วานนี้(7 พ.ค.) เวลา 10.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 813 ศาลอาญาศาลนัดฟังคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ ในคดีหมายเลขดำที่ อ.4878/2551 ที่ น.ส.ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา หรือ ลีเดีย นักร้องแนวอาร์แอนด์บี ค่ายอาร์เอส เป็นโจทก์ฟ้อง นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฏ์ คอนเฟิร์ม เป็นจำเลยในความผิด ฐานหมิ่นประมาท กรณีที่หมอกฤษฏ์ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทีวีพูลไลฟ์ ทางช่อง 5 ว่า ตามดวงชะตาของลีเดียกำลังตั้งครรถ์ ทำให้โจทก์เสื่อมเสียชื่อเสียง
ศาลพิเคราะห์จากการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงรับคดีไว้พิจารณา พร้อมกับนัดตรวจพยานหลักฐาน และสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 20 ก.ค.2552 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ทั้ง ลีเดีย และหมอกฤษฏ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง แต่มอบอำนาจให้เสมียนทนายความเดินทางมาฟังคำสั่งแทน
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีความระหว่าง นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฏ์คอนเฟิร์ม กับ น.ส.ศรัณย์รัชย์ วิสุทธิธาดา หรือ ลีเดีย ที่ผ่านมา ทางฝ่าย หมอกฤษฏ์ มีความพยายามที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความ แต่ฝ่ายลีเดีย ไม่ต้องการที่จะไกล่เกลี่ย พร้อมกับ ให้ข่าวว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนกระทั่งศาลได้มีคำสั่งคดีมีมูลและประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาต่อไป
สำหรับคดีที่ นายศุภกฤษฏ์ หรือ หมอกฤษฏ์ ยื่นฟ้อง นางศันสนีย์ วิสุทธิธาดา มารดาของนักร้องสาวเป็นจำเลยต่อศาลแขวงปทุมวัน ฐานความผิดต่อเสรีภาพที่บังคับให้ นายศุภกฤษฏ์ ก้มลงกราบ นางศันสนีย์ และศาลไม่รับฟ้อง เนื่องจากไม่เข้าองค์ประกอบความผิด
ศาลพิเคราะห์จากการไต่สวนมูลฟ้องโจทก์แล้วเห็นว่าคดีมีมูล จึงรับคดีไว้พิจารณา พร้อมกับนัดตรวจพยานหลักฐาน และสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 20 ก.ค.2552 เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ ทั้ง ลีเดีย และหมอกฤษฏ์ ไม่ได้เดินทางมาฟังคำสั่ง แต่มอบอำนาจให้เสมียนทนายความเดินทางมาฟังคำสั่งแทน
อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีความระหว่าง นายศุภกฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์ หรือ หมอกฤษฏ์คอนเฟิร์ม กับ น.ส.ศรัณย์รัชย์ วิสุทธิธาดา หรือ ลีเดีย ที่ผ่านมา ทางฝ่าย หมอกฤษฏ์ มีความพยายามที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยยอมความ แต่ฝ่ายลีเดีย ไม่ต้องการที่จะไกล่เกลี่ย พร้อมกับ ให้ข่าวว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนกระทั่งศาลได้มีคำสั่งคดีมีมูลและประทับรับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาต่อไป
สำหรับคดีที่ นายศุภกฤษฏ์ หรือ หมอกฤษฏ์ ยื่นฟ้อง นางศันสนีย์ วิสุทธิธาดา มารดาของนักร้องสาวเป็นจำเลยต่อศาลแขวงปทุมวัน ฐานความผิดต่อเสรีภาพที่บังคับให้ นายศุภกฤษฏ์ ก้มลงกราบ นางศันสนีย์ และศาลไม่รับฟ้อง เนื่องจากไม่เข้าองค์ประกอบความผิด