"ไมเคิล แจ็คสัน" ได้ประกาศต่อหน้านักข่าวและแฟนเพลงที่อังกฤษเมื่อพฤหัสบดีที่ผ่านมา ถึงเปิดการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกในรอบหลายปี ที่จะเป็นการเปิดการแสดงครั้งสุดท้ายที่ลอนดอน ซึ่งรายได้จากทัวร์นี้น่าจะปลดหนี้ให้เขาได้บางส่วน ท่ามกลางข้อกังขาถึงความเป็นไปได้ของงานครั้งนี้จากสภาพร่างกายของเขาเอง
ไมเคิล แจ็คสัน นักร้องชื่อดังวัย 50 ได้เดินทางไปประกาศข่าวครั้งนี้ด้วยตัวเองที่กรุงลอนดอนเมื่อวานนี้ โดยมีผู้สื่อข่าวและแฟนเพลงคอยต้อนรับการปรากฏตัวในฐานะศิลปินอีกครั้งกันอย่างอบอุ่น
โดยไมเคิลได้ประกาศข่าวดีต่อแฟนๆ ที่อยู่นั่นว่า เขาจะเปิดการแสดงที่สนาม O2 สนามยักษ์ใหญ่ในกรุงลอนดอนติดต่อกัน 10 วันตั้งแต่วันที่ 8 ก.ค.นี้ ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการมาเปิดการแสดงครั้งสุดท้ายที่ลอนดอนของเขาด้วย
ไมเคิลที่มาสายกว่าเวลานัดเป็นชั่วโมง ได้ปรากฏตัวบนเวทีในชุดเครื่องแบบที่คุ้นตาสมัยยังโด่งดัง และแลดูมีชีวิตชีวากว่าภาพที่ตกเป็นข่าวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขากล่าวทักทายแฟนๆ ที่ยังคงส่งเสียงโห่ร้องยินดีเมื่อพบตัวเป็นๆ ของเขาอยู่เช่นเดิม
"ขอบคุณทุกๆ คน มันต้องอย่างนี้ ผมอยากจะบอกว่านี่จะเป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่ลอนดอน เมื่อผมพูดว่าต้องเป็นอย่างนี้ มันก็ต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ ผมจะร้องเพลงที่แฟนๆ อยากจะฟัง มันต้องอย่างนี้ มันต้องเป็นอย่างนี้จริงๆ และผมจะพบกับพวกคุณในเดือนก.ค. และผมรักคุณจริงๆ พวกคุณต้องรู้ มันมาจากก้นบึ้งหัวใจของผม"
แม้จะมาประกาศเปิดการแสดงด้วยตัวเอง แต่หลายฝ่ายก็เป็นกังวลว่าคอนเสิร์ตที่ว่านี้อาจจะล่มเอาก่อนจะจัดก็เป็นได้ เนื่องจากปัญหาทางด้านสุขภาพมากมายที่เป็นข่าวออกมาก่อนหน้านี้ของเขา จนทางบริษัทรับพนันแบบถูกกฏหมายของอังกฤษอย่าง William Hill ได้ออกอัตราต่อรองเอาไว้ที่ 5-1 ว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้อาจจะไม่จบตั้งแต่รอบแรก
แต่แหล่งข่าวเผยว่า AEG บริษัทนายทุนของสหรัฐฯ เจ้าของสนาม O2 และผู้จัดคอนเสิร์ตครั้งนี้ได้เตรียมสร้างความมั่นใจให้กับงานนี้ด้วยการส่งไมเคิลไปตรวจสุขภาพเพื่อยืนยันความพร้อมของร่างกายมาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่ผู้จัดจะจรดปากกาเซ็นสัญญาสร้างคอนเสิร์ตที่จะเป็นประวัติศาสตร์ครั้งนี้ และทาง AEG จะได้เงินประกันก้อนโตถ้าเกิดไมเคิลเกิดล้มป่วยกะทันหันและไปขึ้นแสดงไม่ได้จริงๆ
"คอนเสิร์ตครั้งนี้จะต้องเป็นอะไรที่สุดยอด ไมเคิลจะต้องทั้งร้องทั้งเต้น ซึ่งเขาจะต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมจริงๆ ไม่งั้นคงไม่มีใครกล้าจัดแน่ๆ และเราได้ประกันเอาไว้แล้ว"
"มันจะเป็นเหตุการณ์ทางดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งทศวรรษ เราเคยได้เห็นการกลับมาของ Spice Girls และ Led Zeppelin มาแล้ว แต่นี่มันคนละเรื่องกันเลย" แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับทางผู้จัดกล่าว
การแสดงครั้งสุดท้ายที่ลอนดอนของไมเคิลที่งาน World Music Awards เมื่อปี 2006 จบลงด้วยเสียงวิจารณ์ในด้านลบ เมื่อเขามาร่วมร้องเพลง We Are The World ด้วยเสียงที่ย่ำแย่เพียงไม่กี่ท่อนในท้ายเพลงเท่านั้น ที่ทำให้บางฝ่ายคิดว่าไมเคิลเสี่ยงที่จะเอาชื่อเสียงมาทิ้งกับทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้มากกว่า
แต่ฝ่ายที่คิดว่าครั้งนี้จะเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของเขาก็ชี้ว่า ทีนา เทอร์เนอร์ ในวัย 69 ที่มาเปิดแสดงการที่ O2 มาแล้ว ก็ขายบัตรได้หมดเกลี้ยงและหอบเสียงวิจารณ์กลับไปท่วมท้น และคงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ศิลปินที่อายุน้อยกว่าถึง 20 ปีอย่างไมเคิลจะทำได้เช่นกัน
"แน่นอน มันคุ่มค่า ครอบครัวฉันคลั่งไมเคิลกันหมด เขายอดเยี่ยมที่สุด" แฟนเพลงสาววัย 21 ที่มาร่วมงานแถลงข่าววันนั้นเปิดใจ พร้อมระบุว่าข่าวด้านลบที่ออกมาในช่วงหลังที่โจมตีเรื่องสุขภาพของตัวไมเคิลเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมต่อตัวศิลปินเลย
"วงการสมัยนี้มีแต่พวกเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ พวกนั้นจากไปโดยไม่ได้ทิ้งอะไรไว้ แต่เมื่อเป็นไมเคิล มันแตกต่าง"
โดยคาดกันว่าไมเคิลน่าจะทำเงินจากการแสดงในสนามที่มีความจุแฟนเพลงได้ 20,000 คนไปคืนละ 5 ล้านปอนด์ (350 ล้านบาท) ที่เป็นเงินที่จำเป็นสำหรับการชดใช้หนี้หลายสิบล้านปอนด์ในปัจจุบันของเขา
ตอนนี้ไมเคิลได้พักอาศัยอยู่ในแมนชั่นที่เบลแอร์ ด้วยราคาค่าเช่าเดือนละ 5 หมื่นปอนด์ (3.5 ล้านบาท) ขณะที่สมบัติหลายพันชิ้นที่บ้านเก่าของเขาที่ Neverland Ranch กำลังถูกนำออกมาประมูลในเดือนหน้า แต่เมื่อคืนที่ผ่านมาไมเคิลได้เรียกร้องต่อศาลเพื่อยุติการเลหลังดังกล่าว ซึ่งสมบัติหลายชิ้นที่ว่าได้แก่ รางวัล American Music Award สำหรับผลงานชุด Thriller และเสื้อคลุมกำมะหยี่ที่ลูกๆ ของเขามอบเป็นของขวัญในวันพ่อเมื่อปี 1998
ในสำนวนที่ยืนต่อศาลระบุว่าสมบัติหลายชิ้นนั้นเป็น "ของที่ประเมินค่าไม่ได้และหาสิ่งใดมาทดแทนไม่ได้" และกล่าวว่าการพยายามขายสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ "มุ่งร้าย, ฉ้อโกง, ฝ่าฝืน และไม่มีความเป็นธรรมตามกฏหมายแม้แต่น้อย"
ไมเคิล แจ็คสัน ได้รับฉายา ราชาเพลงป็อป จากยอดขายอัลบั้มทั่วโลกรวมกันกว่า 750 ล้านชุด โดยมี Thriller เป็นอัลบั้มที่ขายดีที่สุดตลาดกาล
ไมเคิลโชว์ความฟิตในงานแถลงข่าว