"แชมป์" ชมไม่ขาดปาก "ชาม" ผู้หญิงมีเสน่ห์ในประวัติศาสตร์ไทย ใครเห็นก็ต้องอยากรู้จัก ยันคบกันในฐานะเพื่อนสนิท ก่อนปัดดึงอีกฝ่ายมาสังกัดช่อง 3 รวมถึงคนอื่นๆ พร้อมแจงไม่ได้สร้างกระแสเพื่อกลบข่าวเป็นเกย์
ช่วงนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร พิธีกรคนเก่งแห่งวิกพระราม 4 “แชมป์ พีรพล เอื้ออารียกูล” ดูจะเป็นข่าวกับสาวสวยอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดก็เป็นนางเอกนางงามวิกหมอชิต "ชาม ไอยวริญท์ โอสถานนท์" ที่มีคนเห็นทั้งสองควงกันเที่ยวห้างฯ หรูอย่างสนิทสนม
ซึ่งเมื่อสอบถามไปยังฝ่ายชาย เจ้าตัวก็ได้เผยว่า...
“ชามเองรู้จักกันมานานแล้วครับเพราะว่าผมเองชื่นชมเขามาก ย้อนกลับไปตอนที่เขาประกวดมิสยูนิเวิร์สที่อเมริกา ซึ่งที่เขาไประกวดห่างจากมหาวิทยาลัยผมนิดเดียว ตอนนั้นผมก็อยู่ช่อง 3 ก็เห็นเขาเดินบนเวทีเขาเป็นคนที่มีเสน่ห์มาก"
"แต่ก็ไม่มีอะไรครับ ก็เริ่มรู้จักกันตอนที่ชามเขาเรียนอยู่จุฬาฯ แล้วเขาอยากสัมภาษณ์คนที่ทำด้านโทรทัศน์ เขาก็เลยขออนุญาตโทรมาสัมภาษณ์ผมก็เลยรู้จักกัน”
คบหาดูใจกันหรือเปล่า?
“คือต้องบอกว่าช่วงนี้เวลาตรงกันมากกว่าครับ ผมเองก็มีโอกาสคุยกับชามเยอะเหมือนกัน แต่ก็คุยกันในฐานะเพื่อน จริงๆ มีโอกาสได้เจอเราก็แฮปปี้แล้ว เขาก็เป็นไอดอลของผู้หญิงและของคนไทยหลายๆ คน อย่างผมเป็นผู้ประกาศข่าวกีฬาเป็นตัวแทนของประเทศไทย เขาก็อยากเป็นนักกีฬาอยากเป็นตัวแทน แล้วเขาก็เป็นนางงาม ซึ่งผมว่าเขามีเสน่ห์คนนึงในประวัติศาสตร์ของเมืองไทย”
ส่วนกรณีที่ฝ่ายหญิงเคยให้สัมภาษณ์ว่าคบหาดูใจอยู่กับตนเองนั้น หนุ่มแชมป์บอกว่า...“ก็เป็นเพื่อนกันครับ คบกันเป็นเพื่อนกัน เพราะตอนนี้ผมเพิ่งเจอเขาไม่กี่วันเอง แล้วผมก็คุยกับแม่เขามากกว่าคุยกับเขาอีก คือคุณแม่เขากับคุณพ่อผมคล้ายๆ กัน ผมมีวันนี้เพราะผมมีคุณพ่อเป็นที่ปรึกษาที่ดี ชามก็มีคุณแม่”
พร้อมแก้ตัวเป็นคนดึงฝ่ายหญิงมาที่ช่อง 3
“ขอแก้ข่าวนะครับว่าไม่ว่าจะเป็นชมพู่ ไม่ว่าจะเป็นไผ่ พาทิศ หรือไม่ว่าจะเป็นชาม ไอยวรินทร์นะครับผมไม่เคยคุยเรื่องตรงนี้เลย เพราะเรื่องช่องเป็นสิทธิ ผมว่าถามจากแม่เขาชัวร์ที่สุด ผมคุยกับเขาเพราะเขาเป็นคนตีกอล์ฟ ก็คุยกันสักวันเราน่าจะมาทำรายการกัน ผมทำรายการกีฬาแล้วเขามาสอนตี เพราะเขาเป็นคนที่วงสวยมาก”
ถามว่ามีโอกาสที่จะพัฒนาความสัมพันธ์หรือไม่ ผู้ประกาศช่อง 3 เผยว่า...
“คือต้องรอดูก่อนครับเพราะตอนนี้เขาอยู่ที่ไหนก็มีงานเยอะอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องการตัดสินใจตรงนี้ผมว่าน่าสนใจ ผมก็ต้องรอดูไม่ว่าเขาจะอยู่ช่อง 7 หรือช่อง 3 เราคนไทยเหมือนกันน่ะ แล้วผมว่ามิตรภาพที่ดีก็ไม่ได้ถูกตัดสินว่าเป็น 3 หรือว่า 7”
“ความสัมพันธ์มันไม่สามารถมาตัดสินอะไรกันปุ๊บปั๊บได้ครับ ตอนนี้ผมมีความสุข การที่มีเขาเป็นเพื่อน แล้วผมรู้สึกว่าถ้าผู้ชายทุกคนเจอเขา ก็อยากรู้จักชื่อเขา เขาเป็นคนที่มีเสน่ห์ ตอนที่รู้จักเขาผมว่าเรื่องของความสัมพันธ์หรือว่าอะไรเป็นเรื่องของอนาคต แค่ทุกวันนี้ได้ให้คำปรึกษาในฐานะได้เป็นคนที่รู้จักกันเป็นคนของวงการบันเทิงไทย สำหรับผมๆ ก็รู้สึกมีความสุขแล้วครับ”
พร้อมปัดสร้างกระแสกลบข่าวเป็นเกย์ บอกตนชอบผู้หญิง
“ผมอยู่มา 3 ปี คงไม่ต้องการจะทำอะไรแล้วนะ เพราะจริงๆ หน้าที่ผมคืออ่านข่าวให้ดีที่สุด แล้วก็พัฒนาวงการทีวีไทยกีฬาไทย ไอ้เรื่องกระแสผมโดนเยอะจนผมเองรู้สึกน้อยใจเหมือนกันว่าเวลาสัมภาษณ์ มีน้อยครั้งนะที่จะถามว่าผลงานผมเป็นยังไง ผมต้องการอะไร แต่ถามว่าผมมีข่าวกับคนโน้นคนนี้เพื่อกลบข่าวหรือเปล่า”
“ผมก็ต้องเรียนพี่ๆ ทุกคนอย่างตรงไปตรงมาว่าผมเคยไปดูละครเวทีเรื่องหนึ่ง คือเรื่องอินกับจัน อินกับจันเป็นฝาแฝดที่ดังมากของสยาม แล้วก็เอาไปทำเป็นละครเวที เพลงที่ดังที่สุดของละครเรื่องนี้คือ “ไม่เป็นไร” เพราะตอนนั้นอินกับจันจะโดนคนบอกว่าเป็นตัวนำโชคที่ไม่ดี แล้วแม่เขาจะร้องเพลงบอกว่าไม่เป็นไร"
"เขาบอกว่าคนเราเวลาตัดสินคุณภาพคน จนตัดสินกันที่ข้างใน ไม่ว่าคุณจะเป็นอะไรก็แล้วแต่ คุณจะเป็นชายชอบชาย หญิงชอบหญิง คุณจะเป็นชายที่ชอบทั้งชายทั้งหญิง ผมว่าสุดท้ายแล้วคุณเป็นคนดีหรือเปล่า แต่ถ้าถามผมผมชอบผู้หญิงครับ”
ไม่ซีเรียสกับข่าว?
“ไม่เป็นไรครับ แหมหน้าที่ผมอยู่แล้วครับที่มาตอบคำถาม ผมเองผมชอบผู้หญิงจริงๆ ก็คงจะไม่รู้จะพูดอะไร แล้วหลายคนก็บอกพี่ชูชัยเป็นยังไงผมก็บอกว่าถ้าเกิดผมเป็นจริงๆ เนี่ยเวลาผมเจอเขาผมคงไม่ไปหอมแก้มเขาหรอก คือคนเรามันเป็นมันก็ต้องเก็บต้องแอบ ทุกวันนี้ก็เจอพี่ชูชัยถามว่ากอดกันได้มั้ย ก็ไม่มีปัญหามันไม่ได้มีอะไร"
"การที่คนเรากอดกัน ทักทาย หรือว่าหอมแก้มกันไม่ได้หมายความว่าผมต้องมีอะไรกับคนนั้นนะครับ เป็นวัฒนธรรมที่แตกต่าง คนไทยอาจจะสวัสดี ฝรั่งอาจจะมีหอมแก้ม กอด แต่อย่าไปคิดเลยครับ คนเรากอดกันแล้วจะมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง อันนี้จะทำให้ความหมายของมิตรภาพแปรเปลี่ยนไปครับ”