“สิงโต” ฝันเป็นจริง คว้าตำแหน่งเดอะสตาร์ปี 5 ได้สำเร็จ เฉียดฉิวรุ่นพี่ “ดิว” แค่ 6% แถมสร้างสถิติใหม่เป็นเดอะสตาร์ที่มีอายุน้อยที่สุด เจ้าตัวเผยต่อไปตั้งใจทำงานเลี้ยงแม่ และยังจะขยายกิจการส้มตำของแม่ด้วย พร้อมโต้ “บอย ถกลเกียรติ” เตรียมซื้อคอนโดฯ กับล็อคคิวละครให้ล่วงหน้า
จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับการแข่งขันร้องเพลงในรายการเรียลลิตี้โชว์กับเวที “เดอะสตาร์ ค้นฟ้าคว้าดาว ปี 5” เมื่อคืนวันที่ผ่านมา(3 พ.ค.) ณ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ซึ่งงานนี้ก็เต็มไปด้วยเหล่าแฟนคลับที่แห่แหนกันมาให้กำลังใจเหล่าเดอะสตาร์เต็มความจุของพื้นที่เลยทีเดียว
แถมด้วยนักแสดงที่มาร่วมงานได้แก่ อาร์ตี้ ธนฉัตร ตุลยฉัตร, เกรซ วรินทร ปัญหกาญจน์, เกรซ กาญจน์เกล้า ด้วยเศียรเกล้า ที่ตั้งใจมาให้กำลังใจน้องสาว “แกรนด์ พรรณวรท ด้วยเศียรเกล้า” ในการขึ้นเวทีครั้งสุดท้ายนี้ด้วย รวมไปถึงเหล่าเดอะสตาร์รุ่นพี่
ซึ่งผลการชิงชัยในครั้งนี้เรียกได้ว่าเฉือนกันเส้นยาแดงผ่าแปดเลยทีเดียว เพราะหลังจากที่เหลือเพียง 2 คนสุดท้ายที่เข้าชิง คือ “สิงโต สิงหรัตน์ จันทร์ภักดี” หมายเลข 4 และ “ดิว พงศธร สุภิญโญ” หมายเลข 5 ซึ่งได้ทำการแข่งขันรอบสุดท้ายกับโจทย์ “มินิคอนเสิร์ต 30 นาที” โดย “ดิว” จับฉลากได้ร้องเป็นคนแรก เลือกเพลงซึ้ง “เก็บอยู่ในหัวใจ” มาเป็นเพลงสุดท้ายก่อนอำลาเวที และ “สิงโต” เลือกเพลง “กันและกัน” มาปิดท้ายเช่นกัน
หลังจากนั้นเพื่อนๆ ที่เหลืออีก 6 คน ทั้ง น้ำตาล, ฟลุค, แกรนด์, นัท, โส และกิ่ง ก็ออกมาสร้างความสนุกสนาน ครวญเพลงช้าและเร็วโชว์กันเต็มที่ หลังเสร็จสิ้นพิธีกรจึงเรียก 2 หนุ่มผู้เข้ารอบสุดท้าย “สิงโตและดิว” ขึ้นบนเวทีอีกครั้ง และประกาศผลด้วยความตื่นเต้นว่าผลคะแนนในครั้งนี้เฉือนกันแค่ 6% เท่านั้น และผู้ชนะได้เป็นแชมป์ของเวทีเดอะสตาร์ปี 5 ในครั้งนี้ก็คือหนุ่ม “สิงโต” นั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวเผยความรู้สึกด้วยอาการตื่นเต้นไม่หายว่า อยากเลี้ยงดูแม่ให้ดีที่สุด และตั้งใจจะขยายกิจการส้มตำของแม่ด้วย
“ดีใจครับ และต้องขอขอบคุณทุกๆ คนมากนะครับที่เป็นกำลังใจให้ผมมาตลอด คอยเป็นแรงผลักดันที่สำคัญมากๆ ครับ ก็ยังตื่นเต้นอยู่นะครับ เพราะว่าก็ไม่คิดไม่ฝันนะครับว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดๆ นี้ได้ครับ วินาทีที่ประกาศก็ไม่คิดไม่ฝันครับ เพราะว่าตอนแรกผมคิดว่าน่าจะเป็นพี่ดิวครับ ผมไม่คิดว่าเป็นตัวเอง ก็เลย (นิ่งสักพัก) ไม่ทราบครับ(หัวเราะ)”
