“แม่แพนเค้ก” รับ มีปากเสียงกับออร์แกไนซ์จริง ซัด ทีมงานพูดจาแย่ไม่ให้เกียรติ โต้แหลก ไม่เคยพูดว่าแพนเค้กเป็นดาราดังไม่ขอยืนถ่ายรูป บอก ทำงานมานานคงไม่ลดตัวลงไปทำอะไรแบบนั้นแน่ พร้อมเหน็บ ลูกสาวไม่ใช่สาวน้อยตกน้ำจะได้เรียงคิวถ่ายรูปกับทุกคน เจ้าตัวพ้อ ทำใจไว้ตั้งแต่ขากลับว่าต้องมีเรื่อง แต่ไม่สนใครจะมองยังไง เชื่อ เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เอง
ถึงกับงานเข้ากันทั้งแม่ทั้งลูก สำหรับนางเอก “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” และแม่ “หน่อย นวลนง” เมื่อครั้งไปโชว์ตัวที่ โรงแรม แชงกรีล่า จังหวัดเชียงใหม่ เพราะนอกจากจะมีข่าวลือว่าทั้งคู่แสดงกิริยาไม่ดีกับออร์แกไนซ์ และคนที่มารอขอถ่ายรูปแล้ว สองแม่ลูกยังโดนเม้าท์ว่าทำตัวเรื่องมาก มาทำงานสาย จนเป็นที่โจษจันไปทั่วงาน โดยเฉพาะในหมู่ผู้จัดงาน
แถมล่าสุดเรื่องมาแดงขึ้นอีกครั้ง หลังมีคนแอบอ้าง ว่าเป็นออร์แกไนซ์ที่เชิญนางเอกสาวไปโชว์ตัว ซึ่งโดนมากับตัว ออกมาแฉพฤติกรรมดังกล่าวผ่านเว็บบอร์ด จนเป็นที่ล่ำลือในโลกอินเตอร์เน็ต อย่างไรก็ตามกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังแม่ของสาวแพนเค้ก ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่ามีการโต้เถียงกันจริง แต่เป็นเพราะทีมงานพูดจาไม่ดีไม่ให้เกียรติตนและลูกสาวเลย แต่ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าทำตัวเรื่องมาก ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าของงาน
“วิธีการทำงานของออร์แกไนซ์คือเขาคิดแต่เขาจะฟาดดาราทุกคน คนอย่างแม่ถ้าคุณไม่แย่จริงๆ แม่คงไม่เอ่ยปากพูดอะไรแน่ ต้องคิดอย่างนี้แล้วกัน เพราะทุกเห็นแฟนคลับหลายคนยังโทรมาบอกว่า ด่าพี่ช่ายังไงเขาอะไรยังไง คือถ้าแฟนคลับเราจริงๆ เขาจะรู้ว่าวันนั้นเรารีบ แม่กับน้องไม่ว่าจะไปไหนไม่เคยให้ทีมงานดูแลเรา ไม่ว่าจะเรื่องที่พักเรื่องรถ นอกจากค่าเครื่องบินอย่างเดียว“
“เขาอาจจะแอบไม่พอใจเราตั้งแต่สนามบิน ว่าเขามารับเราแต่เราขอไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้ตีรถเปล่านะ เพราะมันมีน้องที่เขามาเที่ยวงานเขาจะต้องไปด้วย แต่ตัวเองอาจจะคาดหวังว่าเขาจะดูแลเรา แต่ว่าน้องชายแม่เป็นตำรวจอยู่ที่โน่น แม่มีญาติอยู่ที่นั่นเยอะ แม่ก็อยากไปอยู่กับเขาไปเยี่ยมเขาด้วย แต่พอเวลาทำงานเราก็ไปทำ”
