“เอ ศุภชัย” แจงข่าว “เวียร์” ชิ่งซบตักแม่แพนเค้ก ฟุ้งความสัมพันธ์แน่นปึ้กเกินกว่าจะคิดเรื่องฉกเด็ก เผย พระเอกดังเซ็นสัญญากับเฉพาะช่อง 7 แต่กับตนเป็นเรื่องของสัญญาใจ ก่อนออกปากยอมรับเครียดกับข่าวฉาวๆ ที่ออกมา
ก่อนหน้านี้ มีแต่ข่าวตกเป็นจำเลยไปแย่งเด็กๆ คนอื่นมา ทว่า ล่าสุด ผู้จัดการดาราอย่าง “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร" ก็ต้องมาอยู่ในสถานะของคนที่ถูกแย่งบ้างแล้ว หลังมีข่าวออกมาในทำนองที่ว่าพระเอกดัง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” อยากจะได้ "หน่อย นวลนงค์ จามิกรณ์” มารดานางเอกสาว “แพนเค้ก เขมนิจ” มาดูแลคิวงานให้
เมื่อสอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้จัดการดาราจอมอื้อฉาว เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า...“กระแสข่าวที่น้องเวียร์จะให้แม่น้องแพนเค้กดูคิวให้ พี่เอเพิ่งทราบมาเหมือนกัน คือ จริงๆ พี่เอก็เป็นลูกคนหนึ่งของแม่น้องแพนเหมือนกัน ก็เคยคุยกับท่านว่า แม่ครับ ถ้าเราแก่ตัวไปเราคงต้องซื้อบ้านติดๆ กัน”
“เราจะได้ดูแลกันและกัน เพราะทุกวันนี้เวลาทำกับข้าวก็ต้องตักใส่ถุงให้แม่น้องแพนทุกครั้ง ซึ่งความผูกพันตรงนี้มันมากกว่าที่เราจะมาคิดว่าฉกเด็กกันแล้วพี่เอว่านะครับ”
เผยสัญญาระหว่างตนกับพระเอกหนุ่มเป็นสัญญาใจ พร้อมยืนยันไม่ตกใจกับข่าวที่ออกมา
“พี่เอไม่ตกใจกับข่าวนะ เพราะมันก็มีข่าวอย่างนี้เรื่อยๆ เวียร์กับพี่ไม่เคยคุยกันเรื่องนี้เลยครับ เพราะน้องเขาก็อยู่บ้านเดียวกับพี่ บางทีก็อยู่คอนโดเขาบ้าง มันไม่มีอะไรในใจที่จะต้องคุยกัน คือ เราไว้ใจกัน จนเรื่องนี้มันไม่ใช่ปัญหาที่เราจะต้องเคลียร์ครับผม”
“สัญญาเราก็ไม่ได้เซ็นตั้งแต่แรกแล้ว เรามีแค่สัญญาใจกันเท่านั้น (เวียร์เปลี่ยนไปมั้ย?) ไม่ครับ เขาก็เหมือนต้นไม้ที่แรกๆ เพิ่งปลูกก็ยังไม่รู้ว่าทนแดดทนฝนหรือเปล่า แต่ตอนนี้พี่เอว่าน้องเขาโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก รับผิดชอบตัวเอง พี่เอรู้สึกว่าเขาเป็นต้นไม้ที่แข็งแรง พี่เอซะอีกที่ไม่มีเวลาดูแลเขาเพราะพี่เอเองก็ต้องไปดูแลคนอื่นๆ"
ผู้จัดการชื่อดังยังบอกต่อไปด้วยว่าทางมารดาของนางเอกสาวนั้น ไม่เคยเข้ามายุ่งกับคิวของพระเอกหนุ่มแต่อย่างใด ก่อนออกปากยอมรับที่ผ่านมารู้สึกเครียดกระทั่งต้องไปแสวงบุญที่อินเดีย
“คือ บางทีมีลูกค้าอยากได้คนที่มีคาแรกเตอร์ที่ตรงกับเด็กๆ ของพี่เอ คุณแม่ก็จะเอาเบอร์พี่เอให้กับลูกค้า ก็เหมือนกับช่วยเหลือกันมากกว่า ตอนนี้พี่เอก็ยังเป็นผู้ดูแลคิวให้น้องเวียร์อยู่ พี่กับน้องเวียร์เซ็นสัญญาใจตั้งแต่น้องเวียร์เข้าวงการแล้ว คือ น้องเค้าเซ็นสัญญากับช่อง 7 อย่างเดียว แต่กับพี่เอเขาอยู่กันด้วยใจ”
“พี่เอเพิ่งกลับมาจากอินเดียพอดีไปแสวงบุญ ก็ไม่ได้รับรู้ข่าวสารอะไรเลย ได้ไปนั่งสมาธิใต้ต้นโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ซึ่งรู้สึกดีมากอยากให้หลายๆ คนได้ไป เหมือนกับว่าพระพุทธเจ้าท่านเจออะไรมาเยอะมาก ทำให้เราได้เรียนรู้ในจุดนั้น ทำให้เราปลงขึ้นมาก”
“แต่เรายังเป็นมนุษย์อยู่ เราต้องดำรงตัวเองเพื่ออยู่ได้ แต่คือเราก็เอาหลักของท่านมาใช้ (เครียดกับข่าวที่ออกมา?) เครียดครับ ยอมรับว่าเครียดกับข่าวจริงๆ ครับ”
