“ประวิทย์ มาลีนนท์” เตรียมเพิ่มรายการข่าว เล็งดึงผู้ประกาศจากช่องอื่นมาร่วมงานอีก เจ้าตัวปฏิเสธเป็นเจ้าบุญทุ่มพร้อมให้เหตุผลยังไม่มีเวลาให้กับ 2 ข่าวคนดัง “สรยุทธ-กิตติ” เพราะกลัวเหนื่อย ก่อนแจงไม่มีปัญหากับค่ายยูม่า
หลังจากเปิดตัวสมาชิกครอบครัวข่าว 3 มาได้พักใหญ่ ช่อง 3 ก็ปรับแผนรุกจัดผังรายการช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ให้มีรายการข่าวเพิ่มเป็น 50 เปอร์เซ็นต์ของรายการทั้งหมด พร้อมเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอข่าวให้มีภาพลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดึงเอาผู้ประกาศจากช่องอื่นๆ เข้ามาอยู่ในสังกัด ที่ล่าสุดมีทั้ง “กรุณา บัวคำศรี” จากทีวีไทย, “ภาษิต อภิญญาวาท” จากช่อง7 และ “กฤต เจนพาณิชการ” จนกระทั่งบอสใหญ่ช่อง 3 “ประวิทย์ มาลีนนท์” ถูกมองว่าเป็นเจ้าบุญทุ่มไปเรียบร้อยแล้ว
“เรียกว่า เติมให้เต็มครับ ความจริงแต่ละช่วงนี่เรามองไว้ตั้งนานแล้วว่าจะหาคนมาเสริม แต่เพิ่งสบโอกาสตอนนี้เท่านั้นเอง เป็นเรื่องธรรมดามันไหลไปไหลมา คนก็ขยับจากช่องหนึ่งไปอีกช่องหนึ่งเป็นเรื่องปกติ สามท่านนี้ฝ่ายข่าวเขาดูมานานแล้วผมก็ดูอยู่"
"ตอนนี้พอใจมากครับ ถ้ามองเรื่องการข้ามช่อง อย่างคุณสายสวรรค์เดิมก็มาจากที่อื่น ของเราก็มีไปทางโน้นเหมือนกันนะครับ ไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก เพราะว่าคนก็ไหลไปไหลมา ส่วนเรื่องเนื้อที่ข่าวถ้าจะเพิ่มช่วงนี้คงเพิ่มไม่ได้มากแล้วเพราะจันทร์-ศุกร์ก็ 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว”
“คาดหวังอยากให้มาเติมเต็มนะครับ อย่างคุณหนิง (สายสวรรค์ ขยันยิ่ง ) ช่วงเที่ยงเขาก็นั่งคู่กับคุณธีระ(ธีระ ธัญไพบูลย์) แต่ช่วงหลังคุณธีระเขาก็ลาออกไป คุณหนิงก็ต้องโซโลคนเดียวอยู่พักใหญ่ เราพยายามหาคนที่เข้ากันได้ ต้องเข้ากันได้ด้วยนะครับ ถึงจะทำงานด้วยกันได้"
"เลยเล็งไปที่คุณกรุณา เข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เป็นทางเลือกที่ดีครับ”
บอกเหตุที่ดึงคนอื่นมาก็เพราะงานที่ขยาย เด็กปั้นโตไม่ทัน...“คนข่าวไม่เยอะหรอก ไม่ใช่ง่ายๆ นะครับ สร้างรายการขึ้นมารายการหนึ่งแล้วจะทำให้มันดีไม่ใช่ง่ายๆ คราวนี้พวกเรามองว่าเป็นรายการเดียวครึ่งชั่วโมง แต่มันวิ่ง 5 วัน 5 รายการ ไม่น้อยนะครับ ส่วนเด็กปั้นของเราเองน่าจะมีเหมือนกันครับแต่คงเป็นภาคสนามก่อน ไต่เต้าขึ้นมาจากภาคสนาม"
"แต่พอดีช่วงหลังนี่เราโตเร็วเกินไป เผอิญมันมีการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างในอุตสาหกรรมนี้ เพราะไอทีวีเขาเปลี่ยนโครงสร้างไปเลยมีบุคลากรไหลมาหาเราเยอะก็เป็นจังหวะดี เราไม่ต้องใช้เวลาฝึกนานเท่าไรซึ่งเราก็มีที่รองรับพอดี ซึ่งนักข่าวส่วนใหญ่เราทาบทามให้มาร่วมด้วยกัน”
นอกจากรายการข่าวเดิมที่มีหนาแน่นอยู่แล้ว ช่อง 3 ยังเตรียมผลิตรายการข่าวขึ้นมาใหม่อีกหนึ่งรายการ คาดคงหวังเรียกเรทติ้งให้พุ่งกระฉูดแบบติดลมบน...“คงมีรายการเพิ่มมาอีกรายการหนึ่งประเภทข่าวช่วงเช้าและวันธรรมดาครับ ตรงนี้ไม่ได้มารองรับคนที่เพิ่มเข้ามา ต้องหาคนใหม่อีก"
"รายการก็ประมาณ 20 นาที เรื่องเล่าเช้านี้ก็ปรับเวลาขึ้นไปอีก 15 นาที เราก็ได้เวลา 15 นาทีตรงนั้นมาแล้ว อาจจะต้องไปเบียดใครอีกคน อีกสักคนละ 5 นาที กำลังมองอยู่ รูปแบบรายการเป็นรายการประเภทสาระ แต่ต้องดูก่อนว่าจะอยู่หลังรายการไหน"