“คนจะว่าอะไรเราก็พูดได้หมด แล้วก็แม่ไม่เคยเห็นทีมงานที่ไหนพูดจากับแม่แย่ขนาดนั้นนะ แล้วแม่ยอมรับว่าแม่มีข้อโต้แย้งกับเขาจริงในเวลานั้น แม่ยังพูดกับเด็กๆ ที่สนามบินเลย ว่าขอให้เข้าใจแม่ด้วย ที่แม่ต้องวิ่งไปสนามบินในวินาทีสุดท้าย เลยไม่ได้ถ่ายรูปกับน้องๆ เขา“
“แม่คิดว่าการทำงานต้องมีความเป็นมืออาชีพ คนเราถ้าสำคัญตัวเองผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามเค้า ก็ไม่รู้นะเราไม่เคยคิดร้ายกับใคร แต่ถ้ามันมีเรื่องไม่ถูกต้องเราต้องพูด อะไรที่เอาเปรียบเรา เราต้องพูด แต่แม่ไม่เคยพูดกับเขาโดยตรง เพราะฉะนั้นทุกอย่างของเราชัดเจน แต่แม่พูดกับเขาจริงเพราะว่ามันไม่ใช่”
ส่วนเนื้อหาในเว็บบอร์ดที่ออร์แกไนซ์มาโพสต์แฉไว้ ถึงพฤติกรรมของสองแม่ลูกคนดัง ที่ระบุว่า สาวแพนมาเลท นัดห้าโมงเย็น แต่มาเกือบทุ่ม มาแล้วก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ปฏิเสธที่จะถ่ายรูปกับแขกเหรื่อในงาน แถมยังพยศขอนั่งพักจนไม่ได้งาน หนำซ้ำแม่สาวแพนยังเกรี้ยวกราดเม้งแตกว่า “ดาราระดับนี้ เค้าไม่มาทำแบบนี้หรอก” กับเรื่องนี้แม่หน่อยชี้แจงว่า....
“แม่จะเลี่ยงคำพูดนี้มาก แม่จะไม่พูดเลยว่าน้องดังขนาดนี้จะไม่มาทำอะไรแบบนี้ แต่แม่รู้เลยว่าเขาต้องเอาคำเหล่านี้มาพูด แต่แม่บอกว่าการทำงานมันต้องมีลิมิตของช่อง ช่องจะบอกเราอยู่แล้ว เคยมีทางช่องมาบอกแม่เหมือนกันว่าคุณแม่ คุณแม่ไปรับงานอย่างนี้ได้ไง ให้น้องยืนถ่ายรูปกับทุกคน แล้วเราก็เคยโดนมาแล้ว พอไปถึงแม่ก็บอกเขา คือให้เรายืนถ่ายรูปกับทุกคนในงาน“
“มันอาจจะมาจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อนหรืออะไรก็ตามแต่ เราก็ทำ แต่อย่างนี้มันก็เป็นอะไรที่บางทีแม่ไม่รู้ว่าใครผิด ก็ไม่ถือสา แต่ว่าการที่คนเราจะมาด่าทอกันแบบนี้ ก็วัดได้ว่าใครอยู่ที่ตรงไหน การที่ใช้วาจาสามหาวขนาดนี้ บ้าฉันทำงานมาขนาดนี้ แม่คงไม่มีทางลดตัวเองไปทำอะไรแบบนั้นแน่”
“พักก็พักจริง เพราะเขาไม่ได้เตรียมเวลาให้เราพัก แล้วแม่ก็บอกเขาว่าน้องยืนขาแข็งถ่ายรูป ก็ขอให้น้องพักหน่อย แล้วเขาก็ไม่ได้สกรีนทุกคนที่เข้ามาเลย ให้ทุกคนเข้ามาถ่ายรูปได้หมด โดยมีบัตรคิวหรืออะไรไม่รู้ที่เป็นระบบเขา แม่ก็เลยบอกเขาว่าเอาอย่างนี้สิรวบคนให้เป็นสี่ห้าคนแล้วถ่ายรูปทีเดียว คือแพนยืนรอน่ะไม่เป็นไร แต่น้องใส่ส้นสูงสี่นิ้ว แม่ก็เลยเป็นคนขอให้น้องนั่งพักหน่อย เพราะว่าถ้าเราไปเจอเหตุการณ์อะไรไม่ดีเราสองคนแม่ลูกก็จะช่วยกันแก้ปัญหา”
