"ชาลอต" สุดปลื้ม "ประเด็นเด็ด 7 สี" ซัด "ข่าว 3 มิติ" หงายหลัง ปรับกลยุทธเตรียมดัน "เช้านี้ที่หมอชิต" ขยี้ "เรื่องเล่าเช้านี้" วางแผนขยายงานบันเทิงครบวงจร
หลังจากที่ปล่อยให้ช่อง 3 กวาดเรตติ้งรายการข่าวมานาน ล่าสุดช่อง 7 ก็เปิดตัวรายการใหม่ “เช้านี้ที่หมอชิต” ชนกับ “เรื่องเล่าเช้านี้” ของช่อง 3 แบบจังๆ ส่วนช่วงดึกก็ส่ง “ประเด็นเด็ด 7 สี” ปะทะ “ข่าว 3 มิติ” โดยนำทีมข่าว HOT NEWS ของไอทีวีเคยร่วมงานกับ “กิตติ สิงหาปัด” มาแก้ลำช่อง 3 มันหยด ที่ฮือฮากันสุดๆ เห็นจะเป็นกรณีข่าว “เต๋า สมชาย เข็มกลัด” แต่งงานสายฟ้าแล่บกับสาวการตลาดนิตยสารดิฉัน ซึ่งข่าว 3 มิติชิงตัวเต๋ามาสัมภาษณ์ได้ แต่ประเด็นเด็ด 7 สีก็ซัดกลับด้วยการทำสกู๊ปพิเศษสัมภาษณ์ “เอิง เอริน” แฟนสาวของเต๋าที่ออกอาการงงเป็นไก่ตาแตกที่จู่ๆ เต๋าไปแต่งงาน ทั้งที่เมื่อ 7 วันที่แล้วก็ยังติดต่อกันอยู่ เล่นเอาเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วประเทศ
งานนี้ “ชาลอต โทณวณิก” ผู้บริหารมีเดียออฟมีเดียส์ บริษัทลูกของช่อง 7 กล่าวว่า เรตติ้งรายการดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชนะช่อง 3 และเตรียมขยายงานบันเทิงให้ครบวงจร
“พูดจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่าเรายังเป็นน้องใหม่ของรายการข่าวแม้ทีมงานจะเป็นหน้าเก่าก็ตาม การเริ่มต้นก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ทุกคนจะต้องมองว่าต้องไปชนกัน ก็คิดว่าอยากให้ดูที่การนำเสนอมากกว่า อย่างประเด็นเด็ด 7 สีประมาณ 2 สัปดาห์เราก็พอจะรู้ทางแล้วว่าแนวโน้มจริงควรจะเป็นไปในทิศทางไหน ซึ่งตอนนี้เราก็ลงตัวแล้ว”
“รายการเช้านี้ที่หมอชิตคาดว่าน่าจะได้ผลตอบรับที่ดีจากรายการประเด็นเด็ด 7 สี อย่างเมื่อคืนเรตติ้งเราก็นำอยู่ อาจจะเป็นจุดที่ทำให้ช่อง 7 มองเห็นว่าลองมองเวลาตอนเช้าให้เรานำเสนอข่าวอีกแนวหนึ่งเลยกลายเป็นการเปิดตัว 2 รายการใน 2 เดือน”
“การจัดในช่วงเช้าก็อาจจะต้องใช้เวลาหาจุดสักพักหนึ่ง คนนอนดึกกับคนตื่นเช้าอาจจะมีพฤติกรรมคนละแบบ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำอะไร มีเดียออฟมีเดียเราจะใช้การวิเคราะห์วิจัย การดูเรตติ้งจะเน้นการวิเคราะห์ค่อนข้างมาก ปรับรูปแบบรายการให้เข้ากับฐานผู้ชม เอาอย่างนี้ดีกว่าค่ะคือเราตั้งใจทำแล้วกัน แล้วเราก็โชคดีอีกเรื่องคือเรื่องของเรตติ้งทางช่อง 7 ค่อนข้างที่จะมีฐานผู้ชมที่มากอยู่แล้วอย่างน้อยมันก็ไม่ต่ำกว่าที่เคยได้ ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีไต่ระดับไปเท่าไหร่ก็ต้องใช้เวลานิดหนึ่ง”
“รูปแบบรายการและจุดพิเศษตอนแรกต้องบอกเลยว่าก็คิดหนักอยู่เหมือนกันว่ามันควรจะออกมาเป็นแบบไหนสไตล์ เราก็คงเน้นไปที่ความหลากหลายในแบบของวาไรตี้ข่าว คอนเซ็ปต์หลักก็คือเราจะนำเสนอให้เห็นว่าปัจจุบันโลกมีความหลากหลายยังไง ที่เป็นไฮไลท์ก็คือมีผู้รู้มาเล่าไม่ใช่คนเดียวที่จะมานั่งเล่าเรื่องทั้งหมดทุกเรื่อง ก็ได้รับเกียรติจากผู้ที่มีความรู้ในหลายสาขาอาชีพเช่น อาจารย์วีระ ธีระภัทรที่จะมาให้ความรู้ด้านเศรษฐกิจที่จะมาพูดเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายได้”