“อยากบอกว่ารักแม่มากครับ และก็ต้องขอขอบคุณแม่ ขอบคุณจริงๆ อยากให้แม่เลิกขายส้มตำมั้ยเหรอครับ ก็ถ้าเป็นอาชีพที่แม่ชอบก็อยากให้แม่ทำต่อไป แต่ว่าก็คงจะไม่ให้แม่เหนื่อยครับ ร้านส้มตำคุณแม่ต้องพัฒนาอยู่แล้วครับ ยังไงก็ต้องพัฒนา อยากจะทำงานเลี้ยงแม่ครับ ก็ต้องไหวครับ ส่วนเรื่องเรียนก็ต้องเอาทั้งสองอย่างให้ได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงานก็ต้องควบคู่กันไป เพราะว่ามันสำคัญทั้งสองอย่าง และตอนนี้ผมขึ้นม.5 แล้วครับ”
“เดอะสตาร์แบบอย่าง ผมชอบพี่แก้มครับ พี่แก้มเขาเป็นเดอะสตาร์ที่แบบไม่เปลี่ยนแปลงครับ เขาเป็นยังไงเขาก็เป็นอย่างนั้นอยู่ ผมก็จะไม่ลืมครับ ผมก็จะไม่ลืมที่มาของผมเหมือนกัน อนาคตผมชอบร้องเพลงครับ ผมขอเลือกร้องเพลงแล้วกัน ถ้ามีละครก็ต้องดูอีกทีครับ เรื่องเรียนไม่ทิ้งแน่นอนครับ”
“ขอบคุณสำหรับแฟนคลับครับ ก็รู้สึกดีใจนะครับที่ทุกคนรักเราและก็ชอบเราในแบบที่เราเป็นน่ะครับ ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่มาเชียร์ ขอบคุณทุกป้ายไฟ ทุกเสียงกรี๊ด ทุกเสียงปรบมือครับ สำหรับตัวผมที่คนชอบน่าจะเป็นความเป็นตัวของตัวเองครับ ความจริงใจที่มีให้ทุกๆ คน”
“สุดท้ายอยากขอบคุณคุณแม่ ขอบคุณคุณพ่อ ครอบครัว คุณครู เพื่อนๆ รวมถึงพี่ๆ อีกทั้ง 7 คน แล้วก็ทีมงานเบื้องหลัง พี่ๆ โปรดิวเซอร์ทุกคนต้องขอขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ ในอนาคตแนวเพลงของผมเหรอ อืมผมชอบแนวป๊อปร็อกครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะทำครับ”
เผยว่าไม่คิดเทียบรัศมีรุ่นพี่อย่าง “บี้ สุกฤษณ์ วิเศษแก้ว” เพราะเก่งกว่าเยอะ และโต้เรื่องที่ว่า “บอย ถกลเกียรติ วีรวรรณ” เตรียมซื้อคอนโดฯ ไว้ให้แล้ว แถมเตรียมละครไว้ให้ว่าไม่เป็นความจริง
“ก็ดีใจนะครับที่คนมองอย่างนั้น แต่จริงๆ แล้วพี่บี้เขาเก่งกว่าผมเยอะครับ แค่เป็นคนที่ทุกๆ คนชอบ ผมก็ภูมิใจแล้วครับ เรื่องพี่บอยอันนี้ผมไม่ทราบครับ ไม่ทราบจริงๆ ครับ แต่ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้เลยครับ จริงๆ ผมชอบละครเวทีนะครับ แต่ว่าก็ยังไม่ทราบว่าจะเป็นอะไรยังไง ถ้ามีโอกาสก็อยากเล่นครับ”