“แต่พอว่าแม่แล้วทางนั้นเขาก็ขอโทษแม่นะ แม่ก็บอกเขาไปว่า แม่เป็นผู้ใหญ่แล้วคุณอย่ามาขึ้นเสียงกับแม่อย่างนี้ แต่ตอนแม่ขึ้นเครื่องกลับมาจากที่นั่น แม่ก็เตรียมใจไว้แล้ว ว่าไม่ว่าเขาจะฟาดหัวฟาดหางอะไรด้วยวิธีไหน ซึ่งตอนรับงานแม่ก็บอกเขาแล้วว่างานนี้แม่รับถูกนะ ถ้าไม่ใช่งานช่วยกันแม่ไม่ไปเพราะฉะนั้นเขาต้องมีความเกรงใจที่เราช่วยเขา แต่เขาไม่มีความเกรงใจเลย แต่แม่ไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่เขาใช้ว่าจะลงโทษคนอื่นแบบนี้ถือเป็นการกระทำที่แย่มากๆ ไม่ยากเลยทำให้เรารู้เลย ว่าคนเราอยู่ในระดับตรงไหนใช่มะ”
“เราก็อยู่ที่ของเราก็ดีแล้ว แต่เราโปร่งใส แล้วแม่ก็พูดกับเจ้าของงานด้วย คือพี่น้องของแม่อยู่ที่นั่นเยอะ การที่เราจะเดินไปบอกเจ้าของงานก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งแม่ก็บอกต่อหน้าเขาเลยว่างานนี้แม่ช่วยนะแต่คุณจะทำกับน้องแบบนี้ไม่ได้ อย่างถ้าเราไปงานกาชาด แบบนั้นคืองานช่อง ต่อแถวถ่ายรูปแบบนั้นได้ แต่นี่ไม่ใช่ มันทำเหมือนน้องเป็นสาวน้อยตกน้ำ การที่เราจะโดนข่าวแบบนี้แม่ไม่กลัว เพราะเราอยู่ตรงนี้มานาน แล้วกาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ จริงๆ แล้วแม่กับน้องไม่ได้มีความโลภโมโทสันที่จะต้องรับงานเพื่อให้ได้เงิน การที่เราจะร้ายกับใครคนนั้นจะต้องร้ายกว่าเราอีกเป็นร้อยเท่า”
“แล้วสัญชาตญาณของแม่ในการปกป้องลูก ยังดีกว่าให้คนอื่นมาปกป้องใช่มั้ย แล้วน้องไม่ได้มีกริยาที่แย่อะไรเลย เพราะเรารู้จักลูกเราดี คืออันนี้แม่คิดว่ามันเป็นวิบากกรรมของเรามากกว่า เพราะเราไม่สามารถเลือกได้ว่าเราจะทำงานกับคนแบบไหน แต่ว่าถ้าเราคิดว่าคุณจะฆ่าเรา เราก็ต้องฆ่าคุณก่อน“
“คนเราถ้ามีการอาฆาตอยู่ในใจคือในลักษณะการพูดของเขาคือการอาฆาต แต่ความอาฆาตของเขาอาจจะทำให้เขาถูกตำหนิหรืออะไรก็ตามแต่แม่ไม่รู้ แต่คนอย่างแม่ถ้าจะลุกไปดุว่าใครแม่คงไม่ไปยุ่งกับเด็กสาวๆ แบบนั้นหรอก เราอยู่ในที่ในทางที่ดีของเราอยู่แล้ว แม่ไม่สนใจเลย เพราะกรรมก็จะเป็นของเขาไม่สิ้นสุด แล้วน้องแพนก็ทำงานตามปกติให้ถ่ายรูปก็ถ่าย เขาก็ยิ้มเขาก็ทำงานปกติ เขาไม่ได้งอแงอะไรเขาก็ทำงานของเขา”
ข้อมูลใน เว็บบอร์ดที่ออร์แกไนซ์มาโพสต์ไว้ มีเนื้อหาดังนี้
เมื่อวานได้ไปทำงานที่เชียงใหม่ จัดงานเลี้ยงขอบคุณลูกค้าของบริษัทแห่งหนึ่งที่โรงแรม แชงกรีล่า ทางบริษัทได้ติดต่อยายแพนเค้กไป เพื่อที่จะมาโชว์ตัวที่งาน ถ่ายรูปกับแขกผู้มีเกียรติ มาคู่กะแฟนของเธอคือ เวียร์ ศุกลวัฒณ์
อิชั้นไปรับที่สนามบินมีแฟนคลับของนางมารอรับกัน แบบว่า หลายคน พอนางมาถึงนางก็แบบว่ารีบๆๆๆๆๆ ไม่รู้จะรีบไปไหน แฟนคลับก็ได้แต่ งง ว่า เอ๊ะ มันคืออะไร แล้วก็มีอีกระเทยหน้าไม่รับแขกมายืนทำหน้าบึ้งอยู่ข้างๆ อิชั้นก็ไปคุยกะอีคุณแม่ เค้าก็บอกว่า อืม น้องแพนกะเวียร์จะไปรถที่เตรียมไว้ค่ะ (อ้าว ไม่บอก กรูจะได้ไม่มารอ เสียเวลาทำอย่างอื่น) พอเสร็จก็ขึ้นรถไป
ทีนี้ งานเค้าให้เข้าไปถ่ายรูปกับแขกผู้มีเกียรติตอนห้าโมงครึ่ง นางมาเกือบทุ่ม มาเสร็จก็แบบว่าอีคุณแม่ก็มาบ่นๆๆๆๆๆ ว่า เอ๊ะ อะไรเนี่ย คนถ่ายรูปเยอะจังเลย ไม่ได้ นะ ดาราระดับนี้ เค้าไม่มาทำแบบนี้หรอก เสร็จก็บอกลูกให้พัก พักก็พักยาว แถมบ่นว่าเค้าดังขนาดนี้ เค้าทำแบบนี้ไม่ได้ เค้าไม่ชอบถ่ายรูปกับคนเยอะๆ มันไม่ใช่หน้าที่
บ่นเสร็จ ก็ไปต่อว่า กฤษณ์แฟนพี่มาช่าที่มาด้วยกันว่า ถ้าไม่เกรงใจกฤษณ์เนี่ย แม่ไม่ให้มานะ บลาๆๆๆ บ่นเสร็จก็บอกว่า ไหนบอกว่าจะถ่ายแค่กับวีไอพี ภรรยาเจ้าของบริษัทก็เลยตอกไปว่า ลูกค้าของเราทุกคนคือ VIP
แค่นั้นแหละค่ะ อีคุณแม่ ก็พูดว่า เวียร์ แพน กลับ!!! แล้วก็สะบัดบ๊อบหนีกลับ ไม่ทำงานต่อ
อีแพนก็ทำหน้าปวดขี้ใส่พนักงาน ใส่แขกผู้มีเกียรติ แบบว่า โอยชั้นจะบ้าตาย
อยากบอกน้องอีแพนจังเลยค่ะว่า ก่อนที่เธอจะ ดังขนาดนี้ ดาราใหญ่ ขนาดนี้ เธอยืนขาแข็งถ่ายรูปกะแฟนๆมากี่พันรูปแล้ว ทำมาเป็นบอกว่าไม่ชอบถ่ายรูป
รับเงินเค้าไปแล้วไม่ทำงานให้เค้าให้เสร็จ ไม่อายเหรอคะ จ้างไปก็แพง ทำแค่นี้จะตาย ไม่มีอาชีพไหนที่ได้เงินง่ายเท่ากับดาราแล้วค่ะ ทำงานไม่กี่ชั่วโมง รับเงินแสน ถ่ายรูปแค่นี้ทำเป็น
อีคุณแม่ก็ถ้ายังจุ้นจ้านแบบนี้ระวังลูกจะไม่มีใครจ้างนะคะ เค้าเริ่มเห็นสันดานแล้วค่ะ
เมื่อคืน พวกคุณฆ่าตัวเองตายทางอ้อม แขกทุกท่านที่ไปงานคือระดับ บิ๊กๆทั้งนั้น เจ้าของโรงพยาบาลทั่วประเทศ รัฐมนตรี แขกคนสำคัญ เค้าเห็นแบบนี้ แพนเค้ก คงเน่าไปแบบว่า อาจจะไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดนะคะ
คุณได้เสีย แฟนๆที่ เคย ชื่นชอบคุณไปแล้ว ทุกคนที่มาในงานพูดเสียงเดียวกันค่ะว่า แบบนี้ ไม่เจริญหรอก