นอกจากนั้นเขายังหวงเรามาก ไม่ยอมให้มีสังคม ไปไหนมาไหนต้องมีเขาไปด้วยตลอด"

"แล้วพอเขาไม่ให้เราทำงาน เราก็ต้องขอเงินจากเขา ซึ่งเขามากจะพูดจาดูถูกในทำนองลำเลิกบุญคุณ ทั้งที่เราสามารถหาเงินได้ แต่ที่เสียสละทุกอย่างก็เพื่อมาอยู่กับเขา อดทนมาตลอดเกือบห้าปี จนวันหนึ่งถึงจุดพีคของชีวิตเมื่อเห็นลูกยืนเกาะลูกกรงในบ้าน ร้องไห้ อยากออกไปข้างนอก เราก็เริ่มถามตัวเองว่าเอาลูกออกจากสภาพตรงนี้ดีไหม เลยเริ่มวางแผนหนี"

"วางแผนอยู่นานหลายเดือน ตอนแรกจะไปขอความช่วยเหลือจากศูนย์ช่วยเหลือผู้หญิงเอเชีย แต่กลัวจะโดนเอาลูกไป และต้องถูกตรวจสอบสภาพจิตใจว่าเป็นโรคจิตไหม ก็เลยตัดสินใจหนีเอง โดยการแอบแพ็คของใช้ต่างๆ ส่งกลับเมืองไทยทางไปรษณีย์ ทำวันละนิดละหน่อยเพื่อไม่ให้เขารู้ตัว เวลาออกไปข้างนอกก็จะใช้ปากกาเมจิคมาร์คตำแหน่งของล้อไว้ เพื่อเวลากลับเข้ามา รถจะได้อยู่ตำแหน่งเดิม เขาจะได้ไม่รู้ตัว"

"พอถึงวันเดินทางก็นัดแท็กซี่มารับแล้วบินไปแอลเอ พอถึงก็โทรบอกเขาว่ามาหาญาติที่แอลเอ เพราะถ้าบอกว่าถ้าบินตรงมาเมืองไทยเขาจะแจ้งจับเราฐานขโมยลูก เราก็ภาวนาว่าอย่าให้เขาแจ้งความเลย ไม่งั้นสิ่งที่วางแผนมาหลายเดือนเป็นอันจบ แล้วเราก็จะไม่ได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย"

"วินาทีที่ถึงเมืองไทยรู้สึกเคว้งคว้าง ไม่รู้อนาคตตัวเอง คิดว่าถ้าไม่มีใครจ้างก็สามารถขายข้าวแกงเลี้ยงลูกได้ แค่ขอให้พ้นจากสภาพตรงนั้นได้กลับมาอยู่เมืองไทย หลังจากนั้นเขาก็โทรมาง้อ เราก็บอกไปว่าถ้ายังรักเราและลูกให้มาอยู่เมืองไทยด้วยกัน แต่เขาไม่มา มันก็เลยจบ"



กำลังโหลดความคิดเห็น