เผยโฉมว่าที่ "ลูกสาว" คนต่อไปของ "มาดอนนา"

"มาดอนนา" ซูเปอร์สตาร์สาวคนดังเตรียมจะมีลูกสาวคนใหม่จากการรับเด็กมาเป็นลูกบุญธรรมเร็วๆ นี้ ท่ามกลางการคัดค้านของญาติๆ ของหนูน้อยที่ชี้ว่าเธอจะพรากเด็กไปจากครอบครัวเพื่อสนองความต้องการของเธอเพียงผู้เดียวเท่านั้น

มาดอนนา นักร้องสาวคนดังวัย 50 ที่กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางเยี่ยมประเทศมาลาวี สถานที่ที่เธอเคยรับ เดวิด บันดา เด็กกำพร้าแม่มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งเขาเตรียมตัวจะมีพี่สาวจากบ้านเดียวกันเร็วๆ นี้ หลังจากที่มาดอนนาแสดงเจตนาอย่างชัดเจนว่าจะรับเด็กสาวอีกคนในวัย 4 ขวบที่ชื่อว่า เมอร์ซี เจมส์ มาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมคนที่สอง

โดยเมื่อวานนี้เธอได้มาตามนัดของศาลสูงที่เมืองลิลองเวของมาลาวีในตอน 8.40 น. และกลับออกมาอย่างรวดเร็วช่วงเวลา 10.00 น. ซึ่งศาลได้เลื่อนคำพิจารณาคดีเรื่องการรับเด็กสาวมาเป็นลูกบุญธรรมของเธอออกไปเป็นศุกร์ที่จะถึงนี้

แม้มาดอนนาจะสร้างองค์กรการกุศลอย่าง Raising Malawi ขึ้นที่นี่ แต่หลายคนของที่นี่ก็ยังไม่เห็นด้วยกับการมารับเด็กจากมาลาวีไปเป็นลูกบุญธรรมของเธอเท่าไหร่ ผู้อำนวยการของหน่วยงานที่ปรึกษาทางด้านสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาเธอว่าเป็นเหมือนคนลักพาตัวเด็ก "เรารู้สึกว่ามาดอนนาทำตัวเหมือนอันธพาล เธอร่ำรวย, มีชื่อเสียง และเธอใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อทำให้เรื่องทุกอย่างมันง่ายขึ้นสำหรับเธอ"

หลังจากความพยายามในการติดต่อครอบครัวของเมอร์ซีเพื่อรับเธอมาเป็นลูกบุญธรรมถึง 2 ปี จนสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เองที่ ลูซี ย่าของเธอยอมรับว่าเมอร์ซีกำลังจะถูก "ขโมย" ไปจากครอบครัวนี้

มาดอนนาที่บินมาที่เมืองไลลองวีด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้อธิบายเรื่องนี้กับครอบครัวของหนูน้อยพร้อมโน้มน้าวว่าวันหนึ่งเธอจะต้องกลับมาเยี่ยมที่หมู่บ้านแห่งนี้อย่างแน่นอน เพื่อไม่ให้เธอลืมรากเหง้าของตัวเอง

ซึ่งคำสัญญาดังกล่าวเป็นสิ่งที่เธอเคยใช้สมัยที่เธอรับเดวิดมาเป็นลูกเมื่อปี 2006 ว่าเขาจะได้รับการติดต่ออย่างต่อเนื่องกับนาย โยฮาเน ผู้เป็นพ่อ หลังจากที่แม่ของเดวิดเสียชีวิตตั้งแต่คลอดเขาออกมา

แต่การจากกันตั้งแต่เขาอายุเพียงแค่ 13 เดือน และเคยพบกันเพียงช่วงสั้นๆ อีกครั้งในปี 2007 การมาพบกันกับผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเดวิดในการมาเยือนบ้านเกิดของเขาครั้งนี้ คำแรกที่เขาพูดเมื่อได้เจอหน้าพ่อก็คือ "ฮัลโล คุณคือใคร"

การสนทนาของพ่อลูกที่พบกันครั้งแรกในรอบปีครั้งนี้ต้องผ่านล่าม เมื่อโยฮาเนพูดได้แต่ภาษาชิเชวา และเดวิดเข้าใจแต่ภาษาอังกฤษ

"โยฮาเนเข้าใจดีว่าทำไมเดวิดถึงจำเขาไม่ได้ เขาเป็นเพียงแค่เด็กทารกเมื่อตอนที่จากไป โยฮาเนเองก็แทบจะจำเขาไม่ได้เหมือนกัน เพราะเขาตัวโตและแข็งแรงขึ้นมาก มันเป็นการนัดพบที่แสนจะตื้นตันของโยฮาเน ส่วนเดวิดก็เล่นจมูกของเขาตลอด นั่นทำให้เขาหัวเราะไม่หยุด"

ซึ่งกว่าพ่อลูกคู่นี้จะมาได้เจอกันอีกคงต้องรอนานเป็นปี

การพบกันครั้งนี้เกิดขึ้นที่โรงแรม Kumbali Country Lodge อันแสนหรูที่มาดอนนาพาลูกแท้ๆ อย่าง ลอร์เดส ลูกสาววัย 12 และ ร็อคโค ลูกชายวัย 8 ขวบ และเดวิด วัย 3 ขวบครึ่งมาพักด้วยกัน เช่นเดียวกับว่าที่ลูกสาวคนใหม่อย่าง เมอร์ซี เจมส์ ที่เธอถูกรับตัวมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจากเมือง แบลนไทร์ ทางตอนใต้ของประเทศมาลาวี ซึ่งเดวิดและเมอร์ซีก็ได้ทำความรู้จักกันครั้งแรกจากการเล่นกันประสาเด็กที่สวนหน้าโรงแรมแห่งนั้น

แม้ว่าเมอร์ซีจะกำพร้าทั้งพ่อและแม่ เมื่อแม่วัย 18 ของเธอเสียชีวิตไม่กี่วันหลังจากให้กำเนิดเธอ และพ่อที่หายไปหลายปีก็เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้วเช่นกัน แต่เธอก็มีครอบครัวที่ดูแลโดยลุงและย่า ที่ออกมาคัดค้านการขอรับเธอไปเลี้ยงโดยมาดอนนาตั้งแต่แรกเริ่ม ที่เห็นว่าประเทศอันยากไร้แห่งนี้มีเด็กที่กำพร้านับล้าน มันไม่มีเด็กกำพร้าซักคนเลยหรือที่ไม่มีครอบครัวที่จะต้องมานั่งเสียใจจากการเสียสมาชิกตัวน้อยไป

และความโด่งดังของมาดอนนาก็ไม่มีผลต่อพวกเขาด้วย เพราะที่พักอาศัยที่เป็นกระท่อมในหมู่บ้านของพวกเขาไม่มีทั้งวิทยุและโทรทัศน์ อย่างเดียวที่พวกเขารู้ก็คือเธอเป็นเพียงผู้หญิงที่ร่ำรวยจากอเมริกาที่จะพาตัวเด็กสาวไปจากครอบครัวของพวกเขา ซึ่งขณะที่พวกเขากำลังรอฟังคำสั่งศาลที่จะมาถึงในวันศุกร์นี้โดยไม่มีแม้แต่คนให้ความรู้ทางกฏหมายสักคนเป็นที่ปรึกษา ต่างจากมาดอนนาที่มีทั้งทนายส่วนตัวและทีมกฏหมายที่มาลาวีคอยดูแลขบวนการทั้งหมดอย่างพร้อมเพรียง