"หมอกฤษฏ์" ยิ้มออก! ศาลรับฟ้อง คดีฟ้อง "แม่ลีเดีย" 100 ล้าน กรณีสั่งกราบเท้าขอโทษกลางห้างฯดังเมื่อปลายปีที่แล้ว แค้น ทำให้รายได้ตนสูญกว่า 14 ล้าน ศาลนัดสืบพยานอีกที 21 เม.ย. ปีหน้า
ถึงกับยิ้มออกเลยทีเดียว สำหรับ “ศุกฤษฎ์ ปทุมศรีวิโรจน์” หรือ “หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม” หลังศาลรับฟ้อง คดีที่เจ้าตัวยื่นฟ้อง "ศันสนีย์ วณะไชยเกียรติ" มารดาของ "ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา" หรือ "ลีเดีย" นักร้องสาวชื่อดัง เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 100 ล้านบาท กรณีถูกบังคับให้กราบเท้าขอโทษ หลังไม่พอใจที่หมอคอนเฟิร์มทำนายว่าสาวลีเดียมีเกณฑ์ตั้งครรภ์ เป็นเหตุให้ทางฝ่ายนักร้องสาวลุกขึ้นมาฟ้องทั้งอาญาและแพ่ง ในความผิดฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา เรียกค่าสินไหมทดแทนจากหมอจอมคอนเฟิร์ม เป็นเงินจำนวน 50 ล้านบาท ตามที่มีการเสนอข่าวไปแล้วก่อนหน้านี้
ล่าสุดวันนี้ (18 พ.ค.) ที่ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดทั้งสองฝ่ายมา แต่ปรากฏว่าทางด้านแม่ของนักร้องชื่อดังไม่ได้มาด้วยตัวเอง ส่งมาเพียงทนาย จะมีเพียงหมอกฤษฏ์ที่เดินทางมาพร้อมทนายเหมือนเดิม พร้อมเปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าของคดี ว่า ศาลรับฟ้องเรียบร้อยแล้ว และนัดสืบพยานอีกที 21 เม.ย.ปีหน้า
ทนาย : "วันนี้เป็นวันนัดชี้สองสถาน ซึ่งศาลจะกำหนดว่าทนายของคุณศันสนีย์ ซึ่งเป็นแม่ของคุณลีเดีย ศาลก็ได้กำหนดว่าวันนี้นัดชี้สองสถานและก็กำหนดข้อพิพาท และจะนัดสืบโจทก์พยานต่อไป คดีในวันนี้ทางฝ่ายโจทก์มีหมอกฤษฏ์และทนายมา ส่วนทางจำเลยทางคุณศันสนีย์มอบให้ทางทนายมา ศาลได้กำหนดประเด็นข้อพิพาท และทางฝ่ายโจทก์คือทางด้านหมอกฤษฏ์มีความประสงค์ที่จะสืบพยาน 14 ปาก ส่วนจำเลยมีความประสงค์จะสืบพยาน 9 ปาก โดยนัดสืบพยานโจทก์ 3 นัดคือเริ่มที่ 21-23 เม.ย. 53 ส่วนนัดสืบพยานจำเลย 27-30 เม.ย.53 ต่างฝ่ายต่างก็ต้องเอาหลักฐานมาต่อสู้หักล้างกันต่อไป"
"ประเด็นแรกฟ้องของโจทก์ครอบคลุมหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ศาลจะเป็นคนวินิจฉัยเอง ประเด็นข้อสองคือจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์หรือไม่ ประเด็นที่สาม คือโจทก์เสียหายและจำเลย จะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่เพียงใด โดยที่เราฟ้องคดีนี้ กับค่าเสียหายทั้งหมด 100 ล้านบาท ซึ่งทางเราก็ได้นำหาหลักฐานยื่นต่อศาล ว่าจากการที่จำเลยทำการไปนั้นสร้างความเสียหายต่อเราอย่างไร และได้สร้างให้เกิดความเสียหายจริง"
"ความเสียหายคือความเสียหายที่เกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งหมอกฤษฏ์ก็อายุยังน้อยอยู่ จากความเสียหายครั้งนี้ คือส่วนที่เรียกร้องค่าเสียหาย คือค่าที่ชดใช้ในค่าเสียหายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเราคาดการณ์ว่ามันจะเกิดขึ้นเพระว่าเราอายุยังน้อย สามารถที่จะประกอบอาชีพได้อีกเยอะ แต่เรื่องนี้ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของศาล"
"ในเรื่องนี้ศาลยังไม่มีการให้ยอมความไกล่เกลี่ย ศาลได้สอบถามในเรื่องของประเด็นการไกล่เกลี่ยกับอีกฝ่ายเหมือนกัน แต่อีกฝ่ายได้แถลงศาลไปว่า คดีมีการฟ้องกันกลับไปกลับมาหลายเรื่อง ซึ่งยังไม่มีเรื่องไหนที่จะสามารถเจรจากันได้ ก็ต้องให้นัดสืบพยานไป แต่อย่างไงเราก็ในฐานะที่เราเป็นโจทก์ หากศาลขอให้ความร่วมมือในการไกล่เกลี่ยเราก็ยินดี แต่ถ้าเรื่องพยานหลักฐานเราก็ต้องนำเสนอศาลอย่างเต็มที่ ก็อย่างที่บอกครับ ถ้าเกิดได้มีการเจราจากัน เราก็ยังเปิดอยู่เสมอ เราไม่ได้บอกว่าเราจะไม่ไกล่เกลี่ย ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องมีหลักฐานต้องมีจุดยืนของเราเองนะครับ"
"ตอนนี้ก็ยังไม่มีเรื่องของการเจรจา ตอนนี้ก็ให้นัดสืบพยานไป แต่ถ้าอยากให้นัดไกล่เกลี่ยกันเราก็ยอมแต่โดยดี ถ้ามีโอกาสก็สามารถคุยด้วยกันได้ ทุกคดีที่ฟ้องต่อศาล ไม่ใช่เพียงแต่คดีนี้นะครับ มันเป็นทางของการไกล่เกลี่ย ซึ่งเป็นระบบของศาลยุติธรรม เรื่องการไกล่เกลี่ยกันอยู่แล้วทุกคดี ไม่ใช่เพียงแต่คดีของผมนะครับ ก็มีสิทธิ์ยอมความกันได้"
ด้าน “หมอกฤษฏ์” ซัด ตั้งแต่โดนนักร้องสาวฟ้อง ทำรายได้สูญไปร่วม 14 ล้านบาท
"นับตั้งแต่ที่โดนฟ้อง ความเสียหายทั้งหมดจำนวน 14 ล้าน ที่สูญเสียไปทันที เป็นงานเกี่ยวกับสัญญาต่างๆ ระบุหมดแล้ว มีหลักฐานยืนยันหมดแล้ว ว่ามีค่าเสียหายไม่เกิน 2-3 สัปดาห์ ทุกอย่างเสียหายไปเป็นจำนวนเงิน 14 ล้านครับ ส่วนที่เหลือก็คงเป็นค่าเสียหายในอนาคต"