ด้านคุณแม่ “นวลแดง จันทร์ภักดี” กล่าวทั้งน้ำตาด้วยความปลาบปลื้มในตัวลูกชายว่า ดีใจที่ลูกมาถึงวันนี้ได้ และต้องรีบไปแก้บนที่บนไว้ที่ศาลหลักเมืองที่ขอนแก่นด้วย ด้านคุณพ่อ “คชาณพ จันทร์ภักดี” เสริมว่าลูกชายชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ พอมีวันนี้ได้ก็เป็นปลื้มที่สุด
แม่ “ค่ะ แม่ดีใจค่ะ ที่ลูกมาได้เป็นเดอะสตาร์ค่ะ ไม่เคยนึกเลย ไม่นึกว่าลูกจะได้ คือลูกก็เหนื่อยมาแล้วนะคะ คืออยากให้ดูแลตัวเอง สุขภาพให้ดี แล้วก็เป็นคนดีของสังคมค่ะ”
พ่อ “ครับ จริงๆ แล้วสิงโตเนี่ยตั้งแต่เรียนอนุบาลแล้วนะครับ มีความสามารถในการร้องเพลงแล้วก็การแสดง คือตอนนั้นที่เราอยู่ที่จังหวัดเลยที่อำเภอภูกระดึง เราทั้งพ่อทั้งแม่ก็ได้เห็นน้องเขาแสดงบนเวทีตั้งแต่อายุ 3 ปี แล้วก็มีช่วงหลังๆ มาที่น้องเขาไม่กล้าแสดง แล้วก็เพิ่งมามีช่วงมัธยมนี่ก็เริ่มแสดงออกเหมือนเดิม”
“เราก็หวังอยู่ลึกๆ ว่าน่าจะมีอะไรที่ดีกว่าทุกวันนี้ก็ความฝันของทั้งพ่อและแม่ก็เป็นจริง แล้วก็ลูกก็ทำได้ และสิ่งนี้ก็เป็นจากเราทุกแรงนะครับ ผลบุญทุกผลบุญที่ได้ทำมา และก็เพื่อนทุกคน พี่น้องทุกคน ญาติทุกคนนะครับ โดยเฉพาะทางแม่และก็ทางพ่อทุกๆ คนต้องขอขอบคุณมากนะครับ ขอขอบคุณอย่างสูงเลยครับ ขอบคุณมากครับ”
สิงโต “ผมก็ต้องขอขอบคุณทั้งพ่อทั้งแม่นะครับที่ทำให้ผมเกิดมา แล้วก็ดูแลเลี้ยงผมมาอย่างดีครับ ก็ต้องขอขอบคุณ แล้วก็ให้พ่อให้แม่ดูแลสุขภาพเหมือนกัน เพราะว่าแต่ละคนก็ทำงานกันหนักทั้งนั้นนะครับ ผมก็อยากให้พักบ้าง”
แม่ “ขยายกิจการไหวค่ะ(หัวเราะ) อาชีพรักค่ะ ก็ยังทำต่อไป ชอบค่ะ ก็มีไปบนไว้ค่ะ แม่บนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองที่ขอนแก่นค่ะ ก็ต้องไปแก้บนด้วยหนัง 5 จอ(หัวเราะ) ก็ต้องมีให้สิงโตไปร้องเพลงให้ด้วยค่ะ คือต้องไปร้องเพลงให้ท่านค่ะ(หัวเราะ)”
ด้านรองแชมป์อย่าง “ดิว พงศธร สุภิญโญ” เผยว่า ไม่ผิดไปจากที่คิด เพราะ “สิงโต” เป็นเด็กที่พัฒนาได้รวดเร็ว รวมไปถึงเสียงโหวตจากแฟนๆ ก็เป็นเอกฉันทร์มาตลอด
“ผมคิดไว้แล้ว ก็เลยไม่ลุ้นเท่าไหร่ พอได้ยินก็ ใช่จริงๆ ด้วย(หัวเราะ)โล่งใจที่มันเสร็จสิ้น แต่ก็รู้สึกว่า เฮ้ย จะได้กลับมาร้องแบบนี้อีกมั๊ย หลายๆ ความรู้สึกครับ ผมไม่ได้คิดเลยนะว่าเป็นตัวเต็งอะไร ตั้งแต่แรกที่ผมเข้ามา บอกตรงๆ ผมไม่ได้หวังอะไรอยู่แล้ว ไม่ต้องปลอบใจตัวเองอะไรเลยครับ เพราะผมคิดว่าเป็นน้องอยู่แล้ว ดูโดยรวมนะครับ ดูจากความสามารถ ดูจากพัฒนาการ ดูจากสิ่งรอบๆ ข้าง ดูจากประชาชน เราก็คิดว่า คนนี้แน่ๆ”
“รู้สึกดีใจกับน้องด้วย ดีใจครับดีใจ ดีใจแทนเขา ดีใจแทนแม่น้องเขาด้วย เท่าที่ผมเห็นตั้งแต่แรกมา เด็กคนนี้มีอะไรแน่นอน พอมาอยู่ในบ้านจริงๆ มาอยู่ด้วยกันปุ๊บ โอ้โห เหมือนฟองน้ำ ซับๆๆ อะไรเข้ามาเร็วมาก โอ้โห ชุ่มเลยน้ำ แต่ตอนประกาศไม่ได้ตื่นเต้นมากครับ เพราะเราประเมิน เราประเมินอยู่แล้วว่าต้องเป็นน้อง แต่ก็มีคิดว่าถ้าเป็นเราจะทำยังไงวะ แต่ก็คิดว่าเป็นน้องมากกว่า”
“สำหรับผมต่อไป ผมไม่รู้ตอบไม่ได้ครับ เพราะผมไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไร น่าจะทำให้วิธีการร้องเราดีขึ้น รู้ว่าอยู่บนเวทีเราควรทำอะไรมากขึ้น แล้วก็เรียนรู้ที่จะมีความสุขในสิ่งที่เราทำ เรียนรู้ที่จะรีแล็กซ์ แล้วพยายามสื่อความหมายในเพลงมากกว่าที่จะร้องให้คนฟังเฉยๆ”
“พอใจในตัวเองครับ ระดับไหนบอกไม่ได้ เดี๋ยวมันสูงมันต่ำ บอกไม่ได้ครับ แต่ละครั้งผมทำเต็มที่ แต่ก็มีข้อผิดพลาดในการทำเต็มที่ของผมอยู่บ้าง เวลากลับไปดูครับ หลังจากที่แข่งทุกครั้ง คุณครูเขาจะเอาเทปที่แข่งมาให้ดู ทำให้เราประเมินตัวเองไปด้วยว่าเราทำอะไรไปบ้าง ขณะที่เราแสดง เราคิดอยู่แล้วว่าเราเต็มที่ แต่ขณะที่เราเต็มที่ เราก็มีข้อบกพร่องโดยที่เราไม่รู้ตัว”
“กดดันมั้ย กดดันตัวเองมากกว่า เหมือนกับเวลาเราทำ พี่ๆ ครูอาจารย์เขาคอมเม้นมา มันยังเป๋ๆ ไป มันยังไม่ถูก มันยังไม่ดี เราก็กดดันตัวเอง ปัญหาอยู่ที่ตัวเองเท่านั้นเอง ยังรักการร้องเพลงเหมือนเดิมครับ เพราะมันเป็นความฝัน เราอยากมีอัลบั้มอยากมีเพลง เป็นสิ่งที่เราอยากทำ”
“สำหรับพรุ่งนี้ก็คงทำงานที่มีมา พร้อมแค่ไหนหรอครับ อืม...ยังไม่รู้ว่าพร้อมแค่ไหน แต่มันได้เข้ามาแล้ว ก็คงต้องดำเนินต่อไปตามวิถีของมัน ปรับ แล้วก็เรียนรู้ที่จะอยู่กับมัน มีความสุขกับมัน อยากร้องเป็นแนวสกาด้วย คือ อีซี่ ไม่จำเป็นต้องเป็นแนวเพลงแบบสบาย ช้าๆ อย่างเดียว มันเอาความสนุกของแนวเพลงแต่ละเพลงมาร่วมด้วยได้ ผมอยากเอาอะไรหลายๆ อย่าง เอาอันโน้นนิดนี่หน่อยมาผสมกันครับ มีกลิ่นๆ เป็นอะไรที่มั่วซั่วออกมาคงหน้าตาประหลาดดี (หัวเราะ)”
“งานละคร พร้อมที่จะเข้ามามั๊ย ต้องดูตามความเหมาะสมครับ ถ้ามีมาแล้วพอจะเล่นได้ก็โอเค จริงๆ แล้ว ถามว่าชอบมั๊ยก็น่าสนุกดี แต่ถ้าชอบมั๊ยยังไม่รู้ เพราะไม่เคยทำครับ มีโอกาสก็น่าลองครับ แต่ตอนนี้ก็ขอฝากเพลงนะครับ ปล่อยมาหนึ่งซิงเกิ้ล กลัวความมืด ช่วยฟังกันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ”