ขณะที่ Slumdog Millionaire ภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดชีวิตของเด็กสลัมในอินเดียอย่างถึงแก่นกำลังกอบโกยชื่อเสียงและเงินทองอย่างเป็นกอบเป็นกำอยู่ในขณะนี้ แต่ใครจะรู้ว่าองค์ประกอบที่สำคัญของผลงานชิ้นนี้อย่างนักแสดงเด็กของเรื่อง ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาอาจจะยังไม่ได้ห่างไกลจากความยากไร้ที่พวกเขาถ่ายทอดเอาไว้ในเรื่องเท่าใดนัก
อัซฮารุดดิน อิสมาอิล เด็กชายวัย 10 ขวบ และ รูบินา อาลี เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่แสดงเป็น ซาลิม และ ลาติกา คู่หูวัยเด็กของตัวเอกในเรื่อง Slumdog Millionaire ต่างก็อาศัยย่านเสื่อมโทรมของเมืองมุมไบเป็นที่พักพิงเหมือนกับตัวละครที่พวกเขาแสดง ซึ่งทางสื่อ Telegraph ได้เปิดเผยว่า เด็กชายได้ค่าตัวจากการเล่นในเรื่องนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 84,000 บาท ส่วนเด็กหญิงที่เล่นน้อยกว่าได้เงินไปเพียง 25,000 บาทเท่านั้น
ขณะที่ทางค่ายหนัง Fox Searchlight ได้ออกมาโต้แย้งรายงานตัวเลขดังกล่าว โดยเผยว่าเงินที่จ่ายให้เด็กๆ นั้นมากเป็น 3 เท่าของรายได้ทั้งปีของผู้ใหญ่ที่อาศัยอยู่ในสลัมเหล่านั้น ทั้งมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาให้กับนักแสดงเด็ก พร้อมรายได้พิเศษสำหรับซื้อหนังสือและอาหารให้แก่พวกเขา แต่กระนั้น บรรดาพ่อแม่ของเด็กกลับรู้สึกว่า การถูกเสนอชื่อชิง 10 รางวัลออสการ์และการทำเงินรอบโลกไปแล้ว 85 ล้านเหรียญ (เกือบ 3,000 ล้านบาท) ชื่อเสียงที่เริ่มเพิ่มพูนเหล่านี้ไม่ได้ส่งผลมาถึงครอบครัวของพวกเขาเลย
ตามรายงานแจ้งว่า ชีวิตอัซฮารุดดินกลับย่ำแย่กว่าก่อนที่เขาจะได้เล่นหนังเรื่องนี้เสียอีก เมื่อกระท่อมที่สร้างอย่างผิดกฏหมายในสลัมแห่งนั้นได้ถูกทางการรื้อถอนไปแล้ว ตอนนี้เขาจึงต้องอาศัยหลับนอนอยู่ในเต็นท์พลาสติกร่วมกับพ่อผู้ป่วยเป็นวัณโรค
"ตอนนี้เงินเหล่านั้นมันหมดไปแล้ว มันถูกใช้ไปกับยารักษาโรคเพื่อช่วยให้ผมต่อสู้กับวัณโรค เรารู้สึกเหมือนกับว่าเด็กๆ เหล่านี้ถูกละเลย พวกเขาบอกเราว่ามันมีกองทุนช่วยเหลือแต่เราไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับมันและไม่มีอะไรมายืนยัน" พ่อของอัซฮารุดดินกล่าว
ทางด้านเด็กหญิงรูบินายังโชคดีกว่าหน่อยที่ทุกวันนี้เธอยังไม่ถูกรื้อกระท่อมของเธอออกไป แต่ชีวิตที่ต้องอยู่ร่วมกับพ่อแม่และพี่ชายพี่สาวด้วยความยากไร้เริ่มจะส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวของเธอ เมื่อกำลังหลักของครอบครัวอย่างผู้เป็นพ่อที่ขาหักระหว่างถ่ายทำหนังจนไม่สามารถกลับไปทำงานเป็นช่างทาสีได้ ซึ่งตัวเขาเผยว่าไม่มีใครบอกเขาว่าดาราเด็กควรจะได้ค่าตัวเท่าไหร่กับภาพยนตร์ที่ออกฉายไปทั่วโลกอย่างเรื่องนี้
"ผมดีใจมากที่หนังเรื่องนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี แต่ยิ่งหนังดังและทำเงินมากเท่าไหร่ สิ่งที่เราได้รับคือความว่างเปล่า พวกเขาควรจะจ่ายมากกว่านี้ ผมไม่เคยเสียใจกับมัน ผมแค่ไม่รู้ว่าลูกสาวของผมควรจะได้รับค่าแรงที่เหมาะสมเท่าไหร่" พ่อของรูบินากล่าว
รูบินา อาลี เผยว่า ฟรีดา ปินโต นางเอกสาวของเรื่องที่รับบทเป็นลาติกาตอนโตคือนางเอกขวัญใจของเธอ "หนูอยากดังเหมือนฟรีดา หนูอยากจะขอร้องให้คุณลุงแดนนี (ผู้กำกับ แดนนี บอยล์) พาหนูไปลอนดอนและเล่นหนังอีก"
Fox Searchlight ออกมายืนยันว่าทางสตูดิโอให้การดูแลความเป็นไปของเด็กทั้งสองเป็นอย่างดี
"ความเป็นอยู่ของอัซฮาและรูบินาอยู่ในความสนใจสูงสุดของทุกๆ คนที่เกี่ยวข้องกับ Slumdog Millionaire มันมีการวางแผนเอาไว้กว่า 12 เดือนที่แล้วเพื่อความมั่นใจว่าประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับจาก Slumdog Millionaire จะเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืน ด้วยการทำงานเพียง 30 วันพวกเขาหาเงินได้มากเป็น 3 เท่าของรายได้ทั้งปีของผู้ใหญ่ เมื่อปีก่อนตอนที่ปิดกล้อง เราได้พาเด็กเข้าโรงเรียนเป็นครั้งแรก และมีการตั้งกองทุนเพื่ออนาคตของพวกเขา พวกเขาจะได้รับมันถ้าเขายังคงเรียนหนังสืออยู่ตอนที่พวกเขาอายุ 18"
"ในช่วงที่สื่อกำลังพุ่งความสนใจมาสู่เราอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้ เราต้องเพิ่มการปกป้องอัซฮาและรูบินาและครอบครัวของพวกเขามากเป็นเท่าตัว เรารู้สึกภูมิใจกับภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมาก และภูมิใจต่อสิ่งที่ดาราเด็กของเราได้รับ"
ทางด้านผู้กำกับ แดนนี บอยล์ และผู้อำนวยการสร้างของเรื่องนี้ได้ออกมาปกป้องมาตรการณ์ที่พวกเขาเตรียมไว้กับพวกเด็กๆ ว่า "พวกเราใช้ความพยายามอย่างสูงเพื่อมั่นใจว่าสิ่งที่อัซฮาและรูบินาทุ่มเทลงไปในผลงานชิ้นนี้จะกลายเป็นผลประโยชน์ของพวกเขามากกว่าค่าแรงที่พวกเขาได้รับจากการแสดง ตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปี 2008 เป็นต้นมา เด็กทั้งสองได้เข้าไปเรียนหนังสือและกำลังพัฒนาภายใต้การสั่งสอนของครูที่เอาใจใส่ เราต่างยินดีที่ได้เห็นพัฒนาการของพวกเขาตอนที่พวกเราไปเยี่ยมที่โรงเรียนและพบกับครูของพวกเขาเมื่อสัปดาห์ก่อน"