"เข้าใจว่าจะอยู่หลังรายการผู้หญิงถึงผู้หญิง กำลังดูผังอยู่ รายการใหม่นี้เป็นรายการที่เราอยากจะทำมาตั้งนานแล้วแต่หาเวลาไม่ได้ รูปแบบรายการยังไม่บอกครับ ยังไม่บอก กำลังดูคนข้างนอกอยู่ เพราะคนในมีงานทุกคนอยู่แล้ว รายการใหม่คงให้พร้อมเป็นเดือนมิถุนายนไม่ได้เร่งครับ”
ส่วนการเพิ่มเวลาในวันอังคารให้กับข่าว 3 มิติ ของ “กิตติ สิงหาปัด” คงต้องร้องเพลงรอต่อไป
“ต้องดูไปสักพักหนึ่งมันก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ถ้าเยอะไปคนอาจจะเบื่อ ที่มีอยู่ก็เป็นช่วงเวลาดึกมากๆ แล้ว ถ้าขยายเวลาอาจจะไม่มีเนื้อข่าวเพราะข่าวช่วงนั้นอาจจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใหม่ๆ แล้วก็ดูความเหมาะสมอีกทีว่าจะมีอะไรใหม่ๆ หรือเปล่า ถ้ามีเพิ่มเวลาขึ้นรายการอื่นก็อาจจะดึกไปอีก"
"สำหรับข่าว 3 มิติ อนาคตรายการอาจจะเหลือ 5 วัน อยากให้คุณกิตติเขาได้พักหน่อย เรื่องวันอังคารที่ยังฟันหรออยู่คงต้องให้ฟันหรอไปก่อน ถ้าจะย้ายวันคงต้องดูคุณวิทวัส(วิทวัส สุนทรวิเนตร) เพราะแกเองก็ไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ ไปวันอื่นก็เหมือนไปเริ่มต้นใหม่ เกิดไปย้ายตอนนี้ก็หาว่าเราหนีอีกช่อง มันก็เลยไม่ถูกจังหวะ”
เช่นเดียวกับรายการ “จับเข่าคุย” ของ “สรยุทธ ” ที่โดนเขี่ยตกผังเนื่องจากยกเวลาไปให้ “ต๋อย ไตรภพ ลิมปพัทธ์” นั้น บอสช่อง 3 บอกว่า ตอนนี้ยังไม่มีเวลาให้ผลิตรายการใหม่
“ของคุณสรยุทธ เวลาตรงนี้ก็ขอยืมสักชั่วคราวครับ กลัวแกจะเหนื่อย เพราะแกหลายช่วงมาก 7 วันด้วยกัน ส่วนตีสิบที่ไปชนกับเขาก็ไม่กังวลครับ เรทติ้งมีสลับกัน บางส่วนก็มีบิดไปบิดมา ปีนี้คาดหวังว่าอยากได้เรทติ้งเพิ่มขึ้น อยากได้คนดูมากขึ้น เรื่องรายได้คงต้องดูภาวะเศรษฐกิจอีกที เพราะว่าคงคาดเดายาก”
สำหรับกระแสข่าวว่าค่ายยูม่าน้อยใจทางช่อง จนทำให้เบรกการถ่ายละคร “เพลิงพลาย” ชั่วคราว เรื่องนี้บอสช่อง 3 บอกว่าไม่รู้ว่าน้อยใจจริงหรือไม่ แต่เป็นเพราะทางค่ายมีปัญหากับทีมงานมากกว่า...“เข้าใจว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดมั้ง ทางยูม่าเขาเป็นคนขอหยุดเอง น้อยใจมั้ยก็ไม่ทราบ พยายามทำความเข้าใจกันอยู่"
"ไม่แน่ใจครับ ผมก็ยังไม่มีข้อมูลตรงนี้ ผมไม่แน่ใจ ไม่มีรายละเอียด เข้าใจว่าเขามีปัญหาเรื่องทีมงานอะไรนิดหน่อย ไม่แน่ใจนะไม่กล้ายืนยันไม่ทราบครับ พอดีช่วงหลังผมห่างเรื่องละครไปนานเหมือนกัน เขาคงขอหยุดชั่วคราว ไม่มีปัญหาอะไร เรทติ้งละครก็เป็นที่น่าพอใจ เรทติ้งดีครับ ก็แฮปปี้ แหม...เรทติ้งดีไม่ให้แฮปปี้ได้ยังไง ทั้งที่จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้เอาชีวิตเราไปฝากกับเรทติ้งเท่าไหร่”
“อย่างละครดงผู้ดี ที่ไปชนกับแจ๋วใจร้ายกับคุณชายเทวดา มันก็แฟนคนละกลุ่มนะ เรทติ้งก็โอเค ก็มีคนพูดถึง ผมว่ามีกระแสนะครับ แล้วก็อ๊อฟ(พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง)เขาก็ทำได้ดี เรทติ้งก็ไม่แผ่ว มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เรทติ้งตรงนั้นไม่ใช่ตัวเลขที่ได้เงินจริงๆ เขาดูจากตัวเลขสปอตที่ออกอากาศ ซึ่งตรงนั้นอาจไม่ได้เงินจริงๆ ก็ได้”
