"มาดอนนา" สะอึก ศาลปัดสิทธิ์เลี้ยงลูก ซ้ำพ่อตัวจริงโผล่ทวง

เล่นเอาเจ๊ใหญ่อย่างมาดอนนาถึงกับบอกบุญไม่รับ เมื่อศาลของประเทศมาลาวีที่เธอออกเงินช่วยเหลือสร้างโรงเรียนและเคยรับเด็กของที่นี่ไปเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมมาแล้วคนหนึ่ง กลับปฎิเสธสถานะการเป็นแม่ในการเตรียมที่จะรับเด็กสาวกำพร้ามาเป็นลูกสาวคนใหม่ ขณะเดียวกันชายที่อ้างตัวว่าเป็นพ่อของเด็กสาวได้ปรากฎตัวออกมาพร้อมพิสูจน์ความเป็นพ่อของเด็กอีกด้วย

มาดอนนา เดินทางมาถึงประเทศอังกฤษพร้อมกับลูกๆ ของเธอเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากการไปเยือนประเทศมาลาวีต้องจบลงด้วยความผิดหวัง เมื่อแผนการที่จะรับเด็กหญิง เมอร์ซีย์ เจมส์ เด็กสาวกำพร้าวัย 3 ขวบครึ่งที่เธอมั่นใจว่ายังไงก็จะต้องกลายเป็นเป็นลูกเลี้ยงคนล่าสุดของเธอแน่ๆ กลับถูกศาลสูงของเมืองลิลองเวปฎิเสธคำร้องดังกล่าวด้วยเหตุผลว่าผู้ปกครองที่มีคุณสมบัติสามารถรับเด็กกำพร้าของมาลาวีไปเลี้ยงได้ จะต้องอาศัยอยู่ในประเทศนี้เป็นเวลา 18 ถึง 24 เดือน

อลัน ชินูลา ทนายของมาดอนนาออกมาวิจารณ์คำตัดสินของศาลครั้งนี้ว่าเป็นสิ่งที่ "ไม่อาจยอมรับได้" เพราะเป็นศาลเดียวกันนี้เองที่เคยอนุญาตให้มาดอนนารับ เดวิด บันดา ลูกชายบุญธรรมคนที่แล้วของเธอออกจากประเทศมาลาวีไปเมื่อปี 2006 มาแล้วแท้ๆ

โดยก่อนที่จะจากประเทศมาลาวี มาดอนนาได้สั่งให้ทางทนายเตรียมเอกสารทุกอย่างเพื่ออุทธรณ์กการตัดสินครั้งนี้ และทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอได้ลูกสาวบุญธรรมคนนี้มาอยู่กับเธอและลูกๆ ให้จงได้

การตัดสินของศาลครั้งนี้ทำให้เด็กหญิงเมอร์ซีย์ที่ใช้เวลาอยู่กับมาดอนนาและลูกๆ ของเธอในโรงแรมสุดหรูของมาลาวีช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องถูกนำตัวกลับไปอยู่ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าตามเดิม

"มาดอนนาและเมอร์ซีย์ใช้เวลาด้วยกันมาพอสมควรแล้ว ดังนั้นเธอจึงเศร้ากับคำตัดสินครั้งนี้ ส่วนลอร์เดสลูกสาวของเธอที่สนิทกับเมอร์ซีย์แล้วถึงกับซึมไปเลย" แหล่งข่าวเปิดเผย

ทางด้านผู้ดูแลสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่รับเมอร์ซีย์กลับมาอีกครั้ง เผยความรู้สึกของเด็กหญิงว่า "เธอไม่เข้าใจว่าครอบครัวใหญ่ของเธอไปไหนกันหมดแล้ว"

"มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับเมอร์ซีย์ ที่เธอรู้สึกผูกพันกับมาดอนนาไปแล้ว ถึงขนาดเรียกหาเธอว่า 'แม่หนูอยู่ไหน' เธอไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทำไมอยู่ดีๆ ทั้งโลลา,ร็อคโค และเดวิด ก็หายไปกันหมด เธอเข้าใจว่าพวกเขากำลังเล่นซ่อนแอบกันอยู่ มันแทบทำให้ฉันใจสลายที่เห็นเธอร้องหาเดวิดเหมือนกับว่าทั้งสองคนไม่สามารถแยกจากกันได้"

ขณะเดียวกันนักข่าวได้ไปตามตัวเจอนาย เจมส์ แคมเบวา ยามหนุ่มวัย 24 ปีที่อ้างว่าตัวเองเป็นพ่อของสาวน้อยเมอร์ซีย์ โดยพร้อมที่จะตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันความเป็นพ่อ พร้อมอ้างว่าที่หายตัวไปหลายปีเพราะคิดว่าเด็กตายไปพร้อมกับแม่เมื่อหลายปีก่อน

"ผมไม่ได้อิจฉามาดอนนา แต่ผมเป็นพ่อของเมอร์ซีย์จริงๆ และผมต้องการให้เธอมาอยู่กับผมที่มาลาวีแห่งนี้" พ่อผู้กลับมากล่าวต่อผู้สื่อข่าว

ซึ่งถ้าศาลของมาลาวียอมรับสถานะความเป็นพ่อของเจมส์ ความหวังในการเป็นแม่ของหนูน้อยเมอร์ซีย์ของมาดอนนาก็ยิ่งเลือนรางเข้าไปอีก

พ่อ"เดวิด บันดา"สุดปลื้มหลัง"มาดอนนา"พาลูกมาเจอหน้าพ่อแท้ๆครั้งแรก
เผยโฉมว่าที่ "ลูกสาว" คนต่อไปของ "มาดอนนา"