“ในด้านกีฬาเราก็ได้รับความร่วมมือจากบรรดานักกีฬาขัวญใจชาวไทยอย่าง คุณปิยะพงษ์ ผิวอ่อน สมจิตร จงจอหอ แล้วก็คุณสมชาย ศักดิกุล มาช่วยเล่าเกี่ยวกับกีฬาในรูปแบบลึก ได้คุณปิยะพงษ์แล้วก็ได้ลูกมาด้วยอีกคนคือแตงโม พงษ์พิสุทธิ์ ผิวอ่อน มาช่วยดำเนินรายการร่วมกับคุณศิริ สาระผล เพราะฉะนั้นเช้านี้ที่หมอชิตจะเป็นความหลากหลายที่นำเสนอแล้วผู้ชมก็คงพิจารณาเอง”
“คงไม่ถึงกับกระตุกรีโมตทุกคนหันมาดูเรา เราก็คิดว่าด้วยความตั้งใจ ตัวพิธีกร พิธีกรรับเชิญคาดว่าคนก็คงอยากจะรอดูพอสมควรในรายการข่าวเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญซึ่งเรามีความตั้งใจจริงที่จะนำเสนอ แต่คนที่จะตัดสินก็คงต้องเป็นผู้ชม เรื่องการเตรียมตัวพอเราได้รับเวลามาก็คิดกันไม่นาน เพราะสมองเราตอนนั้นกำลังหลั่งไหลเอาไงๆ ก็นึกถึงเนมต่างๆ ขึ้นมาได้ติดต่อไปวันเดียวทุกคนก็ยินดีมาร่วมงามกับเราหมดก็เลยลงตัว”
ปัดไม่คิดดึงผู้ประกาศข่าวจากสถานีอื่นเพื่อที่จะทำให้รายการข่าวของทางมีเดียฯ แข็งขึ้น ทั้งยังบอกอีกว่าเตรียมโปรเจคขยายงานเพื่อที่จะทำให้เป็นธุรกิจบันเทิงที่ครบวงจร และขยายรายการไปยังช่องอื่นๆ
“คนงานของเราตอนนี้มีอยู่ 70 กว่าคนมันก็ต้องมีที่เราจะรับคนใหม่เข้ามาแต่คงไม่ถึงกับไปดูดใครเพราะเราไม่ใช่สถานี เราเป็นบริษัทเพราะฉะนั้นในการรับคนของเราก็จะรับให้เพียงพอกับรายการที่มีอยู่ ถ้าเกิดรายการเราขยายก็คงต้องดูว่าจะต้องเพิ่มคนอีกหรือเปล่า ด้วยกำลังต่างๆ เราไม่สามารถรับคนแล้วไม่มีหน้าจอได้ เราจะดูตามเนื้องานมากกว่า”
“เราบอกแล้วว่าอยากจะทำธุรกิจบันเทิงให้ครบวงจร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูจังหวะและโอกาส ละครเราทำแน่ อย่างละครเรื่องแรกรักนี้เคียงตะวันเรตติ้งอยู่ในระดับ 13 – 16 ก็ถือว่าเราเข้าถึงทิศทางของช่อง 7 ในระดับหนึ่ง ก็คิดว่าละครควจะทำต่อไปเพราะมันเป็นส่วนที่แยกกับงานข่าวอยู่แล้ว อย่างปีนี้เราก็เตรียมจะเปิดกล้องอีก 2 - 3 เรื่อง ขณะเดียวกันเราก็จะไม่ได้เน้นที่ช่อง 7 อย่างเดียว เราก็อยากจะเหมือนกับผู้จัดค่ายอื่นเพราะเราอยู่ในตลาดหลักทรัพย์สามารถที่จะเสนอช่องอื่นได้ แต่ยังไงเราก็ให้ช่อง 7 มาที่หนึ่งสำหรับเราอยู่แล้ว”
ปฏิเสธเตรียมที่จะมาขึ้นแท่นเจ้าแม่ช่อง 7 แทน “สุรางค์ เปรมปรีดิ์”
“คิดว่างานนี้ไม่เกี่ยว คือช่อง 7 เขาก็ทำงานกันด้วยคณะกรรมการ เขาก็มอบเวลานี้มาให้กับคุณแดงท่านก็เก่งอยู่แล้วในเรื่องของละคร อย่างเสาร์ 5 เพิ่งเปิดตัวมาเรตติ้งก็ 13.5 คือมีคนเคยบอกว่าอาหลอง(ฉลอง ภักดีวิจิตร) ไม่เชื่ออย่าลบหลู่คือสิ่งที่คุณแดงทำ ตอนนี้เขาก็ทำละครซึ่ง ณ ตอนนี้คงจะหาใครที่จะมาเทียบได้ยาก”
“อันนี้เราได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของทางช่อง 7 ที่ดูแลเรื่องของผังรายการ เขาก็ให้โอกาสมอบเวลาช่วงนี้มาให้เราทำ ณ ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสได้คุยกับคุณแดงเลย ปูนนี้แล้วไม่มีเป็นเจนเนอเรชั่นใหม่หรอก(หัวเราะ) คืออย่างนี้นะคะเราเป็นบริษัทลูก งานที่ได้รับมอบหมายก็คือการทำบริษัทลูกให้ติดอันดับต้นๆ ของธุรกิจบันเทิง เรามุ่งเน้นทำตรงนี้ นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น